PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561

คิด ‘ท่ายาก’ ไว้แก้เกม


ไม่ติด “โรคเลื่อน” อีกแล้ว เพราะนาทีนี้ เมื่อ “คนคู่ คสช.” ทั้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้า คสช. “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ประสานเสียงชัด
ดีเดย์เลือกตั้ง 24 ก.พ.2562 นั่นก็เป็นคำตอบ
ส่วนที่เกิดปัญหาขึ้น โปรแกรมสอบวิชาความถนัดทั่วไป (GAT) และความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ (PAT) ปี 2562 กำหนดช่วงสอบตรงกับวันเลือกตั้งใหญ่ กระทบนิวโหวตเตอร์ที่จะได้เลือกตั้งครั้งแรก 6 ล้านกว่าคน
“เป็นเรื่องของกระทรวงศึกษาที่จะต้องไปดูและเลื่อนวันสอบ ส่วนวันเลือกตั้งยืนยันไม่เลื่อน”
คิว “บิ๊กป้อม” ออกโรงยืนยัน จบปมระแวงวาระแฝงจ้องยืดเลือกตั้ง ทุกขั้วฝ่าย เร่งสปีดกันต่อไปได้
แน่นอน ในห้วงนี้โฟกัสอยู่ที่ 2 ขั้วใหญ่ คือฝ่ายกุมอำนาจรัฐบาลพิเศษ และฝั่งพรรคเพื่อไทยเครือข่ายนายใหญ่ ออกหมัดแย็บลองเชิงกันเป็นชุดๆ
หลังจาก “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” โผล่ให้สัมภาษณ์สื่อประเทศญี่ปุ่น ปั่นตัวเลขกวาดแต้ม ส.ส.ทะลุ 300 จน กกต.เด้งรับพี่ใหญ่ คสช. เก็บข้อมูลบี้โยงเพื่อไทย ปล่อยคนนอกค่ายแทรกแซง ครอบงำ
จ่อตั้งแท่น “ยุบพรรค”
แต่ก็อย่างว่า ณ นาทีนี้ยังแค่ “ขู่มา-ขู่กลับ” แย็บเล่นเชิงเก็บคะแนน รอรัวแต้มยกสุดท้ายกันอยู่
อย่างไรก็ตาม ที่หนักหนากว่าน่าจะเป็นฝั่งเพื่อไทย ต้องเตรียมแผนยันเกมบุก ประเมินสถานการณ์ เลวร้ายสุดคือโดนยุบพรรค ไม่เฉพาะจากคิววาจาฝีปาก “นายใหญ่” ทำสะเทือนไปทั้งค่าย
ยังรวมถึงกรณีที่ 9 แกนนำเพื่อไทยวิพากษ์วิจารณ์ห้วงครบ 4 ปีรัฐประหาร ขัดคำสั่ง คสช. ที่อัยการเลื่อนนัดฟังคดีจากปลาย ต.ค.นี้ ไปเป็นวันที่ 28 พ.ย.
ลากเวลาส่งขึ้นเขียงเชือด-ไม่เชือด เพื่อไทยระทึกยาวๆ
งานนี้จึงเป็นอย่างที่เห็น พรรคเพื่อไทยถึงได้เปิดยุทธการ “แตกตัว-แยกค่าย” ตั้งสารพัดยี่ห้อ “เพื่อ” เผื่อเหตุฉุกเฉิน ทั้งเพื่อไทย-เพื่อธรรม-เพื่อชาติ ล่าสุดมี “ไทยรักษาชาติ” ชื่อย่อ “ทษช.” ที่มีคนแปลความ “ทักษิณ ชินวัตร”
นัยว่าเป็นพรรคสำรองของจริง เพราะนาทีนี้ ค่าย “เพื่อธรรม” ก็น่าจะยกให้ “เจ้าแม่วังบัวบาน” ไปลุยสร้างบ้านของตัวเอง ส่วนพรรคเพื่อชาติ ยังมีข้อสงสัยในทีท่า “แกนนำเสื้อแดง-มือขวานายใหญ่”
สแกนความเสี่ยงแล้ว “ไทยรักษาชาติ” จะเป็นอีกค่ายสำรองของจริง
เพียงแต่นาทีนี้ยังไม่ชัด ยุบ-ไม่ยุบ ต้องเร่งบริหารจัดการพรรคเพื่อไทยเป็นโมเดลไว้
แว่วว่าเคาะสูตรแล้ว จะแยกกำลังเป็น “ทัพหน้า-ทัพหลัง”
ในส่วนทัพหน้า “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ถือธงแม่ทัพเปิดเกมรุก นำขุนพลลุยหาเสียงสนามเลือกตั้ง โดยจะไม่เป็นกรรมการบริหารพรรค เพื่อลดความเสี่ยง “ตายยกเข่ง” ส่วนทัพหลังจะเป็นฝ่ายบุ๋น นำโดย “พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์” ที่วางคิวเป็นหัวหน้าพรรคเต็มตัว
โมเดลนี้จะยกไปใช้ค่ายใหม่ด้วย ถ้าเห็นท่าไม่ดี ต้องอพยพไพร่พลหนีตายตามยุทธวิธี “ทิ้งค่ายร้าง”
ทั้งหมดทั้งปวงก็มีดีเดย์สุดท้ายก่อน 26 พ.ย.นี้ เส้นตายสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 90 วัน ถ้ายึดตามโปรแกรมเลือกตั้ง 24 ก.พ.2562 จะเพื่อไทย–เพื่อธรรม–ไทยรักษาชาติ ก็ต้องชัด
ส่วนกรณีถ้าเกิดเหตุ “ทุบ” ในห้วง 90 วันก่อนเลือกตั้ง ยามนี้ไพร่พลนายใหญ่เริ่มคิด “ท่ายาก” ไว้รองรับ
เริ่มมีรายงานทางสื่อถึงแผน “โหวตโน” เพื่อพลิกเกม
ทั้งลากเข้าปมปัญหา จำนวน ส.ส.เปิดประชุมสภาฯ และเป้าหมายต่อเนื่อง เพื่อคืนร่างคืนสถานภาพผู้สมัคร “คนของนายใหญ่” ในพื้นที่ที่ต้องเลือกตั้งใหม่
เป็นสารพัดสารพัน “ท่ายาก” ของขั้วนายใหญ่
นั่นก็ไม่แพ้ “ท่ายาก” ของฝั่งเครือข่ายหนุนอำนาจพิเศษ ที่เตรียมแก้เกม กรณีหากจำเป็นต้องอยู่ในสถานภาพรัฐบาลเสียงข้างน้อย เดินหน้าแค่ไหนแค่นั้น ไปไม่ได้ก็ยุบสภา แบบยุบแล้วยุบอีก
ล้างกันหลายรอบ ให้อีกฝ่ายฝ่อไปเอง
ต่างฝ่ายต่างคิดท่ายากเตรียมไว้แก้เกมกันหลายชุด.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: