PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ปล่อยผีเลือกตั้งปาหี่คลุ้ง

โหมโรงหาเสียง “เดิมพันเก่า” กติกาใหม่

4 ปีกับอีก 7 เดือน นับจากนาทียึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เซ็นประกาศคำสั่ง คสช.ฉบับแรกๆ ห้ามนักการเมืองและพรรคการเมืองรวมถึงประชาชนทั่วไป

เคลื่อนไหวทำกิจกรรมทางการเมืองอย่างเด็ดขาด

ตามความจำเป็นทางยุทธศาสตร์ความมั่นคง สยบสถานการณ์ม็อบป่วนเมืองที่ส่อเข้าขั้นรัฐล่มสลาย

บล็อกหัวเชื้อไฟต้นเพลิง “นักการเมือง” ไม่ให้ลุกลาม

ล่าสุดประกาศราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่ง คสช.ที่22/2561 เรื่องการให้ประชาชนและพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง โดยเป็นการยกเลิกคำสั่งและประกาศ คสช. 9 ฉบับ ที่ห้ามเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน คำสั่งห้ามการชุมนุม ฯลฯ

เปิดทางให้เดินหน้าหาเสียงเลือกตั้งได้อย่างเต็มรูปแบบ

“ปล่อยผี” ที่โดนจับถ่วงหม้อมานานหลายปี

และก็แทบจะทันทีทันใด แค่ไม่กี่อึดใจให้หลังนาทีประกาศปลดล็อกการเมือง ก็ได้เห็นตัวเอกตามท้องเรื่องอย่างอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร “นายใหญ่” ขุมข่ายพรรคเพื่อไทย

โผล่ออกมา “ชู 3 นิ้ว” ปลุกเร้าสาวก กระตุกกองเชียร์ (“ทักษิณ ชินวัตร” โพสต์ชู 3 นิ้ว ปลุกแก้ รธน.ฉบับถ่วงความเจริญ)

ตีธงส่งสัญญาณเดินหน้าฉีก “รัฐธรรมนูญฉบับถ่วงความเจริญ”

ส่งซิกให้ลูกข่าย “ใส่เกียร์ห้า” เดินหน้าลุยล้มกระดาน “กติกาใหม่” ภายใต้ยุครัฐบาล คสช.

“เชื้อร้าย” ปมวิกฤติแตกแยกที่ถูก “อำนาจพิเศษ” กดทับไว้ 4 ปีกว่าๆ อาการกำเริบกลับมา

แสดงตัวให้เห็นเลยว่า แค่มุดหัวชั่วขณะ

และก็ทันควันเหมือนกัน กับจังหวะที่ “ตัวพ่อสายบู๊” ยี่ห้อ “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการรณรงค์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย

กระโดดรับลูก “นายใหญ่” เปิดฉากตีกราดดะตามสไตล์

ตั้งโต๊ะแถลงข่าวอย่างเป็นการเป็นงาน

แต่ข้อมูลไม่ “เป็นทางการ” แค่ออกตัวพูดในนามส่วนตัว ไม่มีผลผูกพันพรรค


ลีลาแบบที่อ้างกันลอยๆ ขณะนี้มีหน่วยงาน 2 หน่วยกำลังคิดอุบาทว์โกงเลือกตั้งให้กับพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งฟันธงไม่มีวันชนะ

หรือประเภทที่ปล่อยข่าว วันนี้ทีมพลังประชารัฐเริ่มมีการขอตำแหน่งกันแล้ว นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ขอเป็น รมว.พาณิชย์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ขอเป็น รมว.คมนาคม นายสุชาติ ตันเจริญ ขอเป็น รมว.พลังงาน

ปล่อยของ ประจานตีกินตามฟอร์ม “สารวัตรเหลิม”

อารมณ์เดียวกับ “ตัวพ่อสายไฮปาร์ค” อย่าง “เสี่ยเต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ย้ายไปปักหลักกับพรรคไทยรักษาชาติ ก็ขยับตามซิก “นายใหญ่” เปิดปฏิบัติการถล่มทีมหนุน “นายกฯลุงตู่”

อาศัยเหลี่ยมคูนักโต้วาที ลีลาพูดสองแง่สองง่ามแบบเอามัน

ปั่นกระแส สร้างฉากละครดราม่าการเมือง เป็นเชิง “เสี้ยม” ให้ พล.อ.ประยุทธ์รีบรับเป็นพ่อ จี้ให้แสดงตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวผู้ให้กำเนิดพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นห่วงไอ้หนุ่มบ้านเดียวกันชื่อ “ส” สนิทสนมกับรัฐมนตรี 4 กุมาร ท่าทางไม่ไว้วางใจเหมือนรอส้มหล่น


โหมโรงเรียกคนดูมหรสพ ปาหี่ ลิเกงานวัด

“ทักษิณ-เฉลิม-ณัฐวุฒิ” ตัวลิเกหน้าเดิม ตามท้องเรื่องเก่าๆ ที่เล่นซ้ำไปซ้ำมา 10 กว่าปี

ศึกทวงแค้นอำนาจ “นายใหญ่”

ได้เวลาเจ้าของ “โรงน้ำแข็ง” ยี่ห้อเก่ากลับมาเดินเครื่องใหม่ “ปั้นน้ำ” ขายลูกค้าแฟนขาประจำเดิมๆ

เพิ่มเติมคือการขายออนไลน์ ตีปี๊บผ่านโซเชียลมีเดีย

ที่แน่ๆตามยุทธศาสตร์ที่สะท้อนอย่างเด่นชัด “นายใหญ่” กับ “เฉลิม-ณัฐวุฒิ” ทีมงานตัวพ่อสายบู๊ เปิดฉากมาก็เล็งปากกระบอกปืนใหญ่ถล่มลูกน้องเก่า อดีตมืองานในบริษัทชินฯจำกัด ทั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ลากโยกไปกระแทกนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ

“ขุนศึกตัวจี๊ด” ที่พลิกข้างมาเป็นคีย์แมนทีมหนุน “นายกฯลุงตู่”

สะท้อนอาการ “หวั่นไหว” เจือ “แค้นฝังลึก”


พรรคพลังประชารัฐคือเป้าทำลายล้าง “ศัตรูเบอร์หนึ่ง”

คู่แข่งตัวจริงของขั้ว “ทักษิณ”

โดยมองข้าม “โจทก์เก่า” อย่างขั้วประชาธิปัตย์ ที่หล่นอันดับตัวเต็ง ไปเป็นแค่ “ตัวแปร”

ในห้วงสถานการณ์ที่ “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แค่ได้แอบลุ้นลึกๆจะเบียดแทรกเป็น “ตาอยู่”

กับหนทางแคบๆรูเล็กๆที่มีการพูดถึงสูตร “หมาออกลูกเป็นลิง” ประชาธิปัตย์พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน จับขั้วกับทีมงาน “ระบอบทักษิณ” แลกกับอุ้ม “อภิสิทธิ์” ขึ้นแท่นนายกรัฐมนตรี


รวมหัว “นักเลือกตั้งอาชีพ” สกัด “นายกฯลุงตู่” ตีตั๋วต่อ

ล้มกระดานทหารต่อท่ออำนาจ

โอกาสเบิ้ลนายกฯรอบสองของ “อภิสิทธิ์” ริบหรี่พอๆกับเส้นทางกลับบ้านของ “ทักษิณ”

ในห้วงสถานการณ์ที่ขุมพลัง “นายใหญ่” ลดน้อยถอยลงอย่างน่าใจหาย

“นายห้างดูไบ” ไม่แน่นปึ้กเหมือนเดิมอีกต่อไป

ปรากฏการณ์แบบที่คุย “หิมะถล่มประเทศไทย” เลือกตั้งแลนด์สไลด์แทบเลิกฝันได้

ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์แบบที่ลูกข่ายพรรคเพื่อไทย กล้าสละเรือหนี “นายใหญ่” ชิ่งหนีไปตายดาบหน้ากับ “ทักษิณ” อดีต ส.ส.เกรดเอย้ายออกจากพรรค

เลือดไหลไม่หยุดจนหยดสุดท้าย

ที่เหลืออยู่ก็ประเภท “นกแล” ต้องอาศัยแห่กระแสพรรค พึ่งบุญเก่ายี่ห้อ “ทักษิณ”

“แตกพรรค” แฝง “พรรคแตก” สู้กับกติกาใหม่

อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับสภาพท่อน้ำเลี้ยงเหือดแห้ง แหล่งทุนโดนบล็อก

มุก “ยืมเงินเพื่อนแทงไฮโล” ของ “ทักษิณ” ใช้ไม่ได้อีกต่อไป


ในสภาพการณ์ทางคดีที่รุกไล่หนัก นอกจากปมทุจริตเงินกู้กรุงไทยกับกลุ่มกฤษดามหานครของ “เสี่ยโอ๊ค” นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ถึงตรงนี้มีคนถามหา “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หายหน้าหายตาไป ในจังหวะที่คดีทุจริตโครงการจำนำข้าว “จีทูจีลอตสอง” กลับมากระหึ่ม

“ทักษิณ” ถูกลิดรอนศักยภาพในเกมเลือกตั้งที่ถนัด

โดนล็อกแขนล็อกขาหมดแทบทุกทาง

และนั่นก็เป็นเหตุที่อ่านไต๋ได้ กับเหลี่ยมที่ “สารวัตรเหลิม” ประกาศลั่นเฟซบุ๊ก

“ผมฝากเตือนข้าราชการทุกหมู่เหล่าให้วางตัวเป็นกลาง อย่าออกตัวมากนัก เพราะหากมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจ พวกท่านจะเดือดร้อน ให้ประชาชนเขาตัดสินใจเองว่า จะเลือกพรรคไหน ในไม่ช้าก็จะรู้แล้ว ผมไม่ได้หวังว่าพวกท่านจะทำตามแนวทางที่ผมบอก แต่ถ้ากลับตัวกลับใจได้ก็จะดี”

ขู่ออกอากาศ ปฏิบัติการเขย่าขวัญข้าราชการ

ส่งสัญญาณถึงทหารแตงโม ตำรวจมะเขือเทศ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทีมงานมหาดไทยสายสตรอว์เบอร์รี

พวกที่เคย “เกาะโต๊ะขอตำแหน่ง”


ทวงบุญคุณข้าราชการ หวังล็อกพลังแฝง “ตัวแปร” ในเกมเลือกตั้ง

มันคือพลังที่พอหลงเหลืออยู่ของ “นายใหญ่”

อย่างที่รู้ๆกัน พรรคที่ทรงอิทธิพลสุดในการเลือกตั้งประเทศไทยคือพรรคข้าราชการ สถานการณ์แบบที่รัฐบาล คสช.ยังไม่กล้าแตะต้องลงมีดผ่าตัดปฏิรูปแรงๆเพราะประคองแรงกระเพื่อม

“นายกฯลุงตู่” ต้องพึ่งแขนขาในการตีตั๋วต่อเกมเลือกตั้ง

ยังจำใจ “หลิ่วตา” ข้างหนึ่ง ยอมทุกวิถีทาง เพื่อผลสัมฤทธิ์เฉพาะหน้า

บล็อก “ทักษิณ” ในเกมถนัดเลือกตั้ง

ทั้งหมดทั้งปวง โดยฉากสถานการณ์มันก็สะท้อนสิ่งที่ “ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ” คาดการณ์ไว้ไม่มีผิด หัวเชื้อร้ายปมวิกฤติแตกแยกทางการเมืองยังไม่เจือจางลงแต่อย่างใด

แค่ถูกกระบองยักษ์ อำนาจพิเศษกดทับไว้ชั่วขณะ

แล้วมันก็โผล่มาให้เห็นทันทีที่ คสช.ปลดล็อกกฎเหล็ก สถานการณ์แบบที่ พล.อ.ประยุทธ์ปูดข้อมูลด้วยตัวเองเป็นเชิงดักทางขบวนการป่วนเมืองที่เคลื่อนไหว

ม็อบใต้ดินขยับกันพึ่บพั่บหลังปลดล็อก ปล่อยผีโหมโรงเลือกตั้ง


ภายใต้ “กติกาใหม่” รัฐธรรมนูญ “มีชัย” ปิดทาง “นายใหญ่” กลับสู่อำนาจ พร้อมเงื่อนไขสถานการณ์ไม่เหมือนเดิมที่ทีม “นายกฯลุงตู่” ก่อร่างสร้างฐานประเทศมาตลอด 4 ปีกว่าๆ เพื่อการันตีไม่ให้ “เสียของ”

แต่ “เดิมพันเก่า” เกมทวงแค้นของ “ทักษิณ” เอาคืนพวกโค่นอำนาจ “นายใหญ่”

โดยจังหวะมาถึงจุด “ทางสองแพร่ง” วัดใจคนตัดสินคือประชาชนคนไทย

จะฉุดประเทศพ้นปากเหวมรณะ

หรือชอบตื่นเต้นกับฝันร้ายไม่จบสิ้น.

“ทีมการเมือง”

ไม่มีความคิดเห็น: