PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ลุ้นปลดล็อก

ลุ้นปลดล็อก


ถึงแม้เป็นช่วงชุลมุนฝุ่นตลบ สถานการณ์ปรับ ครม. “ประยุทธ์ 5” ยังอยู่ในบรรยากาศอึมครึมไม่แจ่มใสนัก
แต่วันวาน “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ ควงคู่โชว์ตัวออกงานใหญ่

ร่วมลงเรือหลวง “ถลาง” เป็นประธานพิธีสวนสนามทางเรือนานาชาติ มหกรรมทางเรือนานาชาติ ในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียน กลางอ่าวพัทยา จ.ชลบุรี

ยิ่งใหญ่อลังการ มีเรือรบจำนวน 40 ลำ จาก 18 ประเทศ ร่วมพาเหรด แสดงแสนยานุภาพกระหึ่มท้องทะเล!!!

เห็นภาพ “นายกฯลุงตู่” และ “พี่ใหญ่บิ๊กป้อม” ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ ลงเรือลำเดียวกัน ในพิธีตรวจพลสวนสนามทางเรือครั้งนี้แล้ว

ทำให้ “พ่อลูกอิน” มโนภาพย้อนกลับมาที่สถานการณ์ปรับ ครม. “ประยุทธ์ 5” คล้ายเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า

“สองพี่น้องบูรพาพยัคฆ์” พร้อมร่วม “เรือแป๊ะ” ฟันฝ่าเผชิญคลื่นลมไปด้วยกัน แบบไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ถ้าเจอมรสุมหนัก คลื่นยักษ์ถล่มใส่ ก็พร้อมกอดคอเมาคลื่นไปด้วยกัน!!!

เหมือนในห้วงนี้ที่รัฐบาล คสช. กำลังเผชิญมรสุมคลื่นลมการเมืองปะทะเข้ามาพร้อมกันหลายด้าน

ไล่ตั้งแต่สถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อการปรับ ครม.ยกเครื่องรัฐมนตรี เพื่อขับเคลื่อนผลงานในช่วงท้ายโรดแม็ปของรัฐบาล ก่อนเปิดให้มีการเลือกตั้ง

แม้ “นายกฯลุงตู่” พยายามออกมาปรามสื่อ ไม่อยากให้วิจารณ์ คาดเดาโผปรับ ครม.กันไปต่างๆนานา เพราะจะเป็นการบั่นทอนกำลังใจการทำงาน และกระทบต่อตัวรัฐมนตรีและภาพลักษณ์รัฐบาล

แต่เมื่อการปรับ ครม.ยังไม่สะเด็ดน้ำ ยังไม่เห็นโฉมหน้า ครม.ชุดใหม่ ก็คงห้ามกันยาก เพราะสื่อมีหน้าที่ต้องคุ้ยแคะเบาะแสมานำเสนอต่อประชาชน

ส่วนที่หนักกว่า คือการที่นักการเมืองฉวยจังหวะนี้ ผสมโรงโจมตีการทำงานของรัฐมนตรีเป็นรายกระทรวง โดยเฉพาะที่บริหารแก้ปัญหาล้มเหลว แถมตอกย้ำแผลเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน

ตั้งใจดิสเครดิตรัฐบาลเต็มๆ เพราะอ่านทางออกว่า คสช.มีแผนจะกลับมากุมอำนาจหลังการเลือกตั้ง

จึงต้องสกัด เตะตัดขาไว้ก่อน ตามกระบวนยุทธ์การเมือง!!!

แถมล่าสุดองคาพยพเครือข่าย คสช. ดันขบเกลียวกันเอง จากปมนักการเมืองเรียกร้องให้ปลดล็อกการเมือง เพื่อให้พรรคดำเนินการแจ้งรายชื่อและจำนวนสมาชิก ได้ทันภายใน 90 วัน ตาม
พ.ร.บ.พรรคการเมืองฉบับใหม่

งานนี้ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ มือกฎหมายรัฐบาล ชี้ว่า นายกฯลุงตู่ มีวิธีการแก้ปัญหา เพื่อให้พรรค การเมืองดำเนินการแจ้งจำนวน รายชื่อสมาชิก และส่งผู้สมัคร ส.ส.ได้ทันกาลอยู่แล้ว

แต่ สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.เจ้าเก่า กลับตอกย้ำ กกต.ต้องยึดตามกฎหมาย เมื่อครบ 90 วัน พรรคใดไม่แจ้งการเปลี่ยนแปลงสมาชิกหรือขอขยายเวลา กกต.ต้องเสนอศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยให้พรรคนั้นสิ้นสภาพ

พร้อมโยนให้ กรธ.ของ ซือแป๋มีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นผู้เสนอรัฐบาลแก้ พ.ร.บ.พรรคการเมือง เพื่อคลี่คลายเรื่องนี้

ขณะที่ ซือแป๋มีชัย โต้กลับ เป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะเสนอขยายเวลาหรือเสนอแก้กฎหมาย ไม่ใช่หน้าที่ กรธ.

เมื่อสิ่งเหล่านี้ยังไม่ชัดเจน ก็ยิ่งเป็นการเปิดช่องให้นักการเมืองดาหน้ารุมถล่มรัฐบาลหนักเข้าไปอีก

สุดท้าย คสช.จะแก้ปัญหายังไง จะใช้วิธีปลดล็อกเร็วขึ้น–ขยายเวลา–แก้กฎหมาย

หรือจัดหนัก ถึงขั้นเซ็ตซีโร่ ยุบพรรคการเมืองกันเลย ต้องรอลุ้น!!!

“พ่อลูกอิน”

ไม่มีความคิดเห็น: