PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2561

เหนื่อยสู้กับความรู้สึก

เหนื่อยสู้กับความรู้สึก



กลายเป็น “มวยนอกสายตา” ที่ตกม้าตายตอนจบ
ตามสภาพสะบักสะบอมของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ที่โดนนักข่าวดักล้อมหน้าล้อมหลัง จี้ถามเรื่องการแสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่ง
สะดุดปมหุ้นของเมีย เสียผู้เสียคนตอนแก่
ตกเป็นเหยื่ออันโอชะทางการเมือง ถูกขบวนการหมั่นไส้รัฐบาล คสช. ลากเข้าเหลี่ยมกระแทกชิ่ง “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.
โดนล่อเป้าแบบรายวัน ไม่รู้จะอึดไปได้อีกนานแค่ไหน
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่มีพวกจ้องฉวยเอาวิกฤติของ รมว.ต่างประเทศ เป็นโอกาส “เขย่า” ให้เกิดช่องว่าง เพื่อโอกาสลุ้นเสียบ ครม.ร่วมขบวน “ลุงตู่”
“ข่าวปล่อย” ปรับ ครม.ว่อนตั้งแต่นาทีแรกที่นายดอนเจอพิษหุ้น
ตามท้องเรื่องที่กระแสไหลเร็ว พาดโยงไปถึง “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ตกเป็นเป้าแรกที่จะโดนเขี่ยออก เพื่อสลับฉากให้พลเรือนเข้ามานั่งคุมมหาดไทย
เป้าหมายแซะ “พี่รอง” ก่อนใครเลย
นั่นก็ทำให้เจ้าตัวต้องขยับเดินแต้ม เปิดโปรแกรมความพร้อมการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นภายในสิ้นปี ต่อเนื่องกับกระแสความเคลื่อนไหวทางลึกที่ว่ากันว่ามีการดีลกับอดีตพ่อเมืองคนดังที่เกษียณไปแล้ว รวมถึงผู้นำท้องถิ่น นายก อบจ.ที่ฐานคะแนนแน่นๆ
เดินแผนปั้นกองกำลัง ส.ส.ในสนามเลือกตั้ง
“บิ๊กป๊อก” เดินหมากวางเกมยาว หวังเกาะขบวนตีตั๋วต่อกับ “บิ๊กตู่” ดูแล้วไม่ใช่จะแซะกันง่ายๆ
และพูดก็พูด ปรากฏการณ์ “น้องเล็ก” โละ “พี่รอง” โอกาสความเป็นไปได้แทบจะไม่มี ตามสภาพการณ์ของ 3 พี่น้องที่เกาะเกี่ยวกันอย่างเหนียวแน่นมากว่า30 ปี
มีข่าวมาเป็นสิบๆรอบแล้วก็ยังเหนียว
“เสือซุ่ม–สิงห์เงียบ” ยังยึดมหาดไทยไว้ได้แบบนิ่งๆ
เรื่องของเรื่อง จับทางเป้าจริงของการปล่อยข่าว เขย่าที่ว่างใน ครม. มุ่งโฟกัสไปที่ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ตามรูปเกมที่มีการแห่กระแส กระตุกอุปาทานหมู่ปัญหาปากท้อง
กดดันมัดคอ “ลุงตู่” ต้องปรับรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ
โดยมีนักการเมืองทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์แท็กทีมช่วยเขย่า เป้าหมายร่วมอยู่ที่เกมดิสเครดิต “จอมยุทธ์กวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ
เตะตัดขาค้ำยันนั่งร้านสำคัญของ พล.อ.ประยุทธ์
ตามท้องเรื่อง โยงปมล้มเหลวสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ เพื่อเตะสกัดการตีตั๋วต่อของ “นายกฯลุงตู่” กับค่าย “พลังประชารัฐ” ยี่ห้อที่ “สมคิด” การันตี เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ
“ข่าวปล่อย” ปรับ ครม. งานนี้สมประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย
แต่มันคือความเสียหายอย่างใหญ่หลวงสำหรับรัฐบาล คสช.
อารมณ์แบบที่ล่าสุด “นายกฯลุงตู่” ต้องขอพูดแบบเปิดใจ ปล่อยเบรกยาวกับสื่อ
ระบายความอัดอั้น ที่โดนวิพากษ์วิจารณ์ว่า “สูญเปล่า”
ทั้งๆที่รัฐบาลมีผลงานปรากฏเยอะแยะเป็นร้อยเป็นพัน แก้ปัญหาหมักหมมของประเทศได้มากมาย
ยืนยันไม่ได้ต่อสู้เพื่อให้ได้อยู่ได้นาน แต่พยายามทำดีที่สุดเพื่อคนไทย 4 ปีไม่สูญเปล่า
ยอมรับยังมีความเป็นมนุษย์สูง ย่อมมีผิดพลาด มีโมโห มีโกรธ ไม่เข้าใจทำไมหลายคนต้องทำลายเกียรติยศนายกรัฐมนตรีของประเทศ โดยเฉพาะคำผรุสวาทในโซเชียลมีเดีย
บิดเบือนจนตำแหน่งนี้ “fail” ล้มเหลวไปหมด
ถึงจุดที่ “ลุงตู่” ต้องเบิ้ลกระแสกลับแบบแรงๆ หลังโดนต้อนเข้ามุมอับเป็นฝ่ายตั้งรับ รัฐบาลตกเป็นรองแนวรบไซเบอร์วอร์ สงครามโซเชียลมีเดีย
ขณะที่ “สมคิด” ก็วิ่งสู้ฟัด เอาข้อมูลที่มีหลักแหล่งยืนยันได้มาหักล้างเกมปั่นกระแสความรู้สึกชาวบ้าน
ระบุล่าสุดได้รับการยืนยันจากหน่วยงานต่างประเทศที่ประเมินการเติบโตมองเศรษฐกิจไทยฟื้นแล้ว
โดยปีนี้จะเติบโตได้มากกว่าร้อยละ 4 อย่างแน่นอน
แต่ใช้เวลาอีกไม่นานการเติบโตจะลงไปถึงรากหญ้า เพราะตอนนี้ราคาพืชผลการเกษตรยังตกต่ำ
ว่ากันตามสภาพคนทำงานหนักที่ต้องสู้กับกระแสลอยๆ.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: