PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2561

แนวรบ เลือกตั้ง “เพื่อ” VS “พลัง” เด่นชัด ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

รายงาน : แนวรบ เลือกตั้ง “เพื่อ” VS “พลัง” เด่นชัด ตาต่อตา ฟันต่อฟัน



มีความเชื่อตั้งแต่แรกปรากฏชื่อ “พรรคประชาชาติ” แล้วว่า นั่นคือมือไม้ 1 อันแยกออกมาจากพรรคเพื่อไทยต้องการเน้นพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะ
นั่นก็มองจาก 1 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา
เพราะว่านับแต่เข้ามาร่วมกับพรรคไทยรักไทยพร้อมกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2544 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ก็ไม่เคยไปไหน
นั่นก็มองจาก 1 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง
จุดสำคัญก็คือ เส้นทางราชการของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ไม่ว่าเมื่ออยู่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่ว่าเมื่อไปเป็นเลขาธิการ ศอ.บต.สัมพันธ์กับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย อย่างต่อเนื่อง
นั่นก็มองจาก 1 ท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อพรรคประชาชาติ
ไม่ว่า นายภูมิธรรม เวชชชัย ไม่ว่า นายจาตุรนต์ ฉายแสง ไม่ว่า นายชูศักดิ์ ศิรินิล มองการเกิดขึ้นของพรรคชาติไทยด้วยความเป็นมิตร
สายตาอันทอดมองอบอุ่นอย่างยิ่ง
อุบัติแห่งพรรคประชาชาติในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นกระบวนการ 1 ของยุทธวิธี แยกกันเดินของพรรคเพื่อไทยและพันธมิตรอยู่แล้ว
แต่นี่กลับปรากฏนาม “พรรคเพื่อธรรม” ขึ้นมาอีก
ในเบื้องต้นก็นินทากันว่าเป็นพรรคที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะเข้าไปมีบทบาทยิ่งมีการเปิดตัวโดยประเด็นที่เชียงใหม่ ยิ่งเด่นชัด
เมื่อมี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ มาเป็นหัวหน้าพรรคก็ไม่มีอะไรกังขา
มีพรรคประชาชาติ มีพรรคเพื่อธรรม รองรังอยู่แล้ว น่าจะเพียงพอ แต่ที่ไหนได้ ได้ปรากฏชื่อ “พรรคเพื่อชาติ” เติมเข้ามาอีกพรรคหนึ่ง
ร่ำลือกันว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช นายสงคราม เลิศกิจไพโรจน์ เป็นหัวเรือใหญ่

ไม่มีความคิดเห็น: