PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2561

นี่แหละ 'เกมเขี้ยว' ล่ะ

นี่แหละ 'เกมเขี้ยว' ล่ะ



ขาดแค่พวงมาลัยดอกดาวเรืองคล้องคอแค่นั้น
โดยฉากสถานการณ์ที่ให้อารมณ์เดียวกันกับบรรยากาศของนักการเมืองเดินสายหาเสียงในช่วงเลือกตั้ง ตามภาพข่าวที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. สวมหน้ากาก “ผีตาโขน” สัญลักษณ์ของจังหวัดเลย ร่วมแจมร้องเพลงประสานเสียงกับน้องๆนักศึกษาที่เพชรบูรณ์ หยอดมุกทิ้งทุ่นเป็นนัย “เป็นกำลังใจให้ลุงนะ อายุ 18 ปีแล้วใช่ไหม เดี๋ยวเจอกัน”
ชม ชิม ช็อป สินค้าโอทอปของชาวบ้านร้านตลาด ปราศรัยไป ยิงมุกทีเล่นทีจริงไป
“ลุงตู่” เล่นได้เนียนทุกบท ทำได้หมดแบบกลมกลืนไม่มีเคอะเขิน
ลีลาเก๋ากว่านักเลือกตั้งอาชีพด้วยซ้ำ
แต่ที่แสบกว่าก็คือจังหวะเก็บแต้มไป ออกตัวไป “ลุงตู่” ย้ำเป็นระยะ ไม่ได้หาเสียงทางการเมือง มาในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่อีกทางก็สะกิดบอกประชาชนให้เลือกรัฐบาล
ที่มีธรรมาภิบาล อย่าไปเลือกอะไรเรื่อยเปื่อย อย่าทำให้บ้านเมืองกลับมาวุ่นวาย
แถมล่าสุดไฮไลต์ช็อตสำคัญ “นายกฯลุงตู่” หงายไพ่
พูดเป็นนัยอยากชี้แจงกับประชาชนว่า นายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญใหม่ต้องมาจากพรรคที่ได้เสียงข้างมากซึ่งจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยทุกพรรคการเมืองจะต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีตามบัญชีรายชื่อ ซึ่งที่พูดไม่ได้หมายถึงตนเอง แต่อยากให้ประชาชนเข้าใจ
เหมือนตั้งใจเคลียร์ปมที่ “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กั๊กกันท่าไว้ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เสียงส่วนใหญ่ในสภา ประชาธิปัตย์จะไม่สนับสนุน
เฉลยข่าวลับที่ปิดกันให้แซ่ด “นายกฯลุงตู่” คือ 1 ใน 3 บัญชีนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ
“แบไต๋” ช่องตีตั๋วต่อเก้าอี้ “นายกฯคนใน” อย่างชอบธรรมตามระบบ
สรุปช็อตประชุม ครม.สัญจรได้ครบทั้งมุมการบริหารกระแสการเมือง และการบริหารงานราชการแผ่นดิน ตามตัวเลข “งบประมาณก้อนโต” ที่รัฐบาล “ลุงตู่” หอบเอาไปเสิร์ฟให้ถึงบ้าน
โดยที่ประชุม ครม.อนุมัติโครงการพัฒนาจังหวัด ยกระดับสนามบิน ขยายเส้นทางคมนาคม ตามยุทธศาสตร์เชื่อมโยงทางเศรษฐกิจอย่างมีเป้าหมายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะยาว
ตามพิมพ์เขียวที่ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” กัปตันทีมเศรษฐกิจ ออกแบบให้
เอาเป็นว่า รัฐบาลการเมืองปกติ งบฯ ส.ส.ทั้งพรรคยังไม่ได้เท่านี้
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่นักการเมืองเจ้าของพื้นที่ “เคลม” กับชาวบ้านได้เลย ถ้าจะมีการย้ายพรรค ไม่รู้สอบได้หรือสอบตก แต่ได้งบฯพัฒนาให้ประชาชนในพื้นที่ไปก่อนแล้ว
แนวโน้มเปิดทางให้พวกแหกค่ายหนี “นายใหญ่” ได้แต้ม “วัดใจ” ชาวบ้าน
ในสถานการณ์ที่ไล่ตามคิวเดินสายประชุม ครม.ส่วนใหญ่มุ่งไปพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีผลต่อการตั้งป้อมค่ายสนับสนุน “นายกฯลุงตู่” เป็นลำดับต้นๆ
ไล่ตั้งแต่อุบลราชธานี ที่มีข่าวการเจาะทีมของพรรคเพื่อไทยแตกเป็นเสี่ยง ล่าสุดคิวของเมืองเลย ฐานที่มั่นของนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต รมว.ทรัพยากรฯ ที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำทีมงานสามมิตร บินไปเปิดตัวถึงบ้านเลย
นั่นสะท้อนถึงการเน้นเป้า “มวยเกรดเอ” ไม่ใช่ “นกแล”
และรอบนี้ “นายกฯลุงตู่” ก็กระเซ้านางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข ภรรยาของนายปรีชา ที่มาทำการต้อนรับทีม ครม.สัญจร เป็นเชิงขอให้มาช่วยกันทำงานให้บ้านเมืองเดินหน้า
นั่นแสดงว่า “ลุงตู่” ยอมรับสถานะ “กองหนุน” ของทีมนายปรีชา
เป็นการหักมุม กับ “ข่าวปล่อย” จากทีม “นายใหญ่” อ้างอดีตรัฐมนตรีใหญ่ในอีสานที่แปรพักตร์ไปกับทีมหนุน “ลุงตู่” ขอกลับมาตายรัง เพราะปั๊ม 3 ทหารน้ำเลี้ยงฝืด
ไม่ชัวร์กับท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังกั๊กกับทีมสามมิตร
เอาเป็นว่า เมื่อ “ลุงตู่” ปิดดีลกับทีมเมืองเลยแบบนี้ ตามรูปเกม “นายใหญ่” ต้องเขย่า “ปรีชา” ให้ร่วงให้ได้ ในสถานการณ์ที่โพลหน่วยความมั่นคงเช็กแต้มล่าสุด “ปรีชา” ฐานแน่น แนวโน้มกวาดยกจังหวัด
เงื่อนไขสถานการณ์เดียวกับเมืองมะขามหวาน เพชรบูรณ์ ชื่อของ “สันติ พร้อมพัฒน์” ระดับหัวจ่ายท่อน้ำเลี้ยงยุคพลังประชาชน เพื่อไทย นาทีนี้สลับขั้วมาต่อสายกับยี่ห้อพลังประชารัฐ
จัดเป็นดาวฤกษ์ “มีแสงในตัวเอง” ใส่แต้มล่วงหน้าได้
ชื่อมวยใหญ่แบบนี้แหละ ที่ทำให้ “นายใหญ่” นั่งไม่ติด.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: