ปลดล็อกก็ไม่ทันแล้ว

มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรจังหวัดอุบลราชธานี อนุมัติงบประมาณ 9.7 หมื่นล้านซื้อใจชาวนา
อุดหนุนมาตรการดูแลข้าวปี 2561/62 กำหนดราคาจำนำยุ้งฉางและเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว สรุปตัวเลขชาวนาจะได้รับในส่วนของข้าวหอมมะลิตันละ 17,050 บาท ข้าวเปลือกเหนียวตันละ 15,450 บาท ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 12,000 บาท และข้าวเปลือกปทุมธานี 1 ตันละ 12,900 บาท
พะยี่ห้อ “ลุงตู่” สั่งลุย จัดหนักโปรโมชันอัดฉีดเศรษฐกิจฐานราก
เป็นไปตามที่ “จอมยุทธ์กวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ ส่งสัญญาณออกมาก่อนหน้าจะอัปราคาข้าวไม่ต่ำกว่าโครงการรับจำนำ
หงายไพ่เด็ด กินแต้มเกษตรกรชาวนา
ในจังหวะกำลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ก็ไม่แปลกที่จะได้เห็นอาการคึกคักของ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.ประกาศดังๆพร้อมสู้ตาย
ล้อเสียงเชียร์ของคนอุบลฯ “พวกเรารักลุงตู่”
ดูแล้วรัฐบาลยังเหลือไพ่ให้ตีกินแต้ม ดึงคะแนนเสียงได้อีกหลายใบในมือ
กับมุกอีเวนต์การตลาด “นายกฯลุงตู่” พาคณะเดินสายประชุม ครม.สัญจรต่างจังหวัด ปล่อยโปรโมชันซื้อใจเกษตรกร พ่อค้าแม่ขาย คนมีรายได้น้อย
มาตรการกระตุ้นปากท้อง เสิร์ฟให้ถึงหัวบันไดบ้าน
รัฐบาลนักการเมืองทำเป็นรัฐบาลทหารที่มีคนชื่อ “สมคิด” อยู่ด้วยก็ทำได้เหมือนกัน
“ลุงตู่” บริหารราชการแผ่นดินไปพร้อมๆกับการบริหารคะแนนนิยมทางการเมือง ตุนแต้มเลือกตั้ง
ตามอาการที่นักการเมืองอาชีพพากันนั่งไม่ติด
ในอารมณ์แบบที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แห่งค่ายประชาธิปัตย์ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โทรโข่งยี่ห้อเพื่อไทย แท็กทีมขย่ม “ลุงตู่” และ คสช. ท้าปลดล็อกการเมือง
เลิกมัดมือชก ให้นักเลือกตั้งอาชีพขยับแข้งขยับขาได้
โวยวายให้สู้กันแบบแฟร์ๆ หยุดเอาเปรียบซะที
ด่ากระแทกชิ่ง ตีกินโชว์กองเชียร์ก็แค่นั้น เพราะถึงตรงนี้ ปลดล็อก ปล่อยผี แล้วใช่ว่านักการเมืองอาชีพจะทำอะไรได้มากมาย ภายใต้เงื่อนไขข้อจำกัด มาตรา 44 ยังบังคับใช้ สถานการณ์ยังอยู่ภายใต้อำนาจพิเศษ
พลาดเข้าเงี่ยงกฎหมาย ก็ยิ่งเข้าเหลี่ยมโดนล็อก
เผลอๆถึงเวลาเลือกตั้งจะโดนจับฟาวล์ หมดโอกาสลงสนามอีกต่างหาก
เรื่องของเรื่องจับอาการจาก “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกฯ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ล่าสุดปรากฏตัวเยี่ยมนายวัน อยู่บำรุง ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่โดนคดีขึ้นโรงขึ้นศาล
แต่บอกปัดพูดประเด็นการเมืองเรื่องของพลังดูด
“พูดแล้วเดี๋ยวก็ติดคุกน่ะสิ”
พร้อมยืนยัน ไม่ไปร่วมอวยพรวันเกิดอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่ลอนดอน อังกฤษ
รุ่นเก๋าลายครามจับทิศทางลมได้ เซียนอย่าง “สารวัตรเหลิม” ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ โดยเฉพาะสถานการณ์ที่ต้องประคองตัวในห้วงทหารเป็นใหญ่
แบบที่เจ้าตัวท่องคาถามาตั้งแต่ต้น อย่าเอาไข่ไปกะเทาะหิน
ในความหมายจริงๆก็คือ อย่าดื้อเล่นเกมที่มีแต่แพ้กับแพ้
และก็เป็นอะไรที่เห็นกันตรงหน้า ผลสะท้อนจากเกมหักดิบสู้ยิบตา
ล่าสุดพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำตัว “เสี่ยโอ๊ค” นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร พร้อมพวกที่ตกเป็นผู้ต้องหา 1-3 ในคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับเครือกฤษดามหานคร ส่งฟ้องอัยการ
เบื้องต้นพนักงานอัยการคดีพิเศษรับมอบตัวผู้ต้องหาและสำนวนไว้ และอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพิจารณาสั่งคดีของอัยการ โดยไม่ต้องมีหลักประกัน เนื่องจากผู้ต้องหามารายงานตัวเอง
พร้อมนัดผู้ต้องหาทั้งหมดมาฟังคำสั่งคดีในวันที่ 5 กันยายนนี้
ปลายทางสุดท้าย ต้องลุ้นคดีเหนื่อยเหงื่อตก.
ทีมข่าวการเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น