PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ถ้ายังกราบบังคมทูลได้ : วสิษฐ เดชกุญชร

ถ้ายังกราบบังคมทูลได้ : วสิษฐ เดชกุญชร


ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม

ก่อนวันที่ 13 ตุลาคม ปีกลาย ข้าพระพุทธเจ้าทราบแล้วว่าพระอาการประชวรของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทหนักมาก และได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้สำหรับสิ่งที่จะเป็นข่าวที่ร้ายที่สุดในชีวิต แต่พอถึงเวลาหลังบ่ายสามโมงวันนั้น และมีผู้โทรศัพท์มาบอกว่าเสด็จสวรรคตแล้ว ข้าพระพุทธเจ้าก็ทำใจไม่ได้ ข้าพระพุทธเจ้าไม่ได้ร้องไห้โฮออกมาอย่างคนอื่นอีกหลายล้านคน แต่ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ ไม่สามารถแม้แต่พูดกับคนในครอบครัวได้ เพราะถ้าพูดก็คงจะสะอึกสะอื้นและลงท้ายก็อาจจะปล่อยโฮออกมาเหมือนกัน

ข้าพระพุทธเจ้ามีความรู้สึกเหมือนเรือที่เครื่องยนต์ดับและหางเสือถูกทำลายเสียหาย นึกไม่ออกว่าต่อไปนี้จะทำอย่างไรกับชีวิต และจะอยู่ได้อย่างไรเมื่อไม่มีใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสียแล้ว

หลังจากที่เขาเชิญพระบรมศพไปประดิษฐานที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแล้ว ทูลกระหม่อมน้อยได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าพระพุทธเจ้าไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในวันที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครั้งหนึ่งที่พระที่นั่งองค์นั้น ต่อมาข้าพระพุทธเจ้าก็ขอและได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้ไปเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลถวายครั้งหนึ่ง และร่วมไปกับเพื่อนที่เป็นเจ้าภาพอีกครั้งหนึ่ง
ทุกครั้งที่ขึ้นไปนั่งพนมมือฟังพระสวดบนพระที่นั่ง ข้าพระพุทธเจ้าต้องซ่อนและกลืนน้ำตา เพราะความวิปโยคที่ไม่สามารถจะอธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจได้

ข้าพระพุทธเจ้าเคยตามเสด็จไปที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทหลายครั้ง และพระที่นั่งองค์นั้นเป็นที่ประกอบพระราชพิธีพระราชทานตราจุลจอมเกล้าแก่ข้าพระพุทธเจ้าสองครั้ง ข้าพระพุทธเจ้าหลับตาเห็นใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทขณะกำลังทรงประกอบพระราชพิธีอันมีความหมายที่สุดสำหรับชีวิตของข้าพระพุทธเจ้า และเมื่อนึกถึงพระราชพิธีนั้นแล้ว ข้าพระพุทธเจ้าก็นึกเลยไปถึงโอกาสอื่นๆ ที่ได้ตามเสด็จ และได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท

ข้าพระพุทธเจ้านึกถึงบ่ายวันที่ 22 กันยายน ปี 2520 เมื่อเกิดระเบิดขึ้นที่หน้าพลับพลาที่ประทับในสวนสาธารณะสนามโรงพิธีช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ขณะที่กำลังพระราชทานธงประจำรุ่นแก่ลูกเสือชาวบ้าน ข้าพระพุทธเจ้าไม่เคยลืมว่าขณะที่คนอื่นกำลังอกสั่นขวัญหายและวิ่งหนีอยู่กระเจิดกระเจิงนั้น ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงดำรงพระสติได้อย่างมั่นคงและทรงสามารถพระราชทานพระราชดำรัสด้วยพระสุรเสียงที่เป็นปกติ เพราะพระราชดำรัสองค์นั้นแท้ๆ ที่ทำให้ผู้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสงบลงและพระราชกรณียกิจดำเนินต่อไปได้

ข้าพระพุทธเจ้านึกถึงดอยน้อยใหญ่ในภาคเหนือที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไปทรงเยี่ยมและพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎรชาวเขา และข้าพระพุทธเจ้ามีบุญได้ตามเสด็จถวายความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด นึกถึงบ้านแม่สาใหม่ที่ตั้งอยู่บนลาดเขา สูงชัน จนข้าพระพุทธเจ้าและพี่เทียนชัย (พล.อ.เทียนชัย จั่นมุกดา รองสมุหราชองครักษ์) เหนื่อยหอบจนไม่สามารถจะเดินนำได้ ต้องหยุดและปล่อยให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จฯล่วงหน้าขึ้นไปก่อนพร้อมด้วยท่านภีศเดช (ม.จ.ภีศเดช รัชนี ผู้อำนวยการโครงการหลวง)

ข้าพระพุทธเจ้านึกถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2517 เมื่อเสด็จฯไปทรงเยี่ยมราษฎรกะเหรี่ยงบ้านท่าฝั่ง บนดอยอินทนนท์ ในเขตอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ นึกถึงการเดินเท้าตามเสด็จครั้งที่ระหกระเหินที่สุดครั้งหนึ่ง นึกถึงเมื่อข้าพระพุทธเจ้าโกรธท่านภีศเดชที่เชิญเสด็จให้ทรงพระดำเนิน (เดิน) ต่อไปเพื่อทอดพระเนตรไร่กาแฟของราษฎร ซึ่งมีกาแฟอยู่เพียงต้นเดียว นึกถึงเมื่อความทราบถึงพระกรรณและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าพระพุทธเจ้าเข้าเฝ้าฯ ที่โต๊ะเสวยในค่ำวันนั้น แล้วทรงพระกรุณาพระราชทานพระบรมราชาธิบายให้ข้าพระพุทธเจ้าหายโง่ว่ากะเหรี่ยงไม่เคยและเพิ่งทดลองปลูกกาแฟเป็นครั้งแรก และการที่ปลูกได้ต้นหนึ่งนั้นถือว่าเป็นความก้าวหน้าของกะเหรี่ยง

พระอัจฉริยภาพ พระมหาเมตตา และพระมหากรุณาที่ทรงมีแก่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศนั้นเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์และปลาบปลื้มสำหรับข้าพระพุทธเจ้าตลอดเวลาที่ข้าพระพุทธเจ้าได้รับใช้พระยุคลบาท และแม้เมื่อข้าพระพุทธเจ้าพ้นหน้าที่นายตำรวจราชสำนักประจำออกมาแล้ว บัดนี้เมื่อเสด็จสู่สวรรคาลัยเสียแล้ว ใครจะเป็นคนทำต่อ? และราษฎรจะได้ใครเป็นที่พึ่งอย่างใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท?

วันพฤหัสบดีที่ 26 เดือนนี้ ข้าพระพุทธเจ้าเลือกที่จะไม่ไปถวายพระเพลิงพระบรมศพ เพราะรู้ว่าบรรยากาศไม่เหมาะกับวัยและสุขภาพของข้าพระพุทธเจ้า แต่ข้าพระพุทธเจ้าจะไปปฏิบัติธรรม ด้วยการสวดมนต์ทำสมาธิถวายเป็นพระราชกุศลตั้งแต่วันที่ 15 จนถึงวันที่ 27

ขอกุศลบุญราศีที่ข้าพระพุทธเจ้าบำเพ็ญมาตลอดชีวิต จงเป็นพลวปัจจัย ดลบันดาลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระเกษมสำราญและทรงพระเจริญ ไม่ว่าในขณะนี้จะทรงสถิตอยู่ ณ ที่ใด ในภพใด รูปใด และนามใด และหากเป็นพระราชประสงค์ก็ขอให้ทรงบรรลุถึงพระนิพพาน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ข้าพระพุทธเจ้า พลตำรวจเอกวสิษฐ เดชกุญชร

ไม่มีความคิดเห็น: