PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2561

ออกหมายจับใหม่ ทักษิณ คดีแปลงสัมปทานเอื้อชินฯ

ออกหมายจับใหม่ ทักษิณ คดีแปลงสัมปทานเอื้อชินฯ

ทักษิณ ชินวัตรImage copyrightAFP/GETTY IMAGES
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ออกหมายจับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังไม่เดินทางมาศาลในการนัดพิจารณาคดีครั้งแรก และไม่แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนนัดพิจารณาคดีแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท (คดีหมายเลขดำ อม.9/2551)
คดีนี้อัยการสูงสุด (อสส.) ในฐานะโจทก์ ได้ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2560 ขอให้ศาลพิจารณานำคดีที่เคยยื่นฟ้องนายทักษิณเป็นจำเลยตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. 2551 กลับมาพิจารณาใหม่ หลังถูกสั่ง "จำหน่ายออกจากสารบบความชั่วคราว" เนื่องจากจำเลยหลบหนีและถูกออกหมายจับตามขั้นตอนไปแล้ว แต่เนื่องจากมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 ฉบับใหม่ ซึ่งเปิดช่องให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาพิจารณาต่อเนื่องได้ โดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย ทำให้ อสส. ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ ขอให้เดินหน้าพิจารณาคดีที่นายทักษิณตกเป็นจำเลย 2 คดี
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นัดพิจารณาคดีครั้งแรก อัยการโจทก์มาศาล โดยโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องในวันนี้ ส่วนจำเลยทราบนัดโดยชอบ แต่ไม่เดินทางมาและไม่แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนนัดพิจารณาคดี จึงให้ออกหมายจับจำเลย โดยให้โจทก์ติดตามดำเนินการจับกุมจำเลย และรายงานให้ศาลทราบทุก ๆ 1 เดือน ทั้งนี้การที่จำเลยไม่เดินทางมา ถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธไม่ได้กระทำผิดตามคำฟ้องโจทก์ จึงนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 10 ก.ค. และให้แจ้งนัดให้จำเลยทราบตามที่อยู่ทะเบียนราษฎร์ที่แจ้งไว้ย่านจรัญสนิทวงศ์ หากไม่มีผู้รับ ให้ติดหมายนัดที่บ้านพักจำเลย
สำหรับหมายจับให้มาฟังพิจารณาคดีที่ศาลออกมานี้ ถือเป็น "หมายจับใหม่" เพื่อจับกุมจำเลยเข้าสู่กระบวนการก่อนเริ่มพิจารณาคดี ตามที่ พ.ร.ป.วิธีพิจารณาคดีอาญาฯ มาตรา 28 ระบุไว้ว่า ถ้าไม่สามารถจับจำเลยได้ภายใน 3 เดือนนับแต่ออกหมายจับ ให้ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ แต่ไม่ตัดสิทธิจำเลยในการตั้งทนายความมาดำเนินการแทนตน และไม่ตัดสิทธิจำเลยที่จะมาต่อสู้คดีเมื่อใดก็ได้ ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา
4 คดีคาศาลของทักษิณ ที่ถูกยื่นขอฟื้นพิจารณาคดีใหม่
คดีโจทก์สถานะคดีเดิม
คดีเอ็กซิมแบงก์ปล่อยเงินกู้ให้รัฐบาลพม่า 4 พันล้านบาท เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์โทรคมนาคมจากชินคอร์ปป.ป.ช.ศาลออกหมายจับ 16 ก.ย. 2551 เพื่อติดตามตัวมาพิจารณาคดีนัดแรก
คดีทุจริตโครงการหวยบนดิน 3 ตัว 2 ตัวป.ป.ช.ศาลออกหมายจับ 26ก.ย. 2551 เพื่อติดตามตัวมาพิจารณาคดีนัดแรก
คดีทุจริตธนาคารกรุงไทยอนุมัติสินเชื่อ 9 พันล้านบาท ให้บริษัทในเครือกฤษดามหานครอสส.ศาลออกหมายจับ 11 ต.ค. 2555 เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยให้จำหน่ายคดีเฉพาะส่วนของทักษิณไว้เป็นการชั่วคราว
คดีออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ-ดาวเทียมเป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ชินคอร์ป ทำรัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาทอสส.ศาลออกหมายจับ 15 ต.ค. 2551 เพื่อติดตามตัวมาพิจารณาคดีนัดแรก

ไม่มีความคิดเห็น: