PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

แนวรบที่ คสช.เป็นรอง

แนวรบที่ คสช.เป็นรอง



เมาหมัด เมากระแส
ว่ากันตามอาการของ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. กับ “พี่ใหญ่” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม
ที่ต้องเจอกับ “กระแสเด้งกลับ” พลิกไปพลิกมา
ภายหลังออกมาขอโทษสังคม พร้อมเฉ่ง “ตำรวจกองปราบฯ” ที่บุกจับอดีต “พุทธะอิสระ” แบบรุนแรงเกินเหตุ กระตุกแรงกระเพื่อม เปิดทางให้ฝ่ายต่อต้าน “ล็อกคอ” ประจานความเป็น “พวกเดียวกัน” ตอกย้ำด้วยภาพ “3 พี่น้องบูรพาพยัคฆ์” ร่วมอยู่ในพิธีปลุกเสกกับอดีตเจ้าสำนักอ้อน้อย
ทั้งๆที่ปรากฏการณ์ “ฟ้าผ่าดงขมิ้น” กระตุกกระแสประชาชนทั่วบ้านทั่วเมืองยกมือสาธุ กับปฏิบัติการจัดการกับเหลือบศาสนา หลังจากที่ลูบหน้าปะจมูกกันมานาน
ที่สำคัญจัดการทั้งสองข้างอย่างไม่เลือกปฏิบัติ คลายปม “สองมาตรฐาน”
สถานการณ์เขย่าให้เข้าจุดโฟกัส ขยายภาพโหมดของการ “ปฏิรูปอย่างแท้จริง” แทนที่ “ลุงตู่” จะดึงแต้มความเป็นกลางกลับมา กลับกลายเป็นตอกย้ำกลับไปเลือกข้างอย่างเด่นชัด
เปิดคางให้ฝ่ายตรงข้ามทิ่มหมัดตรงเข้าปลายคาง ขาสั่น เซแซดๆ
แถมจังหวะยังไหลเข้าโหมด “ขนมผสมน้ำยา” กระแสมะรุมมะตุ้มผสมนัวเนียคนละเรื่องเดียวกัน
ตามอาการหงุดหงิดของฝ่ายความมั่นคง คสช. คำรามฮึ่มๆตั้งท่าจัดการกับกระบวนการปล่อยข้อมูลเท็จ เพจปลอมในโลกโซเชียลฯ ที่ถล่มรัฐบาลแบบรายวัน
ทั้งปมน้ำมันแพง ประเด็นแอบหมกเม็ดขึ้นภาษี ไปยันเรื่องพระฉาว
“บิ๊กตู่” ถูกลากเข้าสงครามที่ไม่ถนัด
โดนอัดหนักใน “cyber warfare” สงครามโซเชียลมีเดีย
ปรากฏการณ์ที่แม้แต่เพจอวย “ขอล้าน Like สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ” ทำโพลครบรอบ 4 ปี คสช.สอบถามผู้คนในเฟซบุ๊กยังสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศต่อหรือไม่
ตัวเลขออกมาแบบล้นทะลักเกินร้อยละ 90 กว่าๆที่กากบาทแดง โหวตโน
หักมุมกับจังหวะเดินหน้า “ตีตั๋วต่อ” ที่ “ลุงตู่” จ่อประกาศความชัดเจนในเดือนมิถุนายนนี้
โดนเข้าไป 3–4 ดอกติดๆ ทีมท็อปบูตเสียอาการทรงตัวไม่น้อย
เรื่องของเรื่อง โดยปรากฏการณ์ “ปืนลั่น” ปมอดีต “พุทธะอิสระ” ที่ “ลุงตู่” เขี่ยลูกไปเข้าทางบาทาฝั่งตรงข้ามเอง และนั่นก็พานไปกดทับภาพรวมของสงครามโซเชียลมีเดีย เพจจริง เพจปลอม ที่รัฐบาล “ลุงตู่” ถูกขึงพืดอย่างหนัก ตามสภาพการณ์ที่ต้องยอมรับในความเขี้ยวของฝ่ายทหารยังไงก็ด้อยประสิทธิภาพกว่า
เมื่อเทียบกับ “โคตรเซียนการตลาด” ที่มีเครือข่ายการสื่อสารอยู่ในมือ
ตามธรรมชาติ ระดับความน่าเชื่อถือในโลกโซเชียลที่กรองหลายๆชั้น ซึ่งในวงการมืออาชีพจะรู้กันดีว่า กระบวนการปั่นตัวเลขเสกยอดไลค์ในโซเชียลฯ มันทำกันได้ แบบที่ธุรกิจขายตรงนิยมซื้อยอดไลค์ ปั่นกระแสความนิยมสินค้า จ้าง “หน้าม้า” มากระตุกเรตติ้งกันเป็นกระบวนการ
ตัวเลขหลักแสนหลักล้านไลค์ปั่นได้แค่ภายในไม่กี่ชั่วโมง
แต่แน่นอน โดยสถานการณ์กระแสเฉพาะหน้า ผลออกมาหักมุม “หักหน้า” แบบนี้ รัฐบาลเองก็ตั้งหลักไม่ทัน ตามอาการแบบที่ “เสธ.ไก่อู” พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล อ้อมแอ้มๆ “นายกฯลุงตู่” รับรู้ผลโหวตของเพจหนุนแล้ว แต่ให้ไปวัดของจริงในการเลือกตั้งดีกว่า
คิดมุกตีกรรเชียงชิ่งไม่ออก ไม่รู้จะเบี่ยงตัวยังไง ในเชิงกระแสแบบที่ฝ่ายตรงข้ามได้ที “แคปหน้าจอ” ล็อกผลโหวตเพจหนุน พล.อ.ประยุทธ์มัดคอ สกัดเส้นทางตีตั๋วต่อของ “นายกฯลุงตู่”
ประจานขนาดฝ่ายหนุนยังไม่เอาเลย
ยังไม่นับสถานการณ์ของปมราคาน้ำมันแพง ที่เล่นถึงขั้นตัดต่อคำพูด “นายกฯลุงตู่” ไล่ให้ประชาชนเติมน้ำเปล่าแทนน้ำมัน ปั่นกระแสบอยคอตไม่เติมน้ำมันปั๊ม ปตท.
ทั้งๆที่ว่ากันไป มันก็เป็นปรากฏการณ์ “เดจาวู” น้ำมันแพงทุกครั้ง ก็จะเห็นอาการของผู้คนในสังคมที่หงุดหงิดพาลรัฐบาล และนั่นก็เข้าทางขบวนการแนวร่วมที่กัดติดสัมปทานปิโตรเลียม
จองเวร ปตท. ล่อเป้ามาทุกรัฐบาลที่ไม่ทวงคืนสมบัติชาติ
หรือแม้แต่ประเด็นรัฐบาลจ่อขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) เป็น 8 เปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ 1 ต.ค.2561 ที่แชร์กันว่อน ด่ากันกระเจิง ทั้งๆที่เป็นเพียงข้อกำหนดตามประมวลรัษฎากรปี 2534 ทุกปีรัฐบาลโดยมติ ครม.จะพิจารณาออกกฎหมายมาลดอัตราภาษีแวต
ให้จัดเก็บจริงที่ 7 เปอร์เซ็นต์ คงเดิมต่อไป
แต่ฝ่ายต้านก็ยังเอามาถล่มตีกิน เขี่ยลูกให้คนรุมด่าทีมงาน “ลุงตู่” ได้
ภายใต้แนวรบสงครามไซเบอร์ ทหาร คสช.ตกเป็นรองตลอด.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: