ฉากการเมืองเดินมาถึงช็อตชิลๆ
อารมณ์แบบที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินจูงมือ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ปลูกต้นพะยูง เนื่องในวันปลูกต้นไม้ประจำปีของชาติ ฮัมเพลง “ต้นไม้ของพ่อ” อย่างสบายอุรา
สะท้อนอาการเบอร์ต้นๆของรัฐบาล คสช.อยู่ในห้วงผ่อนคลาย
กระแสตื่น “ปฏิวัติ” จางไป ตามน้ำเสียงนุ่มๆของ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่พูดจาเชิงเหตุเชิงผลเทียบสถานการณ์ให้คนเข้าใจง่ายๆ หากย้อนไปเมื่อช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าคนไทยทุกคนได้เห็นว่า ใน 4 ปีนี้เป็น 4 ปีที่มีแต่ความสงบ ไม่มีการเดินขบวนประท้วงจนทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเกิดปัญหา คนไทยก็อยู่อย่างมีความสุข ทำมาหากินอย่างปกติ การติดต่อค้าขาย เศรษฐกิจไปได้ด้วยดี กฎหมายมีการบังคับใช้ ทุกคนเคารพกฎหมาย ถือว่าสังคมอยู่ในสภาวะปกติ ไม่มีอะไรต้องกังวล
ไม่มีเหตุผลใดที่ทำให้คนไทยต้องกังวล ยังมีหนทางอื่นที่ใช้มากกว่าหนทางรัฐประหาร
“ภาษาท็อปบูต” พูดโทนเสียงเรียบๆ ก็ไม่เห็นต้องตื่นเต้นอะไร
ในจังหวะเบื้องหน้าที่เห็นๆกันอยู่ว่าสถานการณ์กำลังเดินตามโรดแม็ป
ล่าสุด “บิ๊กป้อม” ย้ำออกอากาศชัดถ้อยชัดคำอีกครั้ง “เลือกตั้ง เลือกแน่นอน 24 กุมภาพันธ์ 62”
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่สอดคล้องต่อเนื่องกับจุดไฮไลต์ที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยกับสื่อมวลชนระหว่างร่วมคณะ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม มีผู้นำมากกว่า 11 ประเทศที่มีความประสงค์จะพบหารือกับผู้นำไทย
เหตุเพราะนานาประเทศรับรู้ว่า โอกาสที่นายกฯจะกลับมาอีกก็มี
ใครๆก็อยากจะพูดคุยกับผู้ที่อาจจะเป็นผู้นำคนต่อไปของประเทศไทย
ทั้งช็อตของนายดอน ทั้งคิวของ พล.อ.ประวิตร จับไต๋ ประเมินปฏิกิริยาของฝั่งรัฐบาลที่หงายไพ่กันออกมา มันบ่งบอกระดับความมั่นอกมั่นใจ ในกระบวนการตีตั๋วไปต่อหลังเลือกตั้งของ “นายกฯลุงตู่”
คนที่ถืออำนาจชัวร์ๆอยู่ในมือ พร้อมปล่อยคิวไปวัดกันในสนามเลือกตั้ง
นี่แหละคือจังหวะของฝ่ายที่มั่นใจใน “แต้มต่อ”
ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ของจริงที่รัฐบาลกุมสภาพได้เป็นส่วนใหญ่ทั้งเรื่องของอำนาจ เครื่องไม้เครื่องมือ ไปยันเนื้องานในเชิงปฏิบัติที่สัมผัสแตะต้องได้
แม้แต่เซอร์ไพรส์ล่าสุด “สวนดุสิตโพล” เปิดตัวเลขประชาชนถึงร้อยละ 89 ชื่นชอบพอใจการเดินหน้าสะสางปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาล คสช.โดยให้คะแนน พล.อ.ประวิตร 9.8 เต็ม 10
อารมณ์เรื่องหนี้ของคนยากคนจน ใครไม่เป็นหนี้ไม่รู้
ที่แน่ๆมันติดหูติดตา ใครช่วยให้ลืมตาอ้าปากได้ คนจนจำขึ้นใจก็แล้วกัน
มันคือ “คะแนนดิบ” ทีม “ลุงตู่” ที่หักมุมกับเกมแห่กระแสต้านทหาร
โดยสถานการณ์เทียบกับความมั่นใจในลีลา“ตีเช็ก”ด้วยปากเปล่า ตามปรากฏการณ์แบบที่ “แม่ทัพพลัดถิ่น” อย่างอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สื่อญี่ปุ่น
ฟันธง การปกครองโดยทหารใกล้ถึงจุดจบ
มั่นใจฝ่ายประชาธิปไตยเครือข่ายของตัวเองได้ที่นั่งในสภาฯมากกว่า 300 ที่นั่ง รัฐบาล “ลุงตู่” จะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่สามารถผ่านงบประมาณและยังต้องเจอกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
รัฐบาลจะล่มภายในไม่กี่สัปดาห์
“ทักษิณ” เร่งเครื่องเบิ้ลกระแส เปิดเกมเขย่าขวัญด้วยตัวเลขมโนลอยๆ
แต่ในเชิงปฏิบัติมันยังขัดๆกันอยู่กับบริบทการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะภายใต้เงื่อนไขการเลือกตั้งระบบจัดสรรปันส่วนผสมตามรัฐธรรมนูญใหม่
เกมยากแบบที่พรรคเพื่อไทยต้องแตกค่าย รบแบบกองโจร แยกกันเดินรวมกันตี
แต่แฝงไปด้วยรอยแตกจริงจาก “สนิมเนื้อใน”
ขนาดลูกทีมยังมึน กองเชียร์สับสน ถึงวันเลือกตั้งจะสั่งซ้ายหันขวาหันได้ขนาดนั้นเลยหรือไม่
ยี่ห้อ “ทักษิณ” อยู่ในภาวะลอยๆกับกระแส “บุญเก่า”
เอาเป็นว่า ณ วันนี้ ชัดเจนแค่ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง คือแม่ทัพ “นอมินี” ภาค 3 ตามฉากที่ได้รับธงไปเปิดตัวฐานเชียงใหม่ เมืองหลวง “ทักษิณ”
และก็ชัวร์ “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ไม่ร่วมวงสังฆกรรมด้วย แม้แต่ปรากฏกายร่วมงาน
อาการ “ศึกเจ๊” เครื่องรวนตั้งแต่ออกสตาร์ตเลย.
ทีมข่าวการเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น