PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2561

สูตรเก่าโผล่ซ้อนคิวยืด

สูตรเก่าโผล่ซ้อนคิวยืด


สรุปภาพรวมจากที่ประชุม สนช.ในคิวสำคัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ในวาระ 2-3 โฟกัสที่คิวเคาะประเด็นสำคัญ
ข้อเสนอจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ให้แก้ไขมาตรา 2 ขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายออกไป 90 วัน นับตั้งแต่กฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ก่อนลงมติ คิวเคาะ สนช.แต่ละรายสวมบทบาทถึงใจ
ฝักถั่วสลอน เอาอกเอาใจเจ้าของไร่อำนาจพิเศษ
เพราะนอกจากเสียงส่วนใหญ่จะเห็นพ้องกับการยืดเวลาใช้กฎหมายเลือกตั้ง 90 วันว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ยกมือขออภิปรายหยิบเหตุผลต่างๆนานามากล่าวอ้าง
ทั้งเพื่อให้ประชาชน พรรคการเมืองได้ศึกษาทำความเข้าใจกฎหมาย เจ้าหน้าที่มีเวลา ไม่ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด มีหลายปมต้องใช้เวลาดำเนินการ เช่น ทบทวนรายชื่อสมาชิกพรรค ระบบไพรมารีโหวต กกต.มีหลายเรื่องที่ไม่มีประสบการณ์ อาทิ การหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ ความพร้อมของผู้ตรวจการเลือกตั้ง ฯลฯ
ยกคณะประสานเสียงมาเลย ชนิดกลบความเห็นฝ่ายคัดค้านใน สนช. และกรรมาธิการเสียงข้างน้อย
รวมทั้งต้องเจอประเภทเล่นใหญ่เกินบท เสนอให้ยืดเวลายาวไปกว่านั้น 90 วันน้อยไป
อวดความในใจ อยากแปรญัตติให้เป็น 120 วันด้วยซ้ำ
ที่น่าจะเต็มเหนี่ยวสุดๆ พ.ต.ท.พงษ์ชัย วราชิต สนช. เรียกเสียงฮือฮา เสนอให้บังคับใช้กฎหมายหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 60 เดือน หรือ 5 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
แนะเพาะปลูกอำนาจ “รากงอก” เย้ยแรงต้านนักการเมืองไปเลย
สรุปแล้วก็ไม่เกินคาด เจ้าของไร่อย่าง คสช. ต้นท่อแม่น้ำ 5 สาย ไม่ผิดหวัง อิ่มเสียงหนุนเสียงเชียร์
สนช.ลงตัวที่ตัวเลข 90 วัน ยืดพอท้วมๆตามแผน
ส่วนเสียงค้าน แรงต้านจากคนการเมือง แต่ก็คงทำได้แค่โวย สุดท้ายขวางยาก
แล้วก็คงไม่ต่างกัน เสียงจากภายนอกประเทศ ทั้งเอก-อัครราชทูตคณะผู้แทนอียู ทั้งโฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ-อเมริกาประจำประเทศไทย แสดงท่าทีผ่านสื่อในภาษาการทูต เข้าใจความจำเป็นสถานการณ์ประชาธิปไตยในไทย การแยกฝ่ายบริหารนิติบัญญัติ
แต่แฝงเนื้อหากระตุกคิว ทวงสัญญาเลือกตั้งของ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กันในที
เพียงแต่จะเข้าใจประชาธิปไตยแบบ “ไทยนิยม” กันแจ่มแจ้งแค่ไหน
ต้องดูยาวๆ “ปัจจัยโลก” คอนโทรลลื่น เหมือนปัจจัยภายในหรือไม่
เพราะนอกจากแนวต้านด้านกฎหมายยืดเวลาเริ่มเบาบาง “นายกฯลุงตู่” ก็เหมือนจะได้จังหวะเป็นใจ ในแผนต่อตั๋วเล่นเกมอำนาจยาวๆ บรรดาขั้ว “ตัวป่วน” ทยอยติดชนักกันเป็นพวง
ล่าสุดแกนนำกลุ่ม กปปส. เจอของหนัก ทั้งคดีกบฏ อั้งยี่ ซ่องโจร โดยเฉพาะ “ลุงกำนันเทือก” โดนพ่วง ก่อการร้ายไปอีก 1 ชุด
จ่อรับกรรมที่ก่อไว้ในห้วงวิกฤติประเทศที่ผ่านมา
อีกทางป้อมค่ายนั่งร้าน พรรคการเมืองใหม่ๆผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เครือข่ายอำนาจแผ่ขยายลงลึกถึงพื้นที่ผ่านกลไกอำนาจรัฐทั้งเก่า และจัดตั้งเพิ่มเติม
แต่อำนาจพิเศษเช็กสำรวจ คำนวณแล้ว ยังไม่ชัวร์เรื่องแต้มหากเปิดสนาม
ห้วงนี้เลยเริ่มมีกระแสข่าว มีคนพูดถึง “สูตรพิเศษ” มาแทรก
หลังจากขั้วฝ่ายการเมืองถูกกรรมตามไล่ล้างเกลี้ยง เหมือนบีบทางให้เดินเข้าล็อก
ในสูตรเผื่อเลือก “รัฐบาลแห่งชาติ” ที่ยังมีหลากรูปแบบ.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: