PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2562

ถึงไหนถึงกัน

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.แถลงสรุปผลการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าว่า ประชาชนตื่นตัวออกไปใช้สิทธิทั่วประเทศสูงถึง 86.98 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ 2.6 ล้านคน

หลายจังหวัดมีประชาชนแห่ไปใช้สิทธิ เลือกตั้งล่วงหน้าสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์

กรุงเทพฯ สะดือประเทศไทย มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าล้นหลามกว่า 87 เปอร์เซ็นต์

เขตบางกอกใหญ่ครองแชมป์มีผู้ใช้สิทธิสูงสุดถึง 92 เปอร์เซ็นต์

เขตบางคอแหลม สัมพันธวงศ์ ปทุมวัน พญาไท ก็ไม่เบามีผู้ใช้สิทธิทะลุเป้าเกิน 90 เปอร์เซ็นต์

แม้แต่เขตที่มีผู้ใช้สิทธิน้อยที่สุดใน กทม.ยังกดไปเบาะๆ 83 เปอร์เซ็นต์

“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าวันเลือกตั้งใหญ่ 24 มีนาคม จะได้เห็นพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศแสดงพลังไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างมืดฟ้ามัวดินทะลุเป้า 80 เปอร์เซ็นต์ ของยอดผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 51 ล้านคน

นับถึงวันนี้ เหลือเวลาอีก 5 วัน ที่พรรคการเมืองทุกพรรค และผู้สมัครเลือกตั้งทุกคนต้องตะลุมบอนหาเสียงอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู

เวลาที่เหลืออีก 5 วัน สามารถพลิกผลเลือกตั้งจากแพ้เป็นชนะ หรือจากชนะกลายเป็นแพ้ได้ทุกเขต...ที่คะแนนสูสีคู่คี่กัน

จึงไม่น่าแปลกใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกฯ (เต็งหนึ่ง) พรรคพลังประชารัฐ จัดคิวเดินสายตรวจราชการและเยี่ยมเยียนประชาชนแบบถึงไหนถึงกัน

ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องออกมาสะกิด กกต.ให้ตรวจสอบการขยันเดินสายของ “นายกฯลุงตู่” ให้เกิดความชัดเจนว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี??

หรือมีเป้าหมายอื่นเจือปน??

เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ ใส่หมวก 2 ใบ เป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีพรรคการเมือง
การเดินทางลงพื้นที่ในเวลาราชการ ใช้ทรัพยากรของรัฐ มีคำสั่งเกณฑ์ประชาชนไปต้อนรับ มีการจัดเวทีให้นายกรัฐมนตรีปราศรัยกับพี่น้องประชาชน

อาจเข้าข่ายความผิดมาตรา 78 พ.ร.บ. เลือกตั้ง ส.ส.ที่ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการใดๆ เพื่อเป็นคุณหรือโทษ
แก่ผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง

“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์สะกิดติ่ง กกต.ให้ตรวจสอบการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี? หรือในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรคการเมือง? หรือทั้งสองอย่างรวมกัน??

ถือว่าเหตุผลมีนํ้าหนักเพียงพอที่ กกต.จะรับพิจารณา

แต่ในแง่มุมกฎหมาย ยังฟันธงไม่ได้ชัดเจน

เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีแบบปกติ ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีรักษาการ

พล.อ.ประยุทธ์ จึงมีสิทธิเดินทางลงพื้นที่ปฏิบัติราชการ หรือเยี่ยมเยียนประชาชนอย่างสะดวกโยธิน

การมีคำสั่งเกณฑ์ชาวบ้านไปต้อนรับ และการจัดเวทีให้ปราศรัยกับประชาชน ก็เป็นสูตรสำเร็จทุกครั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการ

ดังนั้น ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่หลุดปากปราศรัยพาดพิงพรรคพลังประชารัฐ

และไม่มีแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีผู้สมัครของพรรคไปโชว์ตัว หรือร่วมผสมเป็นยาดำ

ยังฟันธงไม่ได้ว่าเข้าข่ายใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้คุณให้โทษหรือเอื้อประโยชน์พรรคการเมือง

เหลืออีกไม่กี่วันจะได้แสดงพลังเลือกตั้งกันแล้ว อย่าไปจุกจิกกับ “นายกฯลุงตู่” นักเลย

เปิดโปรโมชันโค้งสุดท้ายให้ลุงตู่ เดินสายตรวจราชการให้เต็มเหนี่ยวเถอะโยม.

“แม่ลูกจันทร์”

ไม่มีความคิดเห็น: