ปชป.เต้นชัดเจนมาก
อย่างน้อยๆก็รับพรพระให้อุ่นใจ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. พร้อมด้วย “อาจารย์น้อง” รศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธาน นำคณะรัฐมนตรีและคู่สมรส จัดพิธีทำบุญตักบาตรที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เนื่องในโอกาสวันปีใหม่ 2561
ซึ่งเป็นอะไรที่แค่เริ่มต้นก็เจอเรื่องหมาๆประเดิมปีจอเลย
จากควันหลงประชุม ครม.สัญจร ตอนผู้นำรัฐบาล คสช.ไปตรวจราชการจังหวัดพิษณุโลก “ลุงตู่” ควักกระเป๋าซื้อสุนัขพันธุ์บางแก้วแจกเพื่อนพ้องน้องพี่ สนนราคาเกิน 3 พันเลยโดน “นักร้อง” ขาประจำอย่างนายศรีสุวรรณ จรรยา ร้องว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย ป.ป.ช.
เรื่องขี้หมูขี้หมา แต่มันเป็นจังหวะกระแทกซ้ำต่อเนื่อง
กระแสไหลตามท้องเรื่องที่ “ลุงตู่” เจอปม “สะสมทรัพย์” ขณะที่ “ลุงป้อม” โดนถล่มข้อหา “สะสมนาฬิกา”
สถานการณ์ล้อตามประเด็นร้อน พล.อ.ประยุทธ์ โดนแฉภาพเบื้องหลังการพบปะสังสรรค์กับตระกูลการเมืองใหญ่ค่ายนครปฐม ในอารมณ์ที่ “พี่ใหญ่” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็โดนเซตฉาก ประจานกรุนาฬิกาหรูแบบรายวัน
“ศูนย์อำนาจ” รัฐบาลทหาร คสช.โดนล็อกเป้าถล่มหนัก
และในจังหวะที่ถูกทักแรงๆโดย “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ อวยพรปีใหม่ผู้นำรัฐบาล คสช. เตือนนิ่มๆเป็นนัย “ตู่” ใช้กองหนุนหมดแล้ว
“เขี่ยลูก” ให้แนวร่วมขบวนการหมั่นไส้ คสช. กระโดดโหน “ป๋าเปรม” ตัวลอย
ฉวยจังหวะสอยปลายคาง “ลุงตู่” ทั้งกลุ่มพันธมิตรฯ ทหารเฒ่าสายลูกป๋า กปปส. อดีตแนวร่วมฝ่ายโค่น “ทักษิณ” ที่ไม่ได้รับการแชร์อำนาจและผลประโยชน์เป็นที่พอใจ
พลิกกลับมาเป็นโจทก์ต้านศูนย์อำนาจ คสช. “ล่อเป้า” พี่น้องบูรพาพยัคฆ์
แปรรูปขบวนเข้าโหมดรบ “หักลำ” เกมอำนาจพิเศษ
โดยเฉพาะคนยี่ห้อประชาธิปัตย์ออกอาการเด่นชัดกว่าใคร ไม่ใช่แค่หัวแถวระดับ “ชวน หลีกภัย” หรือ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่เปิดหน้าโซ้ยรัฐบาล คสช.แบบไม่กั๊กไมตรี
แต่ยังมีคิวของ “โหร” นายบุญเลิศ ไพรินทร์ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาร่วมด้วยช่วยขย่ม “นายกฯ ลุงตู่” ทุบโต๊ะฟันธงผู้นำ คสช. “ดวงแตก” ยาวไปถึงปี 64
ดาวประจำตัวตกห้วงวินาศ ทำอะไรไม่ราบรื่น สูญเสียกองหนุน
ประชาธิปัตย์จัดเป็นแพ็กเกจหลักแพ็กเกจเสริม เตะตัดขา “ลุงตู่” รายวัน รายชั่วโมง ตามอาการของคนที่ไม่มีโอกาสจะสานต่อยุทธศาสตร์อำนาจร่วมกันอีกต่อไป
นั่นก็ทำให้ค่ายเพื่อไทยดูกร่อยไป ทั้งๆที่ตามสถานะคือโจทก์หลักฝั่งตรงข้ามกับทีม “ลุงตู่” แท้ๆ
แต่ดูๆก็เฮี้ยวแค่รายของขาโจ๋อย่าง “เสี่ยไก่” วัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีคนดังสายตรงดูไบ ที่ออกมาด่า คสช.ตามฟอร์ม
นอกนั้นก็เลือกซุ่มอยู่บนภู ดูประชาธิปัตย์ฟัดกับ คสช.
เพราะขยับมาก ก็มีฉากของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินช็อปปิ้งกับลูกชายที่ห้างกลางมหานครลอนดอน ออกมากระตุกต่อมหลอนฝ่ายต้านระบอบ “ทักษิณ”
กระตุ้นเตือนทีม “นายใหญ่” อย่าทำให้แผนการลี้ภัยในเมืองผู้ดีของน้องสาวสะดุด
ล่าสุดก็เป็นตัวละครอย่างนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ สามี “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่ส่งสัญญาณถึงฝ่ายคุมเกมอำนาจ อย่าระแวงตระกูลชินวัตรที่จะทำมาหากินตามสิทธิของพลเมืองไทย
ส่งซิกเป็นนัย พร้อมอยู่ในโหมด “หลบต่ำ” ไม่ทำตัวเป็นปัญหา
สรุปว่า แม้จะมีแรงกระเพื่อมจากแนวร่วมฝ่ายเดียวกันเอง
ที่ไม่พอใจการแชร์อำนาจและผลประโยชน์ แต่ทีมงาน “ลุงตู่” ก็ยังคุมเกมภาพรวมไว้ได้
เพราะเงื่อนไขอันตรายจริงๆคือ “ทักษิณ” ยังหาจุดลงตัวไม่เจอ
และปัจจัยที่จะชี้ขาดสถานะทางเกมอำนาจของทีมงาน “ลุงตู่” ก็อยู่ที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ภายใต้การกำกับของ “จอมยุทธ์กวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ
แบบที่เห็นเริ่มออกตัวล้อฟรีกันตั้งแต่การประชุม ครม.นัดประเดิมศักราชใหม่ โดยกระทรวงการคลังชง “บิ๊กแพ็กเกจ” มาตรการช่วยเหลือผู้ลงทะเบียนรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนระยะที่ 2
โดยตั้งเป้าให้ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ทั้งหมด 5,300,000 คน จากจำนวนผู้ลงทะเบียนบัตรคนจน 11,400,000 คน มีรายได้สูงกว่าเกณฑ์และหลุดพ้นจากความยากจนให้ได้ภายในปี 2561
หวังเข้าเป้าแค่ครึ่งเดียว แต้มจากคนจนก็มาเป็นกอบเป็นกำแล้ว.
ทีมข่าวการเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น