PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2562

เจาะยางไม่ทันแล้ว

หล่อไม่สุด

ตามปรากฏการณ์ที่ “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ตั้งใจโชว์มาตรฐานความโปร่งใส เปิดมิติใหม่ทางการเมืองด้วยการโอน “ขุมทรัพย์” ส่วนตัวกว่าครึ่งหมื่นล้านไปให้ Trust หรือกองทุน เป็นผู้ดูแล ลักษณะ “Blind Trust” สลัดภาพผลประโยชน์ทับซ้อน

แต่เจอกูรูการเงินระดับนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแฉหักหน้าเป็นเชิง “Blind Trust” ยังไม่มีจริงในประเทศไทย เพราะยังไม่มีกฎหมายรองรับ

เคยมีนักการเมืองอีกหลายคน รวมทั้งตัวนายกรณ์ด้วย เคยทำเช่นนี้มาก่อนแล้ว โดยการโอนทรัพย์สินให้สถาบันการเงินดูแลและบริหาร แต่ไม่ใช่ “Blind Trust”

นายกรณ์ยังสวนทางหักมุมมุกโชว์โปร่งใสของนายธนาธร

ยิ่งมองไม่เห็น ยิ่งตรวจสอบไม่ได้

บลัฟกันเป็นนัย วิธีที่ชัดเจนที่สุดที่จะปลดปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนคือการขายขาดไปเลย

เจอลูกเขี้ยวยี่ห้อประชาธิปัตย์เตะสกัด น้องใหม่อย่าง “ธนาธร” เลยหน้าม้านไป

และตามจังหวะสถานการณ์วันนี้ การเลือกตั้งผ่านโค้งสุดท้ายเข้าทางตรง อารมณ์เดียวกับมวยยก 5 สังเกตอาการเร่งเครื่องแรงมากกว่าใครก็คือมวยของค่ายประชาธิปัตย์

ไล่เตะ “เจาะยาง” ดักเตะตัดขาเขาไปทั่ว

มุ่งเฉพาะพวกฐานเสียงทับซ้อน ยี่ห้อที่จะมาตัดคะแนน แย่งส่วนแบ่งตลาดประชาธิปัตย์ ชัดเจนที่สุดคือค่ายอนาคตใหม่ ที่สังเกตได้ “ธนาธร” โดนทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรุ่นใหญ่อย่างนายกรณ์ ดักสอนมวยไปแล้ว 2–3 ช็อต

ฟอร์มฮอตเลยสะดุด หล่อแบบไม่สุด

แต่เป้าใหญ่กว่านั้นก็คือ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และทีมพลังประชารัฐ

ตามสัญญาณแรงๆ “เดอะมาร์ค” ประกาศชัด “ไม่ต้องเกรงใจกันอีกต่อไป”

ไล่หลังจากยุทธการ “เท” ประกาศไม่หนุน “ลุงตู่” เป็นนายกฯสืบทอดอำนาจ “อภิสิทธิ์” นำทีมสลัดตัวออกจากการเกาะแข้งเกาะขา “ลุงตู่” อยู่ใต้เงาขั้ว คสช.

เพราะอ่านเกมแล้ว เจอทีมหนุน “ลุงตู่” ดูดแต้ม มีแต่รอหมดตูด

ตามยุทธการต้องรีบหันกลับมา “ล่อเป้า” ดูดคะแนนคืนจาก พล.อ.ประยุทธ์ โดยไม่รู้จะทันหรือไม่

ในจังหวะแบบที่ “นายกฯลุงตู่” บุกถ้ำเสือจังหวัดนครศรีธรรมราช ก็เจอ “ลิ่วล้อ” ประชาธิปัตย์เปิดโพยแฉหนังสือราชการเกณฑ์ประชาชนมาต้อนรับนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจราชการ ไล่จี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เฉ่งปี๋นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช

ดักโรยตะปูเรือใบสกัด “ลุงตู่” บุกตีตลาดให้ยี่ห้อพลังประชารัฐ

แต่นั่นก็ไม่ง่าย กับภาพของผู้นำทหารที่กลายเป็นมวยเจนจัดสนามหาเสียงไปแล้ว

ในฉากแบบที่ “นายกฯลุงตู่” สวมบทโชเฟอร์รถสองแถว ขึ้นขับเองแบบเนียนๆ ขับวนโบกไม้โบกมือ ส่งสัญลักษณ์ไอเลิฟยู ท่ามกลางเสียงเชียร์ ชาวบ้านปรบมือชอบอกชอบใจ

ภาพ “ลุงตู่” ติดดิน อินกับบทนักการเมืองอาชีพ

ชิงพื้นที่ข่าว ชาร์จเรตติ้งกระแสการเมืองรายวัน

อีกด้านก็เป็นหน้าที่ของ “จอมยุทธ์กวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ ไล่เคลียร์กระแส ไล่ซ่อมแซมความเสียหายจากพิษน้ำลายของนักเลือกตั้งอาชีพ

รุมดิสเครดิตปมเศรษฐกิจรัฐบาล คสช.

ส่อกระเทือนความมั่นใจของนักลงทุน โดยเฉพาะต่างชาติที่ไม่เข้าใจธรรมชาติการเลือกตั้งไทย ที่เน้นโจมตีคู่แข่งให้เสียหายไว้ก่อน จริงเป็นเท็จ เท็จเป็นจริง โดยไม่สนภาพรวมประเทศจะเสียหายอย่างไร

อารมณ์แบบที่ “สมคิด” บ่นคันหู เซ็งพวกเอาเท้าราน้ำ

แต่เรื่องของเรื่องว่ากันตามยุทธศาสตร์ที่เล่นกันเป็นทีม ตามเหลี่ยม “สมคิด” ออกมาเคลียร์กระแสแก้ลำที่รัฐบาลโดนถล่มปมด้อยเศรษฐกิจ สวนกลับพวกดิสเครดิต “ลุงตู่” แบบมวยมีเชิง

แยกกับบทที่ “นายกฯลุงตู่” ก็เดินแต้มเชียร์แขกให้พรรคพลังประชารัฐ

โฆษณากันด้วยเนื้องานรัฐบาล 4–5 ปี เมกะโปรเจกต์ที่เป็นรูปธรรม บัตรสวัสดิการประชารัฐ ผลงานการแก้ปัญหาธงแดงการบิน การปลดล็อกธงเหลืองด้านประมง

กับทีมงานที่พร้อมไปต่อเลยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ มันชัดเจนกว่าพรรคอื่นที่ฟุ้งภาพลอยๆในอากาศ

และกับผลเบื้องต้น ตามข้อมูลตัวเลขจากการสุ่มหยั่งเสียง

ผู้ออกเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 17 มีนาคม ที่มืดฟ้ามัวดินเกินร้อยละ 80 ปรากฏพรรคเพื่อไทยครองเสียงอันดับ 1 แต่พรรคที่มาแรงแซงโค้งคือพรรคพลังประชารัฐ เด้งขึ้นมาอันดับ 2 คะแนนเหนือกว่าพรรคประชาธิปัตย์

แค่นี้ ทีมหนุน “ลุงตู่” ตีตั๋วต่อ ก็ตีปีกกันได้แล้ว.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: