PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เซ็งกันยาวๆ


โครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 672 กม. ซึ่งกำหนดจะเริ่มก่อสร้างปีหน้า คงต้องเลื่อนการก่อสร้างไปอีกหลายปี
หรือดีไม่ดีอาจต้องล้มเลิกโครงการนี้ไปเลย
ใครที่รอจะนั่งรถไฟชินกันเซ็ง ฟังข่าวนี้แล้วคงเซ็งไปตามๆกัน
“แม่ลูกจันทร์” สรุปย่อๆว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ วงเงินลงทุนกว่า 4 แสนล้านบาท เป็นโครงการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นฝ่ายละ 50 เปอร์เซ็นต์
รัฐบาลโฆษณาว่าโครงการนี้จะใช้รถไฟหัวจรวดชินกันเซ็งของญี่ปุ่น วิ่งด้วยความเร็วสูง 250 กม.ต่อชั่วโมง
แบ่งการก่อสร้างเป็น 2 ช่วง พร้อมเปิดบริการได้ภายใน 5 ปี
ช่วงแรก กรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทาง 418 กม.
ช่วงที่สอง พิษณุโลก-เชียงใหม่ ระยะทาง 254 กม.
คิดค่าโดยสารจิ๊บๆแค่ 1,089 บาทต่อเที่ยวต่อคน
ย่นเวลาเดินทางจากกรุงเทพฯถึงเชียงใหม่เพียง 3 ชั่วโมง
ถ้าออกจากกรุงเทพฯ 8 โมงเช้าจะไปถึงเชียงใหม่ทันพระฉันเพล
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า โครงการนี้รัฐบาลไทยเทียวไล้เทียวขื่อเจรจารัฐบาลญี่ปุ่นมาแล้ว 2 ปีเต็มๆ
เพื่อขอร้องเชิญชวนให้รัฐบาลญี่ปุ่นร่วมลงทุนกับรัฐบาลไทย
แต่รัฐบาลญี่ปุ่นยังลับลวงพรางไม่ยอมตอบโอเค
ล่าสุด นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ลงทุนนำคณะใหญ่บินไปจับเข่าคุยกับรัฐมนตรีกระทรวงขนส่งของญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขอคำตอบชัดๆจากรัฐบาลญี่ปุ่นว่าตกลงจะร่วมทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงสายนี้หรือไม่? เมื่อไหร่? อย่างไร?
ปรากฏว่าครั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงขนส่งญี่ปุ่นมีคำตอบชัดเจน
คือยืนยันว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะไม่ร่วมลงทุนกับฝ่ายไทย
ขอให้รัฐบาลไทยควักกระเป๋าลงทุนเองทั้งงานก่อสร้างโยธา งานระบบอาณัติสัญญาณ การจัดซื้อขบวนรถไฟ และการซ่อมบำรุงครบวงจร
แต่...ถ้ารัฐบาลไทยยังสนใจจะซื้อรถไฟชินกันเซ็งจากญี่ปุ่นอย่างเดิม รัฐบาลญี่ปุ่นพร้อมจะให้รัฐบาลไทยกู้เงินโครงการนี้ด้วยความยินดี
เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นตอบปฏิเสธอย่างนี้ก็เอวัง
รมว.คมนาคม ตัวแทนรัฐบาลไทยก็ผิดหวังอย่างแรง
โครงการร่วมทุนที่วางแผนล่วงหน้าไว้ทุกขั้นตอนต้องเสียเวลาฟรีๆไป 2 ปีเต็มๆ
รถไฟชินกันเซ็ง มันทำเซ็งอย่างนี้แหละโยม
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าเหตุผลสำคัญที่รัฐบาลญี่ปุ่นปฏิเสธไม่ร่วมทุนกับรัฐบาลไทย เพราะผลการศึกษาของทีมผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นสรุปว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่มีความเสี่ยงสูง
ไม่คุ้มค่าการลงทุน
ประเมินจำนวนผู้โดยสาร และรายได้จากค่าโดยสารยังต่ำกว่าผลตอบแทนทางการเงินบานตะเกียง
ขาดทุนบักโกรกทั้งระยะสั้น และขาดทุนระยะยาว
“แม่ลูกจันทร์” หวังว่ารัฐบาล คสช.จะไม่ดันทุรังใช้เงินภาษีประชาชนกว่า 4 แสนล้านบาท ไปลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่เองทั้งหมด ตามที่รัฐบาลญี่ปุ่นแนะนำ
ทางออกที่ดีที่สุดคือ เก็บโครงการนี้แช่ตู้เย็นไว้ก่อน 10 ปี!!
เพราะโครงการรถไฟความเร็วสูงจีน สายกรุงเทพฯ-โคราช-หนองคาย ที่รัฐบาล คสช.หลวมตัวลงทุนเอง 100 เปอร์เซ็นต์ จะต้องขาดทุนอ่วมอรไทไปอีก 10 ปี 20 ปี
แค่สายเดียวก็สาหัสแล้ว ขืนขาดทุน 2 สายก็ไอซียู.
“แม่ลูกจันทร์”

ไม่มีความคิดเห็น: