PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2561

มุกเก่าจะเอาอยู่หรือ

มุกเก่าจะเอาอยู่หรือ



มุกเก่า แต่ก็เข้าเป้า ยังใช้ได้ผลตลอด
กับภาพ 2 พี่น้อง อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร กับ “น้องปู” อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เฉิดฉายสบายอกสบายใจอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ปรากฏหราอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ 3-4 ฉบับ
ตามเหลี่ยมที่จับทางได้ ตั้งใจโชว์ “ชีวิตดี๊ดี” เบิ้ลบลัฟฝ่ายคุมเกมอำนาจประเทศไทย
เย้ยกันเป็นนัย ภายหลัง “น้องปู” เพิ่งได้วีซ่าจากประเทศอังกฤษยาว 10 ปี สามารถบินโฉบฉายไปได้ทุกประเทศในโลกเสรีประชาธิปไตย ยกเว้นประเทศไทย
แถมในจังหวะสถานการณ์ที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ที่เป็นคนยกเลิกหนังสือเดินทางอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ กำลังตกที่นั่งลำบาก
สถานภาพคลอนแคลนจากวิบากกรรมเมียถือหุ้นบริษัทเอกชน เจอกดดันให้ปรับพ้นคณะรัฐมนตรี
ก็ยิ่งเป็นอะไรที่ “หักมุม” เข้าเหลี่ยมเบิ้ลตีกินของทีม “นายใหญ่”
ตามสภาพการณ์เหมือนเงื่อนไขสถานการณ์เป็นใจ ทุกอย่างกำลังไหลเข้าทางดูไบ
แต่อีกนัยหนึ่ง ถ้าอ่านสถานการณ์ให้ลึกๆกับจังหวะเลี้ยงเรตติ้ง กระตุ้นกองเชียร์
นั่นก็สะท้อนเกมบีบ “นายใหญ่” ต้องเคลื่อนไหว แสดงตัวตนตลอดเวลา
เพื่อกระตุกลูกพรรคเพื่อไทยที่กำลัง “ชั่งใจ”
จะเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายลุยเผชิญวิบากกรรมกับ “ทักษิณ” ที่ยังไม่รู้ทิศรู้ทางจะสู้เต็มตัวหรือไม่
หรือย้ายพรรคเปลี่ยนสังกัดใหม่ไปอยู่ในที่ปลอดภัย
ตามสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยที่เข้าสู่ความเงียบงัน ภายหลังมีความชัดเจนว่า
“เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง คือผู้ถูกเลือกให้ถือธง “นอมินี” นำทัพสู้ศึกเลือกตั้ง
โดยยังไม่ได้ยินเสียงจากฝั่งของ “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เจ้าแม่วังบัวบาน หรือ “เฮียเพ้ง” นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล แกนนำขาใหญ่ระดับ “หัวจ่าย” ท่อน้ำเลี้ยง
เห็นพ้องต้องกันเป็นเอกฉันท์หรือไม่
ที่สำคัญพร้อมจะลงทุนลงแรงสู้แบบเต็มกำลังแค่ไหน
และอีกทางหนึ่งก็สังเกตได้ถึงการแปรรูปขบวนยุทธการ “แยกกันเดินรวมกันตี”
มอบธงนอมินีให้ “เจ๊หน่อย” แล้ว “นายใหญ่” ยังมุ่งไปที่การเปิดดีล แตะมือกับ “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่เรตติ้งวูบวาบกว่า แถมยังพ่วงด้วย “บิ๊กตู่ตำรวจ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ที่แสดงตัวแสดงตนเป็น “ตัวชน” กับทีมทหาร คสช.อย่างถึงแก่น
แผนหนึ่ง แผนสอง แผนสาม “เจ๊หน่อย-ธนาธร-เสรีพิศุทธ์”
ไม่รู้ใครจะเป็น “ตัวจริง” ของ “ทักษิณ” ในศึกทวงคืนอำนาจ
ตามสถานการณ์ที่ยังสับสนในทิศทางการต่อสู้ ประกอบกับเงื่อนไขการเลือกตั้งตามกติการัฐธรรมนูญใหม่ที่สลับซับซ้อน ไม่นับด่านองค์กรอิสระที่ดักอยู่รายทาง
ถึงยี่ห้อ “ทักษิณ” จะกระแสดียังไง
เกมการตลาดเหนือกว่าทหาร เป็นต่อในแนวรบสงครามโซเชียลมีเดีย
แต่โอกาสจะได้ครองเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องที่แสนลำบาก
ยากจะฝ่าเกมล็อก 3-4 ชั้น
นี่คือสถานการณ์ “ย้อนแย้ง” ที่ทำให้ลูกข่ายพรรคเพื่อไทยต้องคิดหนัก
ที่แน่ๆพวกรุ่นใหญ่ มวยเก๋าเกมอ่านขาด กระโดดสละเรือกันก่อนแล้ว
ตามแนวโน้มแบบที่บ้านใหญ่นครปฐม ตระกูลสะสมทรัพย์
ไม่ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยค่ายพลังชลของบ้านใหญ่ชลบุรี ทีมงานตระกูล “คุณปลื้ม” ถูกดึงเข้าเสริมงานการเมืองรัฐบาล
ยี่ห้อ “สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สุชาติ ตันเจริญ” อาสาเป็นทีมระดมพล
เป็นฐานต้นทุนให้ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ตีตั๋วต่อ
โชว์ตัวแสดงความชัดเจนกันตั้งแต่หัววัน
ท่ามกลางเสียงด่ารัฐบาล การโหมเกมของฝ่ายต่อต้าน “นายกฯลุงตู่” ช่วยกันปลุกอุปาทานหมู่ ชาวบ้านเดือดร้อนปากท้อง ตัดแต้มดิสเครดิตทีมเศรษฐกิจของกัปตันทีมอย่าง “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์”
เตะสกัดเส้นทางไปต่อของ พล.อ.ประยุทธ์
แต่นั่นก็สวนทางกับข่าววงใน ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของอดีต ส.ส.ที่จ่อเข้าร่วมค่าย “พลังประชารัฐ”
ว่ากันว่าหลายทีม หลายจังหวัด เปิดมาเซอร์ไพรส์
แบบที่ปากยังด่า แต่ตัวมาแล้ว.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: