PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2561

เข้าล็อกแทบทุกประตู

เข้าล็อกแทบทุกประตู



“แม้วส่งซิกปลุกสมุน” พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ตัวโต
ในอารมณ์สวนหมัดแบบที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ย้อนถามกลับเลยว่า “บ้านเมืองยุ่งเพราะใคร”
โดยสถานการณ์ทางกระแส แรงสะท้อนจากช็อตที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊กรำลึก 12 ปี โดนรัฐประหารยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549
ขุดเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ ซัดทหารปฏิวัติอดีตนายกฯ 2 พี่น้อง ทำประเทศถอยหลัง
ตั้งคำถามประเทศไทยบอบช้ำพอหรือยัง ถึงเวลากบต้องออกจากกะลาซะที
เล่นบทใจกว้าง อโหสิกรรมคนที่ใส่ร้ายป้ายสี
สรุปมีแต่โทษคนอื่นทำชีวิตครอบครัวพัง ไม่มีตรงไหนเลยที่ “นายใหญ่” โทษตัวเอง
วิเคราะห์อารมณ์ลึกๆก็คือ “ยังแค้นฝังใจ ไม่สำนึก”
มันก็เป็นอะไรที่หนีไม่พ้นวนอยู่กับเงื่อนไขสถานการณ์เดิมๆ ทันทีที่ “นายใหญ่” ขยับฟื้นฝอยปมโดนยึดอำนาจ ก็ไปกระตุกแนวต้านระบอบ “ทักษิณ” สื่อฝ่ายตรงข้าม “นายใหญ่” ดาหน้าออกมาซัดกลับ
ย้อนรอยฉายภาพซ้ำ ประจานพฤติการณ์ “นายใหญ่” ป่วนเมืองชิงอำนาจคืน
ฟื้นความทรงจำ ภาพม็อบเผาบ้านเผาเมือง เหตุการณ์เสื้อดำแฝงม็อบแดงฆ่าทหาร ย้อนศร “นายใหญ่” ปลุกม็อบเสื้อแดงมาตาย
กลายเป็นเขี่ยไฟ เร้าชนวนขัดแย้งที่แฝงอยู่ในหมู่ขั้วขัดแย้งให้กระพือกลับมา
ตามปรากฏการณ์มันคือคำตอบว่า “ทักษิณ” ยังเป็นเงื่อนไข ตัวอันตรายในเกมอำนาจประเทศไทย
ไม่มีท่าทียอมหมอบราบคาบแก้วแต่อย่างใด
และนั่นก็นำมาซึ่งคำตอบสุดท้าย อย่างไรเสีย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ต้องตีตั๋วต่อเกมอำนาจไปอีกอย่างน้อย 5 ปี
ตามบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญที่ออกแบบไว้เป็นการเฉพาะ
ลากไปจนกว่า “ทักษิณ” จะสิ้นฤทธิ์
เป็นภารกิจเดิมพันไม่ใช่เฉพาะ “ลุงตู่” แต่มันหมายรวมถึงอนาคตประเทศไทย
โดยอาการแบบที่เจ้าตัวยังอิดๆออดๆ ออกลีลาติ๊ดชึ่ง ทีแรกส่งซิกจะโชว์ความชัดเจนเรื่องอนาคตทางการเมือง ภายหลัง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.มีผลบังคับใช้
แต่พอถึงเวลาก็ยังกั๊ก อุบไต๋ต่อไป อ้างหน้าตายเลยว่า เรื่องอะไรจะเปิดตัวให้โดนถล่มเปลืองตัว
หารู้ไม่ นี่แหละฟอร์มของ “นักการเมืองอาชีพเต็มตัว”
คำตอบมันชัวร์ๆแล้ว “นายกฯลุงตู่” ไม่ต้อง “แกรนด์ โอเพนนิ่ง” อย่างเป็นทางการ
โดยจังหวะเนียนๆ ตีกินแต้ม ครม.สัญจรไปแบบรายสัปดาห์
พร้อมๆกับ “ปล่อยของ” มัดจำล่วงหน้า แบบที่ล่าสุด ธ.ก.ส.ดีเดย์โอนเงินโครงการจำนำยุ้งฉางเกษตรกร “เวอร์ชันใหม่” บวกค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้เกษตรกรชาวนาในปีการผลิต 2561/62 คนละไม่เกิน 12 ไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 18,000 บาท ครอบคลุมชาวนากว่า 4.05 ล้านราย วงเงิน 57,000 ล้านบาทต่อเนื่องจากมาตรการ “คืนแวต” ให้ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการประชารัฐ
ตามเหลี่ยมเดินหมากของ “จอมยุทธ์กวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ อัดโปรโมชันกระตุ้นฐานราก ประคองปัญหาปากท้องคนจน สู้กับเกมนักการเมืองปั่นอุปาทานหมู่
เก็บแต้มให้ “นายกฯลุงตู่” แบบเป็นกอบเป็นกำ
เอาเป็นว่า “นกแล” ที่ท่องจำยี่ห้อ “ทักษิณ” นอนมา ตอนนี้ผวาก็แล้วกัน
และล่าสุดราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และจำนวนเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกแต่ละจังหวัด
แบ่งเป็น ภาคเหนือ 64 คน ภาคอีสาน 116 คน ภาคกลาง 90 คน และกรุงเทพฯ 30 คน
สภาฯ 500 คน เป็น ส.ส.เขตเลือกตั้ง 350 คน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 150 คน
แน่นอน ด้วยกติกาเลือกตั้งในระบบจัดสรรปันส่วนผสมตามรัฐธรรมนูญ ต่อให้ “หิมะถล่ม” เมืองไทย ลูกทีมพรรคเพื่อไทยกวาด ส.ส.เขตเลือกตั้ง “เต็มโควตา” ก็อดได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
“นายใหญ่” แทบไม่มีสิทธิยึดที่นั่ง ส.ส.พรรคเดียวเกินครึ่งสภา
เงื่อนไขสถานการณ์ถูกล็อกเข้าทาง “ลุงตู่” แทบทุกประตู.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: