PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2562

ลุ้นอีก13วัน

มีใบเสร็จยืนยันว่าการเลือกตั้งใหญ่ วันที่ 24 มีนาคม จะมีพี่น้องประชาชนแห่ไปใช้สิทธิมากเป็นประวัติการณ์

ดูได้จากการตื่นตัวไปใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีคนไทยลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้ง 4,139 คน

ปัญหาเกิดขึ้นเพราะสถานทูตไทยในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เปิดให้ใช้สิทธิเลือกตั้งเพียงวันเดียว แถมจัดคูหาลงคะแนนเพียง 3 คูหา

ซึ่งไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ลงทะเบียนกว่า 4 พันคน

ทำให้ต้องยืนรอต่อคิวกันยาวเฟื้อยล้นทะลักสถานทูตไทย

จนสถานทูตต้องขยายเวลาใช้สิทธิเลือกตั้งเพิ่มอีก 1 วัน เพื่อให้ชาวไทยในมาเลเซียได้ใช้สิทธิเลือกตั้งครบถ้วนตามความตั้งใจ

“แม่ลูกจันทร์” กระชุ่น นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.เตรียมแผนรองรับคลื่นมหาชนกว่า 40 ล้านคน ที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งใหญ่วันที่ 24 มีนาคม อย่างมืดฟ้ามัวดิน

อย่าให้เกิดปัญหาวุ่นวายขายปลาช่อนเป็นอันขาดเชียว!!

เพราะนี่คืองานใหญ่งานสำคัญที่จะพิสูจน์ “กึ๋น” กกต.ทั้ง 7 คน

ล่าสุด “กรุงเทพโพลล์” เปิดผลสำรวจความเห็นประชาชน 1,735 คน ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งใหญ่ 2 สัปดาห์

อันดับ 1, ประชาชน 24.8 เปอร์เซ็นต์ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สืบทอดอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรี

คะแนนเชียร์ “ลุงตู่” เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งแรกอีกเท่าตัว

อันดับ 2, ประชาชน 17.3 เปอร์เซ็นต์ สนับสนุน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นว่าที่นายกฯหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย

อันดับ 3, ประชาชน 13.3 เปอร์เซ็นต์ สนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใส่ตะกร้าล้างน้ำกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี

อันดับ 4, ประชาชน 11.3 เปอร์เซ็นต์ สนับสนุน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขวัญใจคนรุ่นใหม่ เป็นนายกฯเปิดซิง

และอันดับ 5, ประชาชน 6.5 เปอร์เซ็นต์ จะเทคะแนนให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ชิงดำเป็นนายกรัฐมนตรี

นายกฯลุงตู่มีคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งอันดับ 2 ถึง 7.5 เปอร์เซ็นต์

กรุงเทพโพลล์ ยังเปิดโผสำรวจความเห็นประชาชนว่าจะลงคะแนนเลือกพรรคไหนให้เป็นรัฐบาล

อันดับ 1, ประชาชน 21.7 เปอร์เซ็นต์ ยืนยันจะเลือกพรรคเพื่อไทย

อันดับ 2, ประชาชน 19.0 เปอร์เซ็นต์ จะเลือกพรรคพลังประชารัฐ

อันดับ 3, ประชาชน 15.5 เปอร์เซ็นต์ จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์

อันดับ 4, ประชาชน 12.0 เปอร์เซ็นต์ จะเลือกพรรคอนาคตใหม่

และอันดับ 5, ประชาชน 3.9 เปอร์เซ็นต์ จะเลือกพรรคเสรีรวมไทย

ถ้าเอาผลสำรวจกรุงเทพโพลล์ไปผ่าแยกเป็น 2 ซีกเพื่อหาสูตรตั้งรัฐบาล

คือเอาเปอร์เซ็นต์เลือกพรรคพลังประชารัฐ กับเปอร์เซ็นต์เลือกพรรคประชาธิปัตย์ไปบวกกัน จะเท่ากับ 34.5 เปอร์เซ็นต์

จากนั้นเอาเปอร์เซ็นต์เลือกพรรคเพื่อไทย บวกพรรคอนาคตใหม่ บวกพรรคเสรีรวมไทย จะเท่ากับ 37.6 เปอร์เซ็นต์

แล้วเอาคะแนนรวม 2 ขั้วไปขึ้นตาชั่งวัดกัน

คะแนนขั้วลุงตู่จะน้อยกว่าขั้วเจ๊หน่อย 3.1 เปอร์เซ็นต์

แต่ถ้าเอาคะแนนพรรคภูมิใจไทย ของ “เสี่ยหนู” มาสยุมพรกับขั้วลุงตู่อีกพรรคเดียว

ขั้วลุงตู่จะพลิกกลับเป็นเสียงข้างมากทันที

ยังไม่รวม ส.ว.ลากตั้งที่ล้างจั๊กกระแร้รอชูมือให้ “ลุงตู่” อีก 250 คน

สรุปว่าถ้าผลสำรวจกรุงเทพโพลล์แม่นโป๊ะเชะ 100 เปอร์เซ็นต์

เก้าอี้นายกฯหลังเลือกตั้งอยู่ในกำมือลุงตู่ 99.99 เปอร์เซ็นต์

แม่นหรือไม่แม่น ต้องรอลุ้นพิสูจน์ของจริงอีก 13 วัน.

“แม่ลูกจันทร์”

ไม่มีความคิดเห็น: