PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2561

ลงแรงรอฤดูเก็บเกี่ยว

ลงแรงรอฤดูเก็บเกี่ยว



ผ่านมาจะครบ 4 ปี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ผู้ถืออำนาจพิเศษทำได้อย่างที่เคยประกาศ ผู้นำต้องเดินทางไปได้ทุกตารางนิ้วในประเทศไทย
หลังจากนำร่องเดินสายทั้งประชุม ครม.สัญจร ตรวจงานราชการมาครบหัวเมืองภูมิภาค
ถึงคิวเจาะพื้นที่ “นายกฯลุงตู่” ยกคณะไปตรวจราชการ เป็นสักขีพยานในพิธีมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับคัดเลือกโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน และมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย ที่ จ.หนองบัวลำภู
รายการนี้ผู้นำประกาศชัด รัฐบาลจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ต้องดูแลประชาชนทั้งประเทศ “ไม่ว่าภาคไหน อำเภอไหน ล้วนเป็นคนไทยทั้งสิ้น ต้องรัก สามัคคี แบ่งแยกไม่ได้”
ออกลูกขึงขัง ขอเป็นผู้นำของคนทั้งประเทศ
พร้อมกับกระตุกต่อมผวาของผู้คนที่ยังแหยงไม่หายกับภาวะวิกฤติขัดแย้งแตกแยกที่ผ่านมา ด้วยคำมั่นสัญญาก่อนเข้าโค้งสำคัญ “จะไม่ทำให้ประเทศกลับไปเหมือนเดิม”
โชว์เก๋ๆรับดีเดย์เลือกตั้ง
ในห้วงที่โปรแกรมโรดแม็ปน่าจะชัด หลังจาก สนช.เข้ายื่นตีความร่างกฎหมายการได้มาซึ่ง ส.ว. ขณะที่กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ปัดนายกฯไม่ใช่ “ไปรษณีย์”
หากมีใครสงสัยให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความเอง
ถึงแม้จะถูกดักทาง คิวตีความกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. อาจเป็น “ไพ่ในมือ” ที่เก็บไว้ “ยื้ออีกช็อต” ก็ตาม
อ่านเฉพาะหน้าโปรแกรมเลือกตั้งคงไม่ขยับจากเดือน ก.พ.ปี 2562 มากนัก
ยิ่งถ้าประเมินจากทิศทางอำนาจพิเศษ เริ่มจะเดินไปตามไทม์ไลน์ ทั้งคิวกลุ่มการเมืองแห่จดแจ้งจองชื่อพรรคการเมืองใหม่ตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. เปิดให้พรรคเก่าเช็กรายชื่อยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคเก่าดีเดย์ 1 เม.ย.นี้
ประกอบกับท่านผู้นำส่งเทียบเชิญพรรคการเมือง ร่วมหารือถึงนโยบายและกำหนดการเลือกตั้ง ในเดือน มิ.ย.นี้ สะท้อนว่าถ้าไม่มีสัญญาณใหม่ ในปี 2562 น่าจะได้เข้าคูหากาคะแนน
“นายกฯลุงตู่” ต้องเร่งสปีดแต้มตามแผน
นอกจากงัดมาตรา 44 ปลดนายสมชัย ศรีสุทธิยากร จากตำแหน่ง กกต. เพื่อไม่ให้สร้างความสับสน
ปิดปากเบรกแรงป่วน
และยังใช้อำนาจฝ่ายบริหาร ออกคำสั่งนายกฯ ให้นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกฯ เคลียร์ปมยางที่ค้างคา
ในรูปการณ์ที่เริ่มคอนโทรลเกมอำนาจได้ในระดับหนึ่ง ดึงขั้วฝ่ายการเมืองต่างๆเข้าสู่ระบบพรรค ขณะเดียวกันก็คุมหลวมๆ จำกัดวงม็อบ ตีกรอบให้เคลื่อนไหวแค่ในงานวิชาการ
อีกทางกลับมาเร่งโจทย์ปราบโกง กำชับหน่วยงานราชการ ท้องถิ่น ให้เอาจริงเอาจังกับการป้องกันปราบปรามการทุจริต ในห้วงที่มีโรคโกงระบาดหลายหน่วยงาน
งัดของเก่า “แก้โกง” กระตุกโจทย์แข็งที่เริ่มอ่อนดีกรี
เช่นเดียวกับการเริ่มกลับมาบูมภารกิจทวงคืนผืนป่า ปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
โชว์สินค้าขายดี ย้ำแบรนด์ “ลุงตู่”
ที่เหลือก็มีเวลาจัดคิวลงพื้นที่ปั่นยอดขายฐานราก โดยเฉพาะหลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจภาพใหญ่ภาพรวมจุดติด ตัวเลขการค้า การลงทุน ส่งออก ท่องเที่ยว ฯลฯ มีสัญญาณดีต่อเนื่อง
ถึงเวลาเร่งเครื่องโจทย์หนักปมเศรษฐกิจปากท้อง
เดินหน้าสารพัดโครงการอัดฉีด ทั้ง “ไทยนิยม ยั่งยืน” และ “ประชารัฐ” ที่ขับเคลื่อนควบคู่กันไป
เวลานี้ “นายกฯลุงตู่” จึงจัดโปรแกรมเดินสายถี่ รดน้ำ พรวนดิน เสริมปุ๋ยลงฐานรากเป็นระลอกๆ
ไว้รอเก็บเกี่ยวดอกผล “แต้มหนุน” ในห้วงเลือกตั้งพอดี.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: