PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561

สูตร ‘นิ่ง’ สยบเกม ‘ขยับ’

สูตร ‘นิ่ง’ สยบเกม ‘ขยับ’



บท “สงบ สยบความเคลื่อนไหว” ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม จากอาการ “แกว่ง” กระแทกของ “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” ที่โพสต์ข้อความออกมาตอบโต้ หลังโดน “บิ๊กป้อม” ติดเบรก

“ท่าทีและน้ำเสียงขึงขังน่ากลัวจัง ไม่นุ่มนวลอ่อนหวาน เหมือนตอนมาเกาะโต๊ะขอเป็น ผบ.ทบ.เลย”
ซีน “ทักษิณ” ขุดกรุเรื่องราวหนหลัง เย้ยเชิงประจาน คิวที่ “บิ๊กป้อม” ไม่เต้นโต้กลับ

รุ่นใหญ่ใจ “นิ่ง” ส่งแค่รอยยิ้ม ให้กับ “คำถามที่ไม่ขอตอบ”

จะมีก็เพียง พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงรายการเขย่าจากอดีตผู้นำ บอกเรื่องนี้ “บิ๊กป้อม” ไม่รู้สึกโกรธหรือโมโห และประชาชนรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น

“ถามว่าจะเอาเรื่องในอดีตมาพูดกันทำไม การนำเรื่องแบบนี้มาพูด แล้วจะมีใครคบด้วย”

ฉายบท “ผู้ใหญ่” ไม่ทะเลาะ และ “ไม่อยากคบ”

ที่น่าสนใจ “ทักษิณ” แกว่ง เล่นแรงรอบนี้ ได้หรือเสียต้องประเมินกัน เพราะเอาเข้าจริงข้อต่อข้อเชื่อมที่ “นายใหญ่” หวังเกาะเกี่ยวเหลืออยู่น้อยนิด เส้นสายสัมพันธ์ที่บางเบาไปทุกที

แต่เมื่ออารมณ์ลากมาที่จุดเสี่ยงสะบั้น คำว่า “ไม่คบ” คิวนี้ “ทักษิณ” มีสะดุ้งมากกว่า

ในสถานการณ์ ไม่เสียเวลาทะเลาะ “บิ๊กป้อม” กำลังอยู่ในสเต็ปโกยแต้ม โดยเฉพาะกับช็อตเร่งเครื่องแก้ปมปัญหาหนี้สินให้ชาวบ้าน เรียกคืนที่ดินจากนายทุนขาเหี้ยมดอกเบี้ยโหด ล่าสุดยกคณะเดินทางไปเป็นประธานมอบคืนโฉนดที่ดิน และทรัพย์สิน ให้แก่ชาวบ้านเป็นรอบที่ 3 กว่า 4,000 ล้านบาท ที่ จ.กาฬสินธุ์
ชาวบ้านได้เฮ เสียงเชียร์ “ลุงป้อมสู้ๆ” ได้แต้มและได้ “คึก”

เป็นชิ้นโบแดง สะสมแต้มให้รัฐบาล “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. โดยเฉพาะในคิวเร่งเครื่อง “ตีตั๋วไปต่อ” ของน้องรัก ก็น่าจะมี “พี่ใหญ่” เป็น “ลมใต้ปีก” สำคัญ

ในจังหวะที่พี่ใหญ่ “ใจนิ่ง” เหมาะกับห้วงที่การเมืองกำลังปั่นป่วน ป้อมค่ายการเมืองได้ขยับก็มาพร้อมกับแรงกระเพื่อมไหว “บิ๊กตู่” ต้องประกาศยึดดีเดย์ตามโรดแม็ป ในกระบวนการขั้นตอนที่ต้องเดินไป

คุมโทนสถานการณ์ ประคองเกมกันอยู่

รวมไปถึงคิวแทรก “ปรับ ครม.” จากหลายปมที่อาจถึงจุดตัดสินใจยกเครื่องรีเฟรชแบรนด์รัฐบาล ทั้งกรณีแรงบีบรัฐมนตรีไขก๊อก เพราะถูกวางตัวไว้ในพรรคพลังประชารัฐ

ไปจนถึงรายการรื้อโละรัฐมนตรีโลกลืม เสนาบดีงานฝืด

ประกอบกับจุดจับจ้อง สถานะ “อาจารย์ยักษ์” วิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรฯ ที่มีกระแสไม่ได้ไปต่อ โยงเข้าปมที่คัดค้านนำเข้าสารเคมีพาราควอต คลอร์ไพริฟอสและไกลโฟเซต ทำให้จ่อถูกปรับออก

แต่อีกมุมก็ถูกมอง ใช้ปมต้าน “พาราควอต” เสริม “เกราะ” เก้าอี้

แรงกระเพื่อมจากกระแสข่าวปรับ “อาจารย์ยักษ์” ต่อเนื่องไปถึงคิวปรับ ครม. ที่ต้องชั่งน้ำหนักเหมือนกัน ในห้วงเวลาที่เหลืออยู่ตามดีเดย์เลือกตั้ง 24 ก.พ.2562 4–5 เดือนจากนี้

ถ้าต้องยกเครื่องใหม่ กับเวลาเร่งโชว์งานด้วยทีมใหม่ จะเพียงพอหรือไม่

นั่นไม่เท่ากับการทำความเข้าใจต่อสาธารณะ ทลาย “เกราะ” รัฐมนตรีที่ “ภาพ” หรูดูดี โดยเฉพาะที่กระทรวงเกษตรฯ จุดสำคัญที่ถึงเวลาต้องเร่งเครื่องดูแลฐานรากชาวบ้าน เกษตรกร

ขณะที่เรื่องของสารเคมี ข้อมูลที่ออกมายังฟุ้งหลากหลาย เลิก-ไม่เลิกใช้ ได้หรือเสีย กับความจำเป็นต้องใช้งาน หรือประเด็นสารเคมีชนิดอื่นๆที่เกษตรกรอาจใช้แทน เข้าทางเตะหมูเข้าปากหมาหรือเปล่า

ด้วยสไตล์รับข้อมูลรอบด้าน อย่างไร “บิ๊กตู่” ต้องดูภาพรวม ก่อนจะตัดสินใจ “เลิก-ไม่เลิกใช้” อยู่แล้ว
และแน่นอน นั่นก็ต้องรวมถึงคิวยกเครื่อง ครม. งานโชว์รอบสุดท้ายที่ผู้นำพยายาม “นิ่ง” สยบแรงขยับ
“บิ๊กตู่” ชั่งน้ำหนัก ประเมินผลงานลูกทีมโค้งสุดท้ายอีกที.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: