PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ใต้ร่ม "พระบารมี" : มองทิศทางการเมืองใหม่อนาคตประเทศ

ใต้ร่ม "พระบารมี" : มองทิศทางการเมืองใหม่อนาคตประเทศ

“รัฐบาลเพื่อการปฏิรูป” หรือ “หักดิบเพื่อตั้งรัฐบาลแห่งชาติ”

ไม่ว่ารัฐบาล “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้ออกมาในรูปแบบไหน อย่างน้อยใน ครม.จะต้องปรับเอารัฐมนตรีที่เป็นนายทหารออกไป เพื่อดึงมืออาชีพเข้ามาเสริมทัพขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน
ท่ามกลางมรสุมทางการเมืองหลายลูกจ่อถล่มรัฐบาล และกำลังมีการเตรียมตั้งพรรคทหารขึ้นมา
บนถนนสายรัฐธรรมนูญปี 60 และกติกาการเลือกตั้งฉบับแกะกล่อง การเมืองใหม่ในอนาคตจะเดินไปทิศทางไหน

ในมุมมองของ “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ที่มีเครือข่าย และมีบุคคลหลากหลายวงการ รวมถึงวงการเมือง เข้าพบหารือเป็นระยะๆ บอกกับ ทีมข่าวการเมือง โดยแนะนำถึงการปรับ ครม. อย่าไปตีกันเลย อุตส่าห์ร่วมมือทำกันมาจนถึงป่านนี้แล้ว

ต่อไป ครม.ที่มีทหารก็คงไม่เยอะ เริ่มถอยแล้ว

พร้อมพยายามชี้ให้เห็นถึงปัญหาของประเทศไทยในเชิงโครงสร้าง

ทุกครั้งที่ “บิ๊กจิ๋ว” พูดถึงการแก้ปัญหาของประเทศ จะย้ำอยู่เสมอถึงต้นเหตุของปัญหามันเกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ได้เกิดจากตัวบุคคล ไม่ได้เกิดจากการคอร์รัปชัน

แต่เกิดจาก “ความเหลื่อมล้ำ” โครงสร้างของประชากรไม่มีความเสมอภาค ไม่ได้รับความเป็นธรรม

“คนร่ำรวยมีนิดเดียว-คนยากจนมีมหาศาลทั้งแผ่นดิน”

ตอนนี้ยิ่งห่างมากยิ่งขึ้น เป็นปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

เมื่อประชากรในชาติไร้ความเท่าเทียม ความขัดแย้งในสังคมก็ยิ่งมากขึ้น

นี่คือรากเหง้าของวิกฤติบ้านเมือง

ฉะนั้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย ตามกติกาใหม่ “บิ๊กจิ๋ว” บอกว่า ไม่มีอะไรใหม่
วิถีทางการเมืองและการเลือกตั้ง ส.ส.ยังเป็นแบบเก่า

หากยังไม่มีการแก้ปัญหาที่รากเหง้า รัฐธรรมนูญใช้ไปได้แค่ 2-3 ปีคงถูกฉีกอีกรอบ

ตามกงล้อประวัติศาสตร์การเมืองไทย ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 ถึงปัจจุบัน 85 ปี มีรัฐธรรมนูญ 20 ฉบับ ถูกฉีกเฉลี่ย 4 ปีต่อครั้ง แม้รัฐธรรมนูญในยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม ถูกใช้ยืนยาวที่สุด ประมาณ 14 ปี และสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร ประมาณ 11 ปี

แม้จะยืนยาว แต่สุดท้ายก็อยู่ไม่ได้

ฉะนั้นที่บอกกันว่าจะอยู่ 8 ปี ขอให้ดูตัวอย่างเอาไว้ ให้ระวัง จะทำอะไรอย่าให้เหมือนเก่า

สงสารแก อยากให้เห็นว่าอยู่นานๆ 16 ปี แล้วอยู่อย่างไรล่ะก่อนตาย มีตัวอย่างให้เห็นแล้ว

เพราะการเมืองยังเป็นวงจรอุบาทว์ รัฐธรรมนูญร่างเสร็จ เลือกตั้งอยู่ได้สักระยะหนึ่งก็ยึดอำนาจ และกลับมาร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่อีก

เป็นกงล้อประวัติศาสตร์ ยังไม่มีใครทำลายได้จนถึงวันนี้

ทั้งหมดเกิดจากรากเหง้าของปัญหายังไม่ได้รับการสะสาง ไม่เหมือนประเทศเกาหลีใต้ จากที่ไม่มีอะไร ประเทศญี่ปุ่นโดนระเบิดปรมาณูถล่ม แต่วันนี้ทั้งสองประเทศพัฒนาและเจริญรุดหน้าไปมาก

ต่างกับประเทศไทย 6 เดือนแรกประสบภัยแล้ง ต้องขนน้ำไปช่วยเหลือชาวบ้าน 6 เดือนหลังประสบปัญหาน้ำท่วมตั้งแต่เหนือจดใต้ ต้องช่วยกันขนชาวบ้านหนีน้ำ ทุกปีเป็นอย่างนี้ หากยังแก้ปัญหานี้ไม่ได้ นับวันปัญหาก็จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ทั้งที่ปัญหาเหล่านี้ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” รัชกาลที่ 9 ทรงปูพื้นฐานไว้ดีมาก กลไกที่เกี่ยวข้องควรจะนำไปสานต่อ รวมถึงการแก้ไขปัญหาจราจรในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ควรนำพระราชดำริของพระองค์ท่านไปต่อยอดเพื่อแก้ไขปัญหาให้สะเด็ดน้ำ

ที่สำคัญขณะนี้ ปัญหาของประเทศที่สำคัญคือประชาชนยากจน

การแก้ปัญหาความยากจนของประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน สร้างเอสเอ็มอี ทำแค่นี้ก็รวยมหาศาล ภายใต้อุดมการณ์แห่งชีวิตที่มีอยู่ข้อเดียวคือแก้ไขปัญหาความยากจน ฉะนั้น เราจะต้องมีวิธีการทำให้ประชาชนทำงาน โดยมีอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ในแผ่นดินนี้จะต้องสร้างเอสเอ็มอีให้เกิดขึ้นทุกหมู่บ้าน บริหารงานโดยองค์กรของประชาชนในรูปแบบสหกรณ์ มีธนาคารหมู่บ้าน และด้านการศึกษาก็จะต้องให้เด็กบนหลังควายได้ปริญญา

ระหว่างทำในสิ่งเหล่านี้ ในทางการเมืองที่มีแต่ทหารปกครอง สิ่งแรกที่ต้อง ทำก็ต้องเปลี่ยนแปลงหลัก– สูตรโรงเรียนนายร้อย จปร. เดิมเรียน 5 ปี ก็ให้นักเรียนนายร้อยเรียน 4 ปี และปีที่ 5 ก็มีเรียนเพื่อรักษาขนบธรรม– เนียม โดยศึกษาเพิ่มด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม การต่างประเทศ รัฐศาสตร์
เศรษฐศาสตร์

จบโรงเรียนนายร้อยแล้วติดยศร้อยโท ถ้าหลักสูตรโรงเรียนนายร้อยเป็นอย่างนี้ ทหารก็เข้ามาปกครองได้ ถามว่าทำได้หรือไม่ ทำได้อยู่แล้ว

แต่ที่ยากที่สุดคือปัญหาชายแดนใต้ ไม่อยากให้มองเป็นปัญหาเฉพาะภาคใต้ เพราะปัญหานี้เป็นภาพสะท้อนของชาติ ต้องมองเป็นภาพใหญ่ ทั้งประเทศจะได้ทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีกต่อไป ภาคเหนือ ภาคอีสานก็น่าห่วง

วันนี้เรามัวไปยุ่งเรื่องอำนาจประชาธิปไตยโดยประชาชน จึงเกิดเป็นลัทธิรัฐธรรมนูญ จะต้องสร้างรัฐธรรมนูญที่ดีถึงจะสร้างประชาธิปไตยได้ ปัจจุบันมันต้องเปิดความคิดให้กว้าง สร้างความเป็นประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นได้

“การปกครองทุกรูปแบบ” ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้ใครจะว่าเราขอให้อดทนเอาหน่อย

ต้องเข้าใจว่า “ทุกการปกครอง” นำไปสู่ผลประโยชน์สุดท้ายเพื่อ ประชาชน

แต่ทุกวันนี้ยังอยู่กับรัฐธรรมนูญ ร่างแล้วร่างอีก วุ่นวายปวดหัว ขอย้ำจะต้องยึดเอาผลประโยชน์สุดท้ายเพื่อประชาชน ทุกอย่างต้องทุ่มเทมาตรงนี้ก่อน

ทีมข่าวการเมือง ถามว่า มาถึงวันนี้การปฏิรูปด้านต่างๆ รัฐบาลจะทำสำเร็จแค่ไหน พล.อ.ชวลิต บอกว่า อย่าไปว่ารัฐบาลที่เสียสละเข้ามา จะปฏิรูปด้านต่างๆสำเร็จหรือไม่ก็ต้องให้โอกาสรัฐบาล

“ถ้ารัฐบาลทำกันไม่ได้ก็จะต้องระวัง อย่าให้ประชาชนลุกขึ้นมาทำ มันจะยุ่ง”

อย่างกรณีปัญหาที่ดินภูทับเบิก กรณีจับขังคดีรุกป่าที่ศรีสะเกษ

และปัญหาคดีพื้นที่ทับซ้อน ไม่ใช่ไปไล่จับ ไล่ฆ่า

ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ เพื่อเทิดพระเกียรติ “สมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10”

ต่อไปจะต้องทำถวายพระองค์ท่านอีกเยอะและเป็นการตามรอย “พระยุคลบาทรัชกาลที่ 9” ด้วย
เมื่อการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆไม่คืบหน้าการเลือกตั้งมีโอกาสเกิดขึ้นแค่ไหน พล.อ.ชวลิต บอกว่า...

“...ต้องจำไว้ว่าวันนี้ผมมีหน้าที่หยุด เวลามีข่าวว่ามีคนเอาขวานจามถังน้ำมันที่แช่ปืนเอาไว้
ระวังคนไทยเราเลือดเนื้อเชื้อไทย ยากที่จะมี นอกจากจะทนไม่ไหวจริงๆ...”

ฉะนั้นจะมาถามว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหรือไม่ ตนไม่ได้เป็นหมอดู

แนวโน้มอย่าไปคิดเรื่องนี้เป็นเรื่องหลัก เพราะกลัวความขัดแย้งที่ยังไม่หายและเกิดขึ้นทุกวัน

ใครจะทำอะไรก็ทำไป ต้องอยู่ภายใต้ความคิดเอาประชาชนมาก่อน ช่วยเหลือประชาชนให้ได้

ในรอบสองปี ร้านโชห่วยหายหมด ขอให้ผลักดันเอสเอ็มอีขึ้นมาสู้ มีธนาคารหมู่บ้าน ปล่อยกู้ดอกเบี้ยถูกเพื่อทำฐานรากให้แข็งแรง อย่าลืมว่าวันนี้ประเทศมันยุ่งไปเรื่อย ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ก็น่าห่วง ทั้งหมดเป็นพี่น้องอยู่ประเทศเดียวกัน อยู่ภายใต้พระมหากษัตริย์ ภาระหน้าที่ตอนนี้คือช่วยเหลือ
ประชาชนเพื่อถวายในหลวง

และในช่วงต้นปี 61 หลังผ่านพระราชพิธีที่สำคัญไปแล้ว “พระเกียรติยศรัชกาลที่ 10” ที่เกริกไกรตามเสด็จพ่อที่จะตามไปอีกขั้นหนึ่ง หรืออาจจะตามไปสามขั้นเลย

ทั้งหมดต้องแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ แก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง เพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นให้เกิดขึ้นในแผ่นดิน ป้องกันการฉีกรัฐธรรมนูญ พล.อ.ชวลิต บอกว่า เรามีรัฐธรรมนูญและร่างรัฐธรรมนูญกันมาเยอะแล้ว

เราจะต้องทำทุกอย่างเพื่อประชาชน

สุดท้ายจะได้ผู้แทนที่เป็นของประชาชนจริงๆ.

ไม่มีความคิดเห็น: