PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ของดีต้องแพง

ของดีต้องแพง



หากหวังจะสืบทอดอำนาจ คสช. หลังเลือกตั้งต้นปีหน้าให้ยาวว์ว์ไปสุดซอย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเวลาเหลืออีก 8 เดือน เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจรากหญ้าให้เห็นผลเป็นรูปธรรม
ต้องดันราคาสินค้าเกษตร (ข้าว ยาง ปาล์ม ข้าวโพด ฯลฯ) ให้ขยับขึ้นพรึ่บพรั่บพร้อมกันทุกตัว
นี่คือ “โจทย์หิน” ที่รัฐบาลบิ๊กตู่ กำลังเร่งปลํ้าฟัดสุดลิ่มทิ่มประตู
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า โชคดี ปีนี้ราคาข้าวไทยดีขึ้นผิดหูผิดตา ทำให้ นายกฯบิ๊กตู่ เบาใจไปได้อีกหลายกิโล
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ออกมาฟันธงว่าปีนี้จะเป็น “ปีทองของตลาดข้าวไทย” เนื่องจากต่างประเทศแห่กันสั่งซื้อข้าวไทยจนหัวกระไดเป็นมัน ทั้งแอฟริกา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ฮ่องกง และมาเลเซีย ฯลฯ
โดยเฉพาะพี่เบิ้มจีนกระหน่ำซื้อข้าวไทยไปแล้ว 6 แสนตัน และกำลังเจรจาจะเซ็นสัญญาซื้อข้าวลอตใหญ่เพิ่มอีก 1 ล้านตัน
ส่งผลให้ปีนี้ไทยส่งออกข้าวสูงทะลุเป้า 10 ล้านตัน!!
สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ถึง 5 แสนตัน
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่า แนวโน้มตลาดข้าวไทยจะสดใสต่อไปอีก 2 ปี ช่วยให้พี่น้องชาวนา ซึ่งขาดทุนบักโกรกมาหลายปี มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นกอบเป็นกำ
โดยเฉพาะข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาพุ่งกระฉูดไปถึง 18,800 บาทต่อตัน สูงกว่าราคาเฉลี่ยปีก่อนถึง 7,000 บาทต่อตัน
การที่ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิทำสถิติสูงที่สุดในรอบ 10 ปี เป็นใบเสร็จยืนยันว่า ข้าวหอมมะลิไทย ยังผูกขาดตำแหน่งแชมป์ข้าวตลาดพรีเมียมต่อไปอีกยาวนาน
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า ยิ่งข้าวหอมมะลิไทยขายดี และขายได้ราคาแพง ยิ่งทำให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาพันธุ์ข้าวให้ใกล้เคียงข้าวหอมมะลิไทย
เพื่อขายตัดราคาแย่งตลาดข้าวไทยกันอึกทึกครึกโครม
ที่กำลังมาแรงคือ “ข้าวหอมดอกมะลิ” และ “ข้าวดอกลำดวน” ของกัมพูชา ซึ่งใช้สายพันธุ์เดียวกับข้าวหอมมะลิไทย
ที่แสบติ่งยิ่งกว่าคือ “เวียดนาม” ซึ่งจ้องตัดราคาแย่งตลาดข้าวไทยทั้งตลาดล่างและตลาดบน
“เวียดนาม” เอาพันธุ์ข้าวดอกมะลิของกัมพูชา (ซึ่งมาจากพันธุ์ข้าวหอมมะลิไทย) ไปพัฒนาพันธุ์ใหม่เป็น “ข้าวหอมมะลิเวียดนาม”
ขายตัดราคาถูกกว่าข้าวหอมมะลิไทยถึง 200 เหรียญต่อตัน!!
อ้อ...ยังมีข้าวหอมมะลิพม่า เริ่มส่งออกช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดข้าวหอมมะลิไทยเพิ่มอีกราย
ล่าสุด มีข้าวหอมมะลิอเมริกา เรียกว่า “อเมริกัน จัสมิน” พัฒนาสายพันธุ์จากข้าวหอมมะลิไทย เริ่มแผ่พังพานบุกตลาดข้าวพรีเมียม ฮ่องกง และฟิลิปปินส์
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า แม้จะถูกคู่แข่งตัดราคาแย่งตลาดข้าวไทยกันอุตลุด
แต่ “จุดแข็ง” อยู่ที่คุณภาพข้าว หอมมะลิไทยยังเหนือกว่าข้าวหอมมะลิคู่แข่งครึ่งช่วงตัว
ปัญหาอย่างเดียว ข้าวหอมมะลิไทยยุคปัจจุบันกลิ่นไม่หอมติดลิ้นเหมือนข้าวหอมมะลิไทยเมื่อ 10 ปี 20 ปีที่ผ่านมา
เพราะปุ๋ยเคมีทำให้ความหอมดั้งเดิมหอมธรรมชาติ หอมเป็นเอกลักษณ์เจือ
จางลง
“แม่ลูกจันทร์” ยํ้าว่า ถ้าไม่รักษาคุณภาพข้าวหอมมะลิไทยให้คงเส้นคงวา
ตลาดข้าวหอมมะลิไทยต้องเจอศึกหนักแน่นอน
โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิเวียดนาม ประมาทไม่ได้นะโยม.
“แม่ลูกจันทร์”

ไม่มีความคิดเห็น: