PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561

พื้นฐานมั่นใจที่ต่างกัน


ฉากการเมืองเดินมาถึงช็อตชิลๆ
อารมณ์แบบที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินจูงมือ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ปลูกต้นพะยูง เนื่องในวันปลูกต้นไม้ประจำปีของชาติ ฮัมเพลง “ต้นไม้ของพ่อ” อย่างสบายอุรา
สะท้อนอาการเบอร์ต้นๆของรัฐบาล คสช.อยู่ในห้วงผ่อนคลาย
กระแสตื่น “ปฏิวัติ” จางไป ตามน้ำเสียงนุ่มๆของ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่พูดจาเชิงเหตุเชิงผลเทียบสถานการณ์ให้คนเข้าใจง่ายๆ หากย้อนไปเมื่อช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าคนไทยทุกคนได้เห็นว่า ใน 4 ปีนี้เป็น 4 ปีที่มีแต่ความสงบ ไม่มีการเดินขบวนประท้วงจนทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเกิดปัญหา คนไทยก็อยู่อย่างมีความสุข ทำมาหากินอย่างปกติ การติดต่อค้าขาย เศรษฐกิจไปได้ด้วยดี กฎหมายมีการบังคับใช้ ทุกคนเคารพกฎหมาย ถือว่าสังคมอยู่ในสภาวะปกติ ไม่มีอะไรต้องกังวล
ไม่มีเหตุผลใดที่ทำให้คนไทยต้องกังวล ยังมีหนทางอื่นที่ใช้มากกว่าหนทางรัฐประหาร
“ภาษาท็อปบูต” พูดโทนเสียงเรียบๆ ก็ไม่เห็นต้องตื่นเต้นอะไร
ในจังหวะเบื้องหน้าที่เห็นๆกันอยู่ว่าสถานการณ์กำลังเดินตามโรดแม็ป
ล่าสุด “บิ๊กป้อม” ย้ำออกอากาศชัดถ้อยชัดคำอีกครั้ง “เลือกตั้ง เลือกแน่นอน 24 กุมภาพันธ์ 62”
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่สอดคล้องต่อเนื่องกับจุดไฮไลต์ที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยกับสื่อมวลชนระหว่างร่วมคณะ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม มีผู้นำมากกว่า 11 ประเทศที่มีความประสงค์จะพบหารือกับผู้นำไทย
เหตุเพราะนานาประเทศรับรู้ว่า โอกาสที่นายกฯจะกลับมาอีกก็มี
ใครๆก็อยากจะพูดคุยกับผู้ที่อาจจะเป็นผู้นำคนต่อไปของประเทศไทย
ทั้งช็อตของนายดอน ทั้งคิวของ พล.อ.ประวิตร จับไต๋ ประเมินปฏิกิริยาของฝั่งรัฐบาลที่หงายไพ่กันออกมา มันบ่งบอกระดับความมั่นอกมั่นใจ ในกระบวนการตีตั๋วไปต่อหลังเลือกตั้งของ “นายกฯลุงตู่”
คนที่ถืออำนาจชัวร์ๆอยู่ในมือ พร้อมปล่อยคิวไปวัดกันในสนามเลือกตั้ง
นี่แหละคือจังหวะของฝ่ายที่มั่นใจใน “แต้มต่อ”
ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ของจริงที่รัฐบาลกุมสภาพได้เป็นส่วนใหญ่ทั้งเรื่องของอำนาจ เครื่องไม้เครื่องมือ ไปยันเนื้องานในเชิงปฏิบัติที่สัมผัสแตะต้องได้
แม้แต่เซอร์ไพรส์ล่าสุด “สวนดุสิตโพล” เปิดตัวเลขประชาชนถึงร้อยละ 89 ชื่นชอบพอใจการเดินหน้าสะสางปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาล คสช.โดยให้คะแนน พล.อ.ประวิตร 9.8 เต็ม 10
อารมณ์เรื่องหนี้ของคนยากคนจน ใครไม่เป็นหนี้ไม่รู้
ที่แน่ๆมันติดหูติดตา ใครช่วยให้ลืมตาอ้าปากได้ คนจนจำขึ้นใจก็แล้วกัน
มันคือ “คะแนนดิบ” ทีม “ลุงตู่” ที่หักมุมกับเกมแห่กระแสต้านทหาร
โดยสถานการณ์เทียบกับความมั่นใจในลีลา“ตีเช็ก”ด้วยปากเปล่า ตามปรากฏการณ์แบบที่ “แม่ทัพพลัดถิ่น” อย่างอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สื่อญี่ปุ่น
ฟันธง การปกครองโดยทหารใกล้ถึงจุดจบ
มั่นใจฝ่ายประชาธิปไตยเครือข่ายของตัวเองได้ที่นั่งในสภาฯมากกว่า 300 ที่นั่ง รัฐบาล “ลุงตู่” จะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่สามารถผ่านงบประมาณและยังต้องเจอกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
รัฐบาลจะล่มภายในไม่กี่สัปดาห์
“ทักษิณ” เร่งเครื่องเบิ้ลกระแส เปิดเกมเขย่าขวัญด้วยตัวเลขมโนลอยๆ
แต่ในเชิงปฏิบัติมันยังขัดๆกันอยู่กับบริบทการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะภายใต้เงื่อนไขการเลือกตั้งระบบจัดสรรปันส่วนผสมตามรัฐธรรมนูญใหม่
เกมยากแบบที่พรรคเพื่อไทยต้องแตกค่าย รบแบบกองโจร แยกกันเดินรวมกันตี
แต่แฝงไปด้วยรอยแตกจริงจาก “สนิมเนื้อใน”
ขนาดลูกทีมยังมึน กองเชียร์สับสน ถึงวันเลือกตั้งจะสั่งซ้ายหันขวาหันได้ขนาดนั้นเลยหรือไม่
ยี่ห้อ “ทักษิณ” อยู่ในภาวะลอยๆกับกระแส “บุญเก่า”
เอาเป็นว่า ณ วันนี้ ชัดเจนแค่ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง คือแม่ทัพ “นอมินี” ภาค 3 ตามฉากที่ได้รับธงไปเปิดตัวฐานเชียงใหม่ เมืองหลวง “ทักษิณ”
และก็ชัวร์ “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ไม่ร่วมวงสังฆกรรมด้วย แม้แต่ปรากฏกายร่วมงาน
อาการ “ศึกเจ๊” เครื่องรวนตั้งแต่ออกสตาร์ตเลย.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: