PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2561

ระดมทุกเครือข่ายแล้ว

ระดมทุกเครือข่ายแล้ว



ไม่ใช่แค่ระดับคีย์แมนแกนนำ แต่ผู้เล่นบนกระดานอำนาจการเมืองไทย ใครมีสายสัมพันธ์กว้างขวาง
คอนเนกชันกว้างไกล “ได้เปรียบ”
ตัวอย่างล่าสุด “จั้ม” สกลธี ภัททิยกุล อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการแต่งตั้งจาก “บิ๊กวิน” พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง พ่อเมืองกรุงเทพฯ ดึงมาเป็นรองผู้ว่าฯ กทม.
จะบอกว่าอำนาจพิเศษ “ดูด” ขุนพล ปชป. ก็อาจจะถูกต้อง แต่ไม่ทั้งหมด
เพราะถ้าหากดูจากทิศทางความเคลื่อนไหว หลัง “สกลธี” ตามคน ปชป.เข้าพบ “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกฯ ก่อนจะมาได้รับเก้าอี้ใหญ่เมืองกรุง สายสัมพันธ์ด้านนี้ก็มีส่วนไม่ใช่น้อย
แต่ถ้าลงลึกไปกว่านั้น อดีต ส.ส.กทม.รายนี้ ถึงจะพลาดท่าเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด จนสอบตกที่เขตหลักสี่ แต่ดีกรีที่มีอยู่ก็ไม่ได้ร่อยหรอลงไป โดยเฉพาะในฐานะลูกชายหัวแก้วหัวแหวน “บิ๊กตุ่น” พล.อ.วินัย ภัททิยกุล อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นมันสมองท็อปบูตเมื่อคราวรัฐประหารปี 2549
ระดับที่เรียกกันว่าเป็น “ขงเบ้ง คมช.”
รวมทั้ง “บิ๊กตุ่น” ถือเป็นอีกเพื่อนเลิฟจากรั้วเซนต์คาเบรียล เตรียมทหาร และ จปร.ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ประธานรุ่นตท.6 ตลอดกาล
และในยุค คมช. สมัย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ไต่ระดับในกองทัพ
“บิ๊กตุ่น” กับ “บิ๊กตู่” ก็ไม่ได้ห่างไกลกัน ก็มีโอกาสร่วมงานกันอยู่หลายจ๊อบ
ถึงแม้วันนี้ พล.อ.วินัย จะรามือวงการไป แต่ที่มาแทนก็คงไม่พ้น “จั้ม–สกลธี” โดยแน่นอน สายสัมพันธ์ของผู้เป็นพ่อ ทั้งในวงอำนาจ นักการเมือง กองทัพ นักธุรกิจ ย่อมแบ็กอัพลูกชายอยู่เบื้องหลัง
ไม่เท่านั้น ในฐานะขุนพลเอกของ “ลุงกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีตบิ๊ก กปปส. ถึงวันนี้คุณลุงแห่งเมืองสุราษฎร์ธานี ยังดูวุ่นๆดิ้นหัวหมุน
แต่ก็ยังมีพลังเหลือในเส้นทางสู่ตึกใหญ่ย่านเสาชิงช้า
ทั้งหมดทั้งปวง ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ อีกตัวละครเอก “บิ๊กวิน” พล.ต.อ.อัศวิน ที่เคยแตะทุกขา ทั้งพะยี่ห้อทีม กทม.ของค่ายประชาธิปัตย์ อีกขาก็เชื่อมต่อ “ลุงกำนัน” แต่ถ้าดูช็อตสุดท้ายก่อนขึ้นนั่งแท่นผู้ว่าฯ กทม.
ผู้มีอุปการคุณของ “บิ๊กวิน” คือ “นายกฯลุงตู่” เต็มๆ
สรุปได้ว่า ชื่อธรรมดาๆอย่าง “สกลธี” นั้นไม่ธรรมดา มีแรงดูด–แรงผลักรอบตัว และเมื่อเข้ามาเสริมทัพพ่อเมือง กทม. ที่เริ่มเห็นสัญญาณรักษาการกันยาว จนต้องจับตาในช็อตต่อไป เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งใหญ่
ยุทธการตีแตกเมืองกรุงของค่ายใหม่ลายพราง พรรค “หนุนลุงตู่” จะพุ่งทะลุ
แย่งแต้ม “ปชป.–เพื่อไทย” ในสนาม กทม.ได้มากน้อยแค่ไหน
อาจต้องเอี่ยวเดิมพันไว้ที่ทีม “บิ๊กวิน”
นั่นก็ถือเป็นอีกทัพย่อยทัพสำคัญของ “อำนาจพิเศษ” ที่จองตั๋วในเฟสต่อไป เริ่มชัดกันหลายจุดแล้ว โดยเฉพาะเรื่องพรรคหลัก ที่ “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” เปิดไต๋
ค่ายการเมือง “สมคิดแอนด์โค” รังสรรค์ หนุน “ลุงตู่” ต่อตั๋ว
ในสูตรไม่มีใครเหมือน จากที่ประเมินว่าจะใช้สูตร “ป๋าเปรมโมเดล” นำไปสู่เป้าหมายนายกฯคนนอกของ “นายกฯลุงตู่” แต่วันนี้ดูเหมือนจะมี “รสช.โมเดล” ตั้งพรรคการเมืองระดมเสียงหนุนมาสอดแทรก
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายว่าจะรอเสลี่ยงหามเป็น “ผู้นำคนนอก” เสียทีเดียว
เพราะตัว “บิ๊กตู่” เองก็อ้อมแอ้ม ไม่บอกปัดเดินเข้าระบบ แปะชื่อในฐานะ “คนใน” พรรคการเมือง
นั่นก็เริ่มมองไปถึงทางสุดท้าย แผนต่อตั๋วของผู้นำอาจจะเป็น “สูตรผสม” ระหว่าง “ป๋าเปรมโมเดล” บวก “รสช.สไตล์” พร้อมกับเติมสูตรของตัวเองคลุกเคล้า
เป็นตำรับใหม่ “ประยุทธ์โมเดล” ในเกมอำนาจยุคเปลี่ยนผ่าน.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: