PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2561

บุกเต็มตัว

บุกเต็มตัว


ถ้าสังเกตให้ดี จะพบว่าแผนสืบทอดอำนาจ คสช.ต่อไปอีกยาวๆ เป็นกระบวนท่าพลิกแพลง ลํ้าลึก และเดาทางยากขึ้นทุกที
นับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศเป็น “นักการเมืองเต็มตัว” ก็เริ่มเห็นลีลาเปิดเกมบุกเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมืองต่อเนื่องเชื่อมโยงเป็นขั้นเป็นตอน
เริ่มจาก พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาชูธง...ประชาธิปไตยไทยนิยม
คือประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับรสนิยมคนไทย
ไม่ใช่ประชาธิปไตยเต็มใบแบบที่ต่างประเทศนิยม
ล่าสุด เพื่อดันแนวคิด “ประชาธิปไตยไทยนิยม” ของ คสช.ให้แพร่กระจายไปถึงชาวบ้านโดยตรง
พล.อ.ประยุทธ์จึงเปิดเกมบุกต่อทันที!!
ด้วยการออกคำสั่งแต่งตั้ง “คณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน”
เปลี่ยนจุดขายจากไทยนิยมเฉยๆ เป็นไทยนิยมยั่งยืน
โดย พล.อ.ประยุทธ์แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานกรรมการเอง
มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กับ รองนายกฯอีก 4 คน เป็นรองประธานกรรมการ
มี ผบ.ทหารสูงสุด, ผบ.ทบ., ผบ.ทอ., ผบ.ทร., ผบ.ตร., เลขาธิการสภาความมั่นคง, เลขาธิการสภาพัฒน์, ผอ.สำนักงบประมาณ ฯลฯ และปลัดกระทรวงต่างๆเป็นกรรมการครบวงจร
มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นกรรมการและเลขานุการ
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าภารกิจสำคัญของคณะกรรมการขับเคลื่อน “โครงการไทยนิยมยั่งยืน” เพื่ออัดฉีดแนวคิด “ประชาธิปไตยไทยนิยม” ของ คสช.แพร่กระจายถึงชาวบ้านโดยตรงให้เห็นผลรวดเร็วทันใจ
โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ลงไปเสวนาพูดคุยกับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ไทยแบบถึงเนื้อถึงตัว ถึงไหนถึงกัน
เป้าหมายเพื่อกระตุ้นคนไทยให้ร่วมมือกับรัฐบาลพัฒนาประเทศตามแนวทางไทยนิยมยั่งยืน
เพื่อสร้างความตื่นตัวของประชาชนให้หันมาสนับสนุนแนวคิดประชาธิปไตยไทยนิยมของ คสช.
เพื่อกุมความได้เปรียบสูงสุดก่อนเลือกตั้งใหญ่ที่จะมาถึง (หรือมาไม่ถึง) ในอีก 1 ปี กับ 2 เดือนจากนี้ไป
แถมโครงการนี้ยังเกิดประโยชน์อย่างสำคัญอีก 2 ประการ
1, เพิ่มกองหนุนรัฐบาลเพื่อทดแทนกองหนุนเก่าๆที่หดหายไป
2, สลายกระแสนิยมพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามไปพร้อมกัน
“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าโครงการนี้ ใช้นายอำเภอทั่วประเทศ 878 อำเภอ เป็นกุญแจสำคัญ
โดย “นายอำเภอทุกคน” ต้องจัดหน่วยขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมยั่งยืนลงไปปักหลักประจำทุกตำบลในแต่ละอำเภอ
กำหนดให้ทีมขับเคลื่อน 1 ทีม ต้องรับผิดชอบพื้นที่ 1 ตำบล ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้านและจิตอาสา ไม่น้อยกว่า 7 คน หรือ 12 คนต่อ 1 ทีม
เท่ากับต้องจัดทีมเผยแพร่โครงการไทยนิยมยั่งยืนของ คสช. เข้าไปคลุกวงในกับชาวบ้านทั้ง 7,255 ตำบล รวมทั้งสิ้น 7,255 ทีม
ต้องระดมเจ้าหน้าที่มากกว่า 8.7 หมื่นคน เป็นชุดปฏิบัติการ
จัดหนักขนาดนี้ ถ้าปลุกกระแสไม่ติด...ก็ให้มันรู้ไป.
“แม่ลูกจันทร์”

ไม่มีความคิดเห็น: