PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ยังมีข่าวดีสู้ ‘ลางร้าย’

ยังมีข่าวดีสู้ ‘ลางร้าย’


อ่างบัวแตก กระถางต้นข่อยพัง ธูปปริศนา 36 ดอก อีการุมจิกซากนกพิราบ
ลางร้ายกระฉ่อนทำเนียบรัฐบาลรายวัน
กระแสข่าว “ไสยศาสตร์ 0.4” ถาโถมเข้าใส่รัฐบาลยุค 4.0 ไม่หยุดหย่อน
ในอารมณ์อ่อนอกอ่อนใจ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ต้องขอร้องอย่ามองเป็นเรื่องโหราศาสตร์ เพราะมันแค่ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ
สื่ออย่าเสนอเรื่องอะไรที่มันเป็นความเคลือบแคลงสงสัยอีกเลย
เรื่องของเรื่อง มันก็เป็นภาวการณ์ปกติธรรมดาทางการเมืองในห้วงเทอมสุดท้ายรัฐบาล ตามท้องเรื่องที่ทีมงาน คสช.กำลังตกอยู่ในห้วง “ยางรั่ว” เซแซดๆตามแรงกระแทก
หลงอยู่ในวังวนกระแส “ขาลง” ตามอุปาทานหมู่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยฝ่ายจ้องคว่ำกระดาน
สถานการณ์มาถึงจุดที่เริ่มเกิดอาการ “สะท้านกระแส”
ปรากฏการณ์แบบที่ “เสธ.ไก่อู” พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยช็อตร้อนในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดล่าสุด กรณีข้อสั่งการของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่พูดขึ้นกลางวง ครม.
“ผมไม่เคยสั่งการใครในทางที่ผิดกฎหมาย หรือให้ไปล็อบบี้ใคร ถ้าใครไปแอบอ้างโดยเฉพาะชื่อผมให้มาแจ้งกับผมเลย ผมจะเอาเรื่องไอ้คนนั้น”
และนั่นก็ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์สำทับเลยว่า ได้ข่าวมาเหมือนกัน มีการอ้างชื่อ 3 ป.
แต่ยืนยันได้เลยว่าทั้งหมดไม่เคยสั่งการอะไรเหล่านี้ หากพบมีการแอบอ้างชื่อตนเอง พล.อ.ประวิตร และ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เรียกรับผลประโยชน์ ให้แจ้งเอาผิดได้เลย
และเชื่อมั่นองคาพยพที่เลือกมาใน ครม.ไม่มีบุคลิกเช่นนี้เหมือนกัน
“ลุงตู่” สั่งเสียงเข้มเลยว่า ทุกคนอยู่เฉยๆไม่ได้ ทำงานของตัวเองแล้ว ยังต้องตรวจสอบคนในอาณัติของตัวเองด้วยว่าได้อยู่ในกติกา ระเบียบวินัย สิ่งที่ดีงามหรือไม่ หรือไป เบียดเบียนประชาชน
ถึงจังหวะต้องขยับทบทวน “ต้นทุน” ความโปร่งใส
“พี่ใหญ่” ต้องเทกแอ็กชั่น แสดงความจริงจัง เคลียร์สถานะตัว “เป้าล่อ” ของรัฐบาล
ในสถานการณ์ที่ “ภูมิคุ้มกัน” คสช.เหลือน้อยเต็มที
ถ้าปล่อยกระแสไหลไปมากกว่านี้อาจเข้าขั้น “โคม่า” เสี่ยงถึง “จุดตาย” ได้
และตามฟอร์ม สถานะของ คสช.ตอนนี้ไม่พร้อมเปิดศึกหลายด้าน
โดยจังหวะต้อง “เจาะรู” ระบายแรงกดดัน รูปการณ์แบบที่ “นายกฯลุงตู่” ต้องออกโรงยืนกรานด้วยตัวเองเลยว่า จะไม่มีการคว่ำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพื่อยื้อเลือกตั้งออกไป
ไม่ปล่อยให้ภาวะอึมครึมเพิ่มแรงกดดันมาโหลดอยู่ที่รัฐบาล คสช.
ล่าสุดก็เป็นคิวที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ออกมาคอนเฟิร์มล่วงหน้าแล้ว รัฐบาลจะมีการปลดล็อกคำสั่ง คสช.ให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ในเดือนมิถุนายนนี้
ยังเดินตามคิวที่ “นายกฯลุงตู่” ประกาศสัญญาประชาคมไว้
โดยเงื่อนสถานการณ์จำเป็นต้องเจาะช่องระบายแรงเสียดทานจากนักการเมือง
ตามสภาพนักเลือกตั้งอาชีพถูกสะกดมา 3-4 ปี ใกล้ “ผีป่าช้าแตก”
แต่ก็เป็นอะไรที่เห็นได้ว่า ไม่มีการท้าแลกหมัดวัดดวงตามสไตล์ผู้นำทหารที่ถืออำนาจพิเศษเต็มมือ
“บิ๊กตู่” เป็น “รัฏฐาธิปัตย์” ผู้ไม่เน้นการใช้อาวุธและกำลังตรงกันข้าม กลับใช้เหลี่ยมการตลาด เดินกระแสเชิงบวกสู้กับข่าวด้านลบ
ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าคิกออฟยุทธศาสตร์ “ไทยนิยมยั่งยืน” กลบกระแส “ลางร้าย”
การเปิด “ข่าวดี” ทางเศรษฐกิจ แบบที่กระทรวงพาณิชย์แถลงภาวะการส่งออกของไทยในเดือนมกราคม 2561 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 62 เดือน ที่ร้อยละ 17.6 หรือคิดเป็นมูลค่า 20,101 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
คาดการณ์แนวโน้มการส่งออกในปี 2561 จะขยายตัวต่อเนื่องตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก
พร้อมๆกับที่นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ก็เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนมกราคม 2561 อยู่ที่ระดับ 91.0 เพิ่มขึ้นจากระดับ 89.1 ในเดือนธันวาคม 2560
เป็นการปรับตัวติดต่อกัน 3 เดือน และสูงสุดในรอบ 36 เดือน
เหมือนให้ถ่วงน้ำหนักกันไประหว่าง “ข่าวร้าย” กับ “ข่าวดี”.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: