บท “ลูกอีสาน” หยอดลูกอ้อนได้กลับ “บ้านเกิดแม่”
กับฉากล่าสุดที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี “ผ้าขาวม้าคาดพุง” ขับแทรกเตอร์ดันดิน เป็นสัญลักษณ์เปิดโครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดชัยภูมิ
ท่ามกลางประชาชนกว่า 2 หมื่นคนมารอต้อนรับ มากสุดตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ดี โดยการนี้ “นายกฯลุงตู่” ก็ไม่ลืมประกาศผ่านไมค์ระหว่างปราศรัยกับชาวบ้าน ขอให้โรงเรียนทำการสอนเพิ่มเติม ชดเชยสำหรับนักเรียนที่มารอต้อนรับนายกฯ
ป้องกันข้อครหารบกวนเวลาราชการ
จับอาการครึ้มอกครึ้มใจ แต่ก็ไม่เผลอย่ามใจ ยัง “ตั้งการ์ดสูง” ตลอดเวลา
อารมณ์แบบที่พระเอกเปิดหน้าเร็ว ก็เสี่ยงโดนหมัดหน้าช้ำเยอะ
แต่โดยเงื่อนไขสถานการณ์บังคับ จังหวะการขับเคลื่อนกระแสทางการเมืองของพรรคที่เป็นฐานต้นทุนตีตั๋วต่อ ต้องโชว์ความชัดเจน และนั่นก็เป็นหน้าที่ของนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศชัดถ้อยชัดคำ
“นายกฯลุงตู่” จะเป็น “เบอร์หนึ่ง” ใน “นายกฯบัญชีพรรค” ของยี่ห้อ พปชร.
แง้มฝา “ไฮโลเปิดถ้วยแทง” อย่างเป็นทางการ
สัญญาณทีมหนุน “ลุงตู่” มาถึงโหมด “เลิกกั๊ก”
และนั่นก็ล้อกับจังหวะการเร่งเครื่องออกตัวแรงๆ แบบที่ “อุลตร้าอุตตม” นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงนามแต่งตั้ง “โคตรเซียน” ระดับ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” เป็นประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจในการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้ง
ปล่อย “มวยหมัดหนัก” ลุยเก็บแต้มแบบถึงลูกถึงคน
“พลังประชารัฐ” รุกเข้าโซนปั่นตัวเลขชัวร์ๆที่จับต้องได้
เรื่องของเรื่อง ยี่ห้อ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ในหมู่คนการเมืองอาชีพรู้เหลี่ยมรู้มือกันดี โดยเฉพาะคนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” รู้อยู่แก่ใจที่สุด เพราะเคยใช้บริการกันมา
ยี่ห้อนี้ หมากการเมืองชั้นเดียวไม่เคยมี
ตัดออกไปได้เรื่อง “บ้องตื้น” เว้นแต่ “แกล้งโง่” แบบที่โชว์วาทกรรม “รัฐธรรมนูญออกแบบเพื่อพวกเรา” ออกมาให้ฮือฮา มองกันตื้นๆเหมือนหลุดปาก เผลอแบไต๋
แต่เหลี่ยมลึกๆตั้งใจเขย่าพวกที่กำลังตัดสินใจย้ายพรรค เร่งพวกที่สองจิตสองใจ
และผลก็อย่างที่เห็น ภาพ ณ วันสิ้นสุดเดดไลน์ “เส้นตาย” สังกัดพรรค อดีต ส.ส.เกรดเอกว่า 40 ราย ขุมข่าย “ทักษิณ” พากันสละเรือชิ่งตายกับ “นายใหญ่” ย้ายสังกัดเข้าพรรคพลังประชารัฐ
แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ปฏิวัติโค่นกระดานตระกูลชินปี 2549
เช่นเดียวกับคนของพรรคประชาธิปัตย์หรือแม้แต่ยี่ห้อภูมิใจไทยตัดสินใจนาทีสุดท้าย ย้ายเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ เพราะปัจจัยเอื้อให้แบบที่ “สมศักดิ์” ตีปี๊บโฆษณา
จาก 80-90 ที่นั่ง อัปเกรดเป้าหมายกลายเป็นตัวเต็งเกิน 150 เก้าอี้
นั่นหมายถึง “กติกาออกแบบเพื่อพวกเรา” ของ “สมศักดิ์” ได้ผลเกินเป้า และโดยจังหวะเดินหน้าเขย่า “นายใหญ่” ต่อเนื่อง ตามยุทธศาสตร์ขนหางเครื่องเดินสายออกต่างจังหวัด
ปฏิบัติการขยายปมเด่น “ลุงตู่” ตอกย้ำปมด้อยทีม “ทักษิณ”
อวยกันให้เห็นๆตามลีลาเคลียร์ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ วันนี้ไม่ใช่เผด็จการอีกต่อไปแล้ว แต่คือ “ลุงตู่” ผู้ที่เดินเข้าหาประชาชน และต้องการช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง
พยายามทำให้ประเทศชาติสงบปราศจากความวุ่นวายทางการเมืองในอดีต
มีแต่นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนเท่านั้นที่เรียก “ลุงตู่” ว่าเผด็จการ แต่นั่นคือการใส่ร้ายเพราะอดีต “ลุงตู่” เคยยึดอำนาจ
แต่บุคคลที่เป็นเผด็จการตัวจริงคือ นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง
โดยเฉพาะนักการเมืองในอดีตที่มีความพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อให้ “ทักษิณ” กลับบ้าน โดยใช้เวลาออกกฎหมายเพียง 1 วันเท่านั้น ผ่านกฎหมายช่วงตีสอง ปกติการผ่านกฎหมายใหญ่ๆแบบนี้ ต้องใช้เวลาพิจารณาถึง 3 วาระ และใช้เวลานานหลายเดือน จึงถูกเรียกว่ากฎหมายนิรโทษกรรมฉบับลักหลับ
ที่แสบลึกสุดๆก็คือการตอกย้ำ “ทักษิณ” กลับบ้านไม่ได้ เพราะจะเกิดสงครามกลางเมือง
“สมศักดิ์” แค่เอาความจริงพื้นๆมาพูดกัน แต่นั่นก็เป็นอะไรที่ทีม “นายใหญ่” โต้ได้ไม่เต็มปากเต็มคำ
เมื่ออดีต “คนวงใน” ตอกย้ำ มันจุกอกเถียงไม่ออก.
ทีมข่าวการเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น