PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

เสี่ยงคลุกวงในทำไม

“บุรุษแกร่งสุดในปฐพี” สร้างภาพโชว์เชิงบริหารเศรษฐกิจเก่งขั้นเทพ

แต่ยังไงก็ “เบบี๋ทางการเมือง” อยู่ดี

ตามฟอร์มแบบที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตบัญชีนายกฯพรรคเพื่อไทย ยอมรับเต็มปากเต็มคำ ถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะไม่รื้อฟื้นโครงการ “จำนำข้าว” มาทำต่อ

ส่อให้เห็นอาการ “ถอยกรูด” แหยงเผือกร้อนอดีตรัฐบาลเพื่อไทย

แถมในทางตรงกันข้าม นายชัชชาติยังพูดเต็มปากเต็มคำ พร้อมเดินหน้าสานต่อโครงการดีๆ

ที่ปัจจุบันมีอยู่แล้วคือ พื้นที่พิเศษโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี) และยืนยันจะไม่ยกเลิกโครงการสวัสดิการประชารัฐหรือ “บัตรคนจน” ของรัฐบาล “นายกฯลุงตู่”

ตัดแต้มฝั่งเดียวกัน เพิ่มเครดิตคู่ต่อสู้

“นายใหญ่” ทีมดูไบไม่ปลื้มแน่นอน

เรื่องของเรื่อง มันสะท้อนแง่มุมความจริง สิ่งที่ทีม “ทักษิณ” ล็อกเป้าประจานผลงานด้านเศรษฐกิจ เจาะยางการบริหารงานของรัฐบาล “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ เป็นหัวเรือใหญ่

เล่นเกมวาทกรรม ปลุกอุปาทานหมู่บลัฟรัฐบาลท็อปบูตตามสูตร

แต่ถึงจุดที่ปฏิเสธความจริงไม่ได้ การที่ “ชัชชาติ” เคลม “โครงการดีๆ” ทั้งอีอีซี ทั้งบัตรคนจน มันเป็นอะไรที่ตอกย้ำ “การันตี” ยุทธศาสตร์การพัฒนาการทางเศรษฐกิจระยะยาวของรัฐบาล “ลุงตู่” เดินมาถูกทาง

การตั้งรับโลกอนาคตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและแข่งขันอย่างรุนแรง

ต่อให้เป็นยี่ห้อ “ทักษิณ” ก็ต้องทำแบบนี้

อย่างที่นายสมคิดเร่งเครื่องเมกะโปรเจกต์ดึงดูดการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ประคองตัวในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลก ปั๊มตัวเลขจีดีพี พร้อมๆกับอัดฉีดมาตรการลดแลกแจกแถมช่วยคนจน กระตุกสภาพคล่องเศรษฐกิจฐานราก ประคองปัญหาปากท้องประชาชนผู้มีรายได้น้อย

มันไม่หนีตำราเศรษฐศาสตร์เล่มเดียวกัน

และจุดสำคัญ มันคาบเกี่ยวกับมือยุทธศาสตร์เศรษฐกิจชื่อเดียวกัน คนเดียวกัน

อดีตรัฐบาลไทยรักไทย “สมคิด” คิด “ทักษิณ” ทำ

วันนี้รัฐบาล คสช. “สมคิด” คิด “ลุงตู่” ทำ

แต่จุดที่แตกต่างกันคือรัฐบาล “ลุงตู่” ทำแบบไม่มีทุจริตเชิงนโยบาย ไม่มีรายการชักหัวคิวร้อยละ 30

เนื้องานเดินหน้าเต็มเม็ดเต็มหน่วย โครงการอีอีซีมีนักลงทุนต่างชาติ ญี่ปุ่น จีน ฯลฯ จองพื้นที่สร้างฐานการผลิตกันเป็นล่ำเป็นสัน รถไฟฟ้าหลากสี สารพัดสายปักหมุด ตอกเสาเข็ม รถไฟความเร็วสูงไทย–จีน คืบหน้าเป็นรูปเป็นร่าง สมน้ำสมเนื้อกับงบประมาณแผ่นดิน

ยุค “ลุงตู่” แตกต่างจากยุค “ทักษิณ” ก็ตรงนี้

มันเป็นอะไรที่เทียบเคียงกันได้ตามเนื้อผ้า หักล้างกับวาทกรรมได้

ยิ่งเป็นอะไรที่ “ผิดฟอร์ม” เลือกตั้งรอบนี้ยังไม่เห็นทีเด็ดพรรคเพื่อไทย รวมถึงเครือข่ายเปิดนโยบายออกมาชิงคะแนนนิยม มีแค่มอตโตลอยๆ จะไม่ปล่อยให้ล้าหลัง ล้มเหลว ถดถอย สิ้นหวัง

กับวาทกรรมประชาธิปไตยล้มล้างเผด็จการ ชูธงนักเลือกตั้งอาชีพล้มล้างทหาร

สถานการณ์มันก็ยิ่งสะท้อนอาการ “หมดมุก” ทีมเพื่อไทยไม่มีนโยบายอะไรใหม่ๆมาดีเบตกับทีมพลังประชารัฐที่ได้ต่อยอดเนื้องานปัจจุบัน เสริมมุมบวกของการตีตั๋วต่อของทีมหนุน “ลุงตู่”

ดูตามรูปเกม “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” นี่ต่างหาก ไพ่อีกใบที่ยังไม่ได้ตี

ถึงจุดหนึ่งถ้าทีมหนุน “ลุงตู่” จำเป็นต้องขึ้นเวทีประชัน “เขี้ยว” กับนักการเมืองอาชีพ

ตามรูปการณ์ที่ประเมินได้ ไม่มีทางที่ “ลุงตู่” จะหลงเหลี่ยมเกมยั่ว

โดนลากมา “รุมสกรัม” ในเวทีดีเบต

เพราะสังเกตจากอาการกระเหี้ยนกระหือรือ โดยเฉพาะคิวของ “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “นักโต้วาที” มืออาชีพจากออกซ์ฟอร์ด มือกระบี่ “จอมเชือดเฉือน” อย่าง นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ไม่เว้นแม้แต่ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

จ้องลาก “ลุงตู่” มาเป็นบันไดลิง ชิงตีตื้นคะแนนทางลัด

เรื่องของเรื่อง “ลุงตู่” ไม่ต้องขึ้นเวทีดีเบตเอง ก็มีหัวหน้าและผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐไปประชันแทน และก็ไม่ได้ผิดกติกาแต่อย่างใด

ถ้าจะมีการตั้งเวทีโชว์กึ๋นของนายกฯเอง แล้วเปิดให้คนมาฟัง หรืออย่างล่าสุดพรรคพลังประชารัฐเปิดตัวหนังสือ “ประชารัฐสร้างชาติ” สะท้อนตัวตนของ “นายกฯลุงตู่”

บวกแต้มสะสมจากการเดินสายเล่นบทพระยาน้อยชมตลาด ในคิวตรวจราชการ ประชุม ครม.สัญจร

ถึงตอนนี้ทั้งนิด้าโพล กรุงเทพโพลล์ แต้ม “ลุงตู่” นำอย่างมีนัยสำคัญ

แค่ตีกรรเชียงแย็บทำคะแนน ไม่เห็นจำเป็นต้องคลุกวงในให้เสี่ยงโดนน็อก.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: