PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2561

09.00 INDEX พันธมิตร ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ต่อต้าน นายกรัฐมนตรี คนนอก

09.00 INDEX พันธมิตร ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ต่อต้าน นายกรัฐมนตรี คนนอก



ในที่สุด “ยุทธศาสตร์” ทางการเมืองที่ นายพิชัย รัตตกุล เสนอบนพื้นฐานการต่อต้านนายกรัฐมนตรี”คนนอก”ก็เริ่มมองเห็น
พลันที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมายืนยัน
“คนที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาที่พรรคประชาธิปัตย์ทำไม เพราะยังมีพรรคการเมืองอื่นๆที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เยอะแยะมากมาย
เขาก็ควรที่จะไปอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่ตรงนี้”
คำพูดนี้ไม่เพียงจะ “สื่อ” ไปยังสมาชิกพรรคหรือคนที่ต้องการ เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หากแต่ที่สำคัญเป็นการสื่อตรงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ตรงนี้ย่อมเป็น “แนวทาง”เดียวกันกับของ”พรรคเพื่อไทย”

กล่าวในทางหลักการโดยพื้นฐานของ”พันธมิตร”ในแนวร่วมทางการเมือง
พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทยจึงยืนใน”แนว”เดียวกัน
แม้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์บางคนอาจจะยังยืนหยัดในแนวทางต่อต้านสิ่งที่เรียกว่า “ระบอบทักษิณ”อยู่ แต่ก็ต้องยอมรับว่า นับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 นายทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องไปอยู่นอกประเทศ

และนับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป้าหมายของคสช.ก็คือ กดดัน บีบบังคับให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประสบชะตากรรมอย่างเดียวกันกับ นายทักษิณ ชินวัตร
และประสบความสำเร็จในเดือนสิงหาคม 2560
สิ่งที่เรียกว่า “ระบอบทักษิณ” จึงอ่อนแรง โรยราลงไปเป็นลำดับ ตรงกันข้าม ระบอบที่ยึดครองอำนาจอยู่ในปัจจุบันและต้องการสืบทอดอำนาจต่อไปอย่างยาวนาน
กลับเป็น “ระบอบคสช.”โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำมากกว่า

ยิ่งเข้าใกล้กระบวนการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 มากเพียงใดโฉมหน้าความต้องการในการสืบทอดอำนาจของ”ระบอบคสช.”ยิ่งเด่นชัด
ตรงนี้เองที่ทำให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จำเป็นต้องประกาศแนวทางพรรคประชาธิปัตย์
และทำให้ “ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย”มีจุด”ร่วม”
นั่นก็คือ คัดค้านและต่อต้านนายกรัฐมนตรี “คนนอก”

ไม่มีความคิดเห็น: