
เสียงของหนึ่งในชาวบ้านที่ร่วมคณะอธิบดีกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง นำประชาชนที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้าพบ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล
“ลุงตู่” เป็นพรีเซ็นเตอร์แสดงเอง งานอีเวนต์การตลาดโชว์ของเต็มที่
ในสถานการณ์ที่ “บัตรคนจน” กำลังติดลมบนอยู่ในกระแสการรับรู้ของชาวบ้าน
สะท้อนว่ารัฐบาล “ลุงตู่” ชกได้ตรงเป้า เข้าจุดโฟกัส “คนจน” กระจายเงินถึงมือประชาชนฐานราก
ตามจังหวะที่เจ้าของไอเดียอย่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ สั่งให้กระทรวงการคลังหาทางเพิ่มยอดเงินต่อเดือนของประชาชนในต่างจังหวัด โดยตัดจากค่ารถเมล์ ขสมก.และรถ บขส.ที่ชาวบ้านไม่ค่อยได้ใช้จริงในชีวิตประจำวัน มาเพิ่มในส่วนของการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคแทน
เดินแผนยุทธศาสตร์รีบตีเหล็กกำลังร้อน เพิ่มแรงอัดฉีดต่อเนื่อง
รวมถึงเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจัดทำโครงการประชารัฐร่วมใจเพื่อลดต้นทุนการผลิตข้าวให้กับเกษตรกรชาวนา ฤดูกาลเก็บเกี่ยว 2560/2561 ตามรูปแบบการช่วยเหลือให้เงินเป็นค่าใช้จ่ายรถเกี่ยวนวดข้าวแก่ชาวนาในภาคอีสาน อัตราไร่ละ 200 บาท รายละไม่เกิน 10 ไร่
ใช้สารพัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
อุ้มคนยากคนจน
แน่นอนไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ แต่คะแนนไหลเข้าหน้าตักรัฐบาลเต็มๆ
และตามรูปเกม พล.อ.ประยุทธ์กับนายสมคิดก็รอรับแรงกระแทกหนักๆได้ โดยฟอร์มของนักการเมืองอาชีพทั้งยี่ห้อเพื่อไทยและค่ายประชาธิปัตย์จะต้องดาหน้าออกมาเตะสกัด ตัดขาโครงการบัตรคนจน ดิสเครดิตฝีมือการแก้ปัญหาปากท้องของรัฐบาลไม่ได้ผล
ภายใต้สมมติฐานว่า นี่คือการตุนแต้มทางการเมือง
เป็นเรื่องที่ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลวางหมาก ปูทางหาเสียงล่วงหน้าให้ “นายกฯลุงตู่”
ดูแล้วนักเลือกตั้งอาชีพไม่ปล่อยให้ตีกินแต้มกันง่ายๆแน่
ยิ่งเป็นอะไรที่สัญญาณชัด หลังจาก “บิ๊กตู่” ประกาศให้ได้ยินกันไปทั่วโลก เดือนมิถุนายนปีหน้า 2561 จะประกาศวันเลือกตั้ง และเข้าคูหากาบัตรกันในเดือนพฤศจิกายนปลายปี
ปี่กลองเชิดฉิ่งโหมโรงแต่หัววัน หลังพระราชพิธีสำคัญ การเมืองน่าจะเข้าสู่โหมดเตรียมเลือกตั้งเต็มรูปแบบ
นั่นหมายถึงแรงเสียดทาน “นายกฯลุงตู่” จะต้องยกระดับขึ้นตามเงื่อนไขสถานการณ์
ไม่ว่าจะเล่นการเมืองหรือไม่ แต่โดนการเมืองเล่นแน่
และตามฉากหนังตัวอย่างโหดๆ ชะตากรรมของคนที่เล่นการเมืองแล้วโดนการเมืองเล่น
กรณีของ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุงพรรคเพื่อไทย ที่เพิ่งสะดุดหัวคะมำจากกิจกรรม “แห่ดอกดาวเรือง”
เจอเสียงโห่ฮาเดินแต้มการเมืองไม่ถูกกาลเทศะ
เป็นปรากฏการณ์แรงกระแทกตามสถานะ “ขุนอาสา” รับตำแหน่งแม่ทัพค่ายเพื่อไทย
ช็อตนี้ แม้ “เจ๊หน่อย” ออกมาแถลงขอโทษ ยืนยันว่าไม่มีอะไรแอบแฝง แต่ก็เสียอาการทรงตัวไปเยอะ
นั่นไม่เท่ากับว่า โดยจังหวะที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นคนที่ออกมาว้ากใส่เจ้าแม่เมืองหลวงพรรคเพื่อไทย ดุเสียงเขียว ให้ใช้ดุลพินิจมั่ง เหมาะสมหรือไม่ เอาชื่อตัวเองมาหาเสียงทำไม่ได้
มันก็เป็นอะไรที่ชัดเจนตามรูปการณ์หักมุมกับที่มีกระแสวิเคราะห์ความเป็นไปได้ก่อนหน้านี้ว่า “เจ๊หน่อย” ได้รับธงจาก “นายใหญ่” เป็นตัวประสานกับท็อปบูตผ่านทาง “บิ๊กป้อม”
แต่ก็อย่างที่เห็นๆ อาการ “พี่ใหญ่” โซ้ย “เจ๊หน่อย” แบบไม่ไว้หน้า
จบข่าว ปิดฉากกระแสปั่นราคาหุ้นเลย.
ทีมข่าวการเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น