PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2561

รอ “แต่งตัว” ลงสนาม!

รอ “แต่งตัว” ลงสนาม!



โชว์บทมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งเจาะตลาดวัยรุ่น
ตามซีนที่ “ผู้พันเบิร์ด” พ.อ.วันชนะ สวัสดี ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม ควง “น้องเกี่ยวก้อย” มาสคอตตุ๊กตา สัญลักษณ์ความปรองดอง ตะลุยย่านสยามสแควร์
แจกเอกสารสัญญาประชาคมของทีมงานคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ร่วมรณรงค์ให้ประชาชนอินอยู่ในโหมดความปรองดอง ตามพันธกิจเราจะทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้
กระตุ้นบรรยากาศสร้างความรักใคร่ สามัคคีปรองดอง รวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ลบภาพความขัดแย้งวุ่นวายในอดีต
สวนทางท่าทีจากฟากฝั่งการเมืองยังละเลงสงครามน้ำลาย ต่อล้อต่อเถียงวาทะ “เครื่องดูดฝุ่น” ไม่หยุดหย่อน ตามช็อตที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกโรงเองซ้ำแล้วซ้ำอีก
แสดงความไม่พอใจปรากฏการณ์พลังดูดอดีต ส.ส.เข้าสังกัด ต่อวีซ่าให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เบิ้ลอำนาจรอบสอง
ยืดอกประชาธิปัตย์ขอรับบทฝ่ายค้าน ไม่ดิ้นรนจับมือร่วมทำงานกับใคร หากอุดมการณ์ไม่ตรงกัน
ขยายบทต่อจาก “เดอะแจ๊ค” วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ท้า “บิ๊กตู่” สาบานต่อวัดพระแก้ว ไม่เคยใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่ฟอร์มทีมจัดตั้งพรรคการเมือง
ตอบโต้หลังถูกผู้นำ คสช. สั่งทีมกฎหมายหาช่องเอาผิดฐานหมิ่นประมาท ยกเมฆข้อมูลระดมทุน 40,000 ล้านบาท ตั้งพรรคการเมืองต่อท่ออำนาจ
อาการหวั่นไหวของนักเลือกตั้งปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นแบไต๋สารภาพตรงๆอยากให้ “บิ๊กตู่” ลงจากหลังเสือ ไม่อยากให้นั่งเก้าอี้นายกฯต่อ
กลัวตกที่นั่งลำบากในสนามเลือกตั้ง ทั้งจากกติการัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อพรรคใหญ่และยังต้องระแวงการถูกช็อป ถูกช้อนอดีต ส.ส.ออกจากสังกัด
ยิ่งใกล้ครบเส้นตายการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ตามที่นายอภิสิทธิ์ออกอาการปลงจำนวนสมาชิกพรรควูบหายไปอื้อซ่า จากเดิมที่มียอดเป็นหลักล้านคนเหลือแค่หลักหมื่น
ฐานเสียงสมาชิกไม่แน่นปึ้กเหมือนเก่า นั่นย่อมกระทบถึงการจัดสรรเงินอุดหนุนพรรคการเมืองที่ได้รับจาก กกต.ต้องเหือดหายลงตามสัดส่วน
อยู่ในภาวะเข้าเนื้อทั้งจำนวน ส.ส. ฐานเสียง และเงินอุดหนุนพรรคที่ลดหลั่นลงเรื่อยๆ
ก็เป็นธรรมดาที่ต้องส่งเสียงโหวกเหวกดังกว่าปกติ
ผิดกับฝ่ายอำนาจพิเศษที่ฉกฉวยความได้เปรียบทางการเมือง โชว์เพาเวอร์ทาบขั้วการเมืองต่างๆเข้าสังกัด เติมฐานเสียงให้เข้มแข็งในสนามเลือกตั้งสมัยหน้า
แนวโน้มสารพัดมุ้ง อาทิ กลุ่มวังน้ำยมของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ทีมบ้านริมน้ำ ของ นายสุชาติ ตันเจริญ และ ตระกูลสะสมทรัพย์ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งนครปฐม ไม่แคล้วได้ตามรอยพรรคพลังชลเข้าสังกัดใหม่
มีโอกาสบดแต้มกับนักเลือกตั้งมืออาชีพได้อย่างไม่ขี้เหร่
ดูตามรูปการณ์แล้วยังไงก็ทำแต้มได้ถึง 25 ที่นั่ง ได้สิทธิเสนอชื่อ “ลุงตู่” เป็นนายกฯรอบใหม่แน่นอน
ส่วนพวกที่เหลืออย่างพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคภูมิใจไทย ตลอดจนพรรคเล็กพรรคน้อยที่เหลือ ก็พร้อมกระโดดเกาะขบวนตีตั๋วร่วมรัฐบาล
โดยเฉพาะตัวแปรสำคัญที่มีทั้งอำนาจและอาวุธอย่างกองทัพออกตัวพร้อมเป็นกำแพงพิงหลัง
ตามทิศทางที่ พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.ทหารสูงสุด ให้ความมั่นใจทหารมีแผนรองรับดูแลสถานการณ์บ้านเมืองให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย ช่วงครบรอบ 4 ปีการทำรัฐประหาร คสช.ที่อาจมีการเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมืองในเดือน พ.ค.นี้
ทหารการันตีพร้อมช่วยประคองบรรยากาศบ้านเมืองให้อยู่ในความสงบ
ออกตัวให้ความสนับสนุน “บิ๊กตู่” ทำหน้าที่ผู้นำต่อไป แม้จะเปลี่ยนเวทีไปลงสนามการเมือง แสดงท่าทีพร้อมปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล
กองทัพส่งสัญญาณเลือกข้างอยู่ฝั่ง “ลุงตู่” ปัจจัยทุกอย่างอยู่ในคอนโทรลอำนาจของ คสช.หมด
เหลือแค่รอจังหวะแต่งตัวลงสนามเท่านั้น!!!
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: