PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ตำบลต่อไป ‘สมคิด’ !!!

ตำบลต่อไป ‘สมคิด’ !!!


“เท้งเต้ง” ลุ้นกันยาวๆไป กับสัญญาณจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ที่ออกมายืนยันแค่ว่า การปรับ ครม.จะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้แน่

และมันก็ยากที่ “บิ๊กตู่” จะบอกให้สื่อเลิกคาดเดาโผ ครม.

ในเมื่อสถานการณ์ “กำกวม” โผ ครม. ครม.มั่วก็ยังจะปลิวว่อนอยู่บนหน้ากระดานสื่อกระแสหลัก นักข่าวก็คงจะล้วงควัก ข่าวกรองบ้างไม่กรองบ้างเอามาแข่งกันบนหน้าหนังสือพิมพ์รายวัน

ตามธรรมชาติของปมที่สังคมสนใจ ข่าวปรับ ครม.เรตติ้งกระฉูด

อย่างไรก็ตามถึงจุดนี้ หลายคำถามก็มีคำตอบออกมาแล้ว แกะรอยจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้แพลมๆแบบตัดความรำคาญเลยว่า “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กับ “พี่รอง” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ยังนิ่งอยู่ในคณะรัฐมนตรี

ไม่มีการขยับตามแรงเขย่าจากทุกทิศทุกทาง

นั่นก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ “บิ๊กตู่” ได้ตอบโจทย์ยากสุดในการตัดสินใจปรับ ครม.รอบนี้แล้ว เมื่อเทียบแรงกดดันอย่างหนักจากกระแสสังคม ผสมกับสัญญาณคลื่นความถี่สูงที่แทรกเข้ามาเป็นระยะ ล็อกเป้าไปที่ “พี่ใหญ่–พี่รอง” ตามท้องเรื่องร้อนๆฉาวๆที่มีมาอย่างต่อเนื่อง

แต่เมื่อบวกลบคูณหาร ชั่งน้ำหนักระหว่าง “ความเป็นทีม” ที่พี่น้องร่วมเป็นร่วมตายกันมาตั้งแต่ต้น กับการโชว์เดี่ยวโดยต้นทุนของ “นายกฯลุงตู่” ที่ไม่รู้ว่าจะเจออะไรข้างหน้า

พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจเลือกเอาของชัวร์ไว้ก่อนดีกว่า กับการยื้อให้ “พี่ใหญ่” ผู้มากบารมีทุกวงการ ทั้งในกองทัพและขุมข่ายการเมือง ซึ่งนั่นยังไม่รวมถึงเรื่องของเนื้องานที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า งานในข่ายที่ พล.อ.ประวิตรรับผิดชอบ มีการขับเคลื่อนมากในลำดับต้นๆของรัฐบาล

ยังไง “บิ๊กตู่” ก็ต้องใช้ “พี่ใหญ่” ช่วยคัดท้ายจนกว่าจะตายกันไปข้าง

เช่นเดียวกับการไว้วางใจ “พี่รอง” คุมขุมข่ายข้าราชการพลเรือนในปีกมหาดไทย เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเลือกตั้งใหญ่ ไม่มีทางไว้ใจใครมากไปกว่าคนที่เสนอชื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็น ผบ.ทบ.

“3 พี่น้อง” รวมกันตายหมู่ ดีกว่าแยกกันอยู่เสี่ยงตายเดี่ยว

ขณะเดียวกัน โฟกัสรอบนี้การปรับเปลี่ยนชัดเจนน่าจะมุ่งไปที่รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของกัปตันทีมอย่าง “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี

ได้ “พื้นที่” ในการบริหารจัดการอำนาจมากกว่าขึ้นตามไฟต์บังคับ

จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเพื่อนรักของ “ลุงตู่” ยังอยู่ใน ครม.แต่ไม่รู้อยู่ตรงไหน

นั่นหมายถึงการตัดสินใจขยับจุดปัญหาเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ จากสถานการณ์ติดล็อกระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงพาณิชย์ ที่ติดๆขัดๆในการประสานงาน ทำให้การแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง พืช ผักผลไม้ไม่มีประสิทธิภาพ

เปิดคางให้นักการเมืองกระแทก ยั่วม็อบเขย่ารัฐบาล คสช.

การปลดล็อกกระทรวงเกษตรฯกับกระทรวงพาณิชย์ให้กัปตันทีมอย่าง “สมคิด” ได้ลุยแบบเต็มไม้เต็มมือ ก็ถือเป็นการทิ้งไพ่ใบสุดท้ายในมือของ “นายกฯลุงตู่”

หวังผลถึงการผลิตคะแนนเสียง ข้ามช็อตถึงการเลือกตั้ง

และนั่นก็คือภาระอันหนักอึ้งที่จะตกอยู่กับ “จอมยุทธ์กวง” ต้องถูก “ล็อกเป้า” ถล่มหนักขึ้นไปอีก

แบบที่เจ้าตัวเพิ่งประกาศจะทำให้คนจนหมดไปจากประเทศไทย ก็โดนนักการเมือง ขบวนการหมั่นไส้รัฐบาลเอาไปบลัฟอำในโซเชียลฯว่า “สมคิด” จะทำให้ “คนจนหมดทั้งประเทศไทย”

ไฟต์บังคับนักการเมืองต้องสกัดกัปตันทีมเศรษฐกิจทุกกระบวนท่า ตามสถานการณ์ที่ “สมคิด” กำลังตีธงเพิ่มแรงอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ซื้อใจชาวบ้านรากหญ้า และตามจังหวะยังโยงต่อเนื่องกับการปลดล็อกเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นทั้ง อบจ.และ อบต.เพื่อดึงงบประมาณนับแสนล้านกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

ตีกินแต้มให้ “ลุงตู่” หนีไม่พ้นแรงสะเทือนฐานเสียงของนักการเมืองป้อมค่ายเดิม

“สมคิด” โดนดักเจาะยางทุกจังหวะ แต่นั่นก็หักล้างด้วยตัวเลขอย่างเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้

แบบที่ล่าสุดนายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2560 เติบโต 4.3 เปอร์เซ็นต์ มากที่สุดในรอบ 18 ไตรมาส โดยมีแรงส่งสำคัญจากการส่งออกที่ขยายตัว 7.4 เปอร์เซ็นต์ สูงสุดในรอบ 19 ไตรมาส และการผลิตภาคอุตสาหกรรม ขยายตัว 4.2 เปอร์เซ็นต์ เติบโตสุดในรอบ 18 ไตรมาส ล้อไปกับการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่คงขยายตัวดี

ข่าวดีประเทศไทย แต่มันยิ่งเป็นภัยมหันต์กับ “สมคิด”.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: