PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ได้จังหวะโชว์การบ้าน

ได้จังหวะโชว์การบ้าน



เกือบโดน “สอดไส้” เมนูโปรดของคนสภา
ตามปรากฏการณ์ล่าสุด ที่ประชุม ครม.โดยบัญชาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ได้สั่งตีกลับงบประมาณเพิ่มเติมโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ 8,000 ล้านบาท เนื่องจากอุปกรณ์บางรายการแพงเกินไป อาทิ ไมโครโฟน 1.2 แสน นาฬิกา 7 หมื่น
และนี่คือสิ่งที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า เมื่อย้อนไปเปรียบกับสภายุคที่พรรคเพื่อไทยคุม เกิดเรื่องฉาวปมนาฬิกาแพงเหมือนกัน แต่โดนลากไส้ประจานภายหลังการจัดซื้อจัดจ้างไปแล้ว
เกิดความเสียหาย เงินของแผ่นดินโดนงาบเข้าปากไอ้โม่ง
วัดกันตรงนี้ ต้องถือว่ามาตรฐานการป้องกันโกงของทีม “ลุงตู่” ยังไงก็ดูมีภาษีกว่า
แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินอย่างสมเหตุสมผล ไม่ปล่อยให้ “ลักไก่” กันง่ายๆ แม้จะเป็นงานของสภาที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่จัดอยู่ในข่าย “คอหอยลูกกระเดือก” ก็ตาม
นั่นยังรวมไปถึงปรากฏการณ์ไล่จับโกงงบประมาณช่วยเหลือคนยากไร้ในกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ การโกงเงินทอนพระ การทุจริตเงินกองทุนการศึกษาของเด็กด้อยโอกาสในกระทรวงศึกษาธิการ ฯลฯ
ที่เรื่องแดงขึ้นมาประจานพร้อมๆกันในยุคของรัฐบาลทหาร คสช.
เรื่องของเรื่องก็เป็นรัฐบาล “ลุงตู่” ที่เดินหน้าลุยล้างบางเจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการเลว ขบวนการทุจริตที่ผูกปีโกงกันมาจนกลายเป็นวัฒนธรรม ผ่านมาไม่รู้กี่รัฐบาลต่อรัฐบาล
โดยรูปการณ์มันชัดว่า ทีม “นายกฯลุงตู่” เอาจริงเอาจังกว่ายุคอื่น
ไม่ปล่อยให้เหลือบแฝงหากินกับเงินหลวงง่ายๆอีกแล้ว
ว่ากันตามแนวโน้มสถานการณ์ มันก็คือความเปลี่ยนแปลงที่สมควร นำไปสู่ความเหมาะสมตามความหมายในพจนานุกรมของคำว่า “ปฏิรูป” นั่นเอง
แค่นี้ก็พอที่ “นายกฯลุงตู่” จะเอ่ยอ้างได้
แม้มันอาจจะไม่เพียงพอกับคนที่ตั้งความหวังไว้มากๆอย่าง “เดอะปื๊ด” นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ที่เพิ่งออกมาแสดงอาการเหนื่อย
“ท้อใจ” งานปฏิรูปในภาพรวมไม่เห็นว่าจะไปจบลงอย่างไร
ไม่แน่ใจว่าการปฏิรูปจะสำเร็จหรือไม่
ตามสไตล์ยี่ห้อ “บวรศักดิ์” ที่ไม่ค่อยมีภูมิคุ้มกันอาการผิดหวัง อย่างที่เคยแสดงอารมณ์ตอนร่างรัฐธรรมนูญฉบับ “นางฟ้า” โดนคว่ำไม่เป็นท่า
เป็นที่มีของวาทกรรม “เขาอยากอยู่ยาว”
“บวรศักดิ์” เล่นเอาทีมงาน คสช. ต้องเจอแรงกดดัน เผชิญเสียงโห่ฮามาพักใหญ่ มารอบล่าสุด “เดอะปื๊ด” ก็เปิดปมปฏิรูปเหลว เรียกแขกให้ “นายกฯลุงตู่”
กระตุกภาวะ“อุปาทานหมู่” ตามอาการของคนพรรคเพื่อไทย กับคนของประชาธิปัตย์รีบกระโดดเข้าร่วมวงแห่กระแส กระแนะกระแหน แดกดัน“ลุงตู่”ทำเสียของ
4 ปี คสช.ไม่ได้มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ถึงขั้นเค้นคอถาม ใครจะรับผิดชอบกับเวลาที่เสียไป
แต่อีกมุม คิวนี้ก็เหมือน “เดอะปื๊ด” เขี่ยลูกให้ “นายกฯลุงตู่” ได้จังหวะโชว์เนื้องาน
11 วาระปฏิรูป 137 กิจกรรม ที่ทำจริงๆไม่ได้พูดด้วยปากอย่างเดียว
ตามเนื้องานแบบที่เห็นกันตรงหน้า
ปฏิรูปการเมืองให้พ้นจากกับดักขั้วขัดแย้ง สลายสี มีพรรคการเมืองเกิดขึ้นใหม่จำนวนมาก
การปฏิรูปเศรษฐกิจที่เกิดความร่วมมือจากภาคเอกชนและประชาชนมากที่สุดในรูปแบบของประชารัฐ จนเศรษฐกิจโตกว่าร้อยละ 4 จากที่ติดลบ
การส่งเสริมพัฒนาการค้า การลงทุน ผุดเมกะโปรเจกต์ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โครงการรถไฟความเร็วสูง
ครั้งแรกในประเทศไทย บัตรคนจนถึงมือชาวบ้านโดยตรง ชนบทมีอินเตอร์เน็ตใช้ทั่วถึง
โครงการเสริมสร้างสุขภาพ การศึกษา การปฏิรูปด้านสังคม ทำให้ประเทศสงบสุข ทุกสีสามารถคุยกันได้ ทำกิจกรรมร่วมกันได้ โดยที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลสามารถเดินทางไปได้ทุกจังหวัด
การปฏิรูปด้านความมั่นคง พัฒนาศักยภาพกองทัพให้ทัดเทียมนานาประเทศ
โดยเงื่อนไขสถานการณ์ 4 ปีรัฐบาล คสช. เทียบกับ 4 ปีก่อน คสช.เข้ามา
“นายกฯลุงตู่” มีการบ้าน “ปฏิรูป” ส่งเต็มโต๊ะก็แล้วกัน.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: