PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562

ร่องรอย"แซะ"ยังมีอยู่"


อาการของคนอั้นเลือกตั้งมา 8 ปี

ปรากฏการณ์แบบที่ประชาชนแห่ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้าเกินร้อยละ 80 แทบ ทุกพื้นที่ของประเทศไทย ยอมฝ่ารถติด ต่อคิวยาวเหยียด เลยเวลา 17.00 น.แล้วยังมีคนต่อแถวจองสิทธิยาวถึงทุ่มกว่า

นิมิตหมายการเลือกตั้งเปลี่ยนผ่านรอบนี้ ตัวเลขทำสถิติแน่

และนั่นยังเป็นสัญญาณของการคิดอัตราส่วนคะแนน ส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์ที่อาจจะแปรผันสูงขึ้นตามจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง

ถ้าวันที่ 24 มีนาคม คนยังออกมาใช้สิทธิมืดฟ้ามัวดินแบบนี้

พรรคเล็กที่หวัง “เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน” น่าจะเหนื่อย

โค้งสุดท้าย เข้าทางตรง โฟกัสอยู่ที่พรรค “ตัวเต็ง” ไล่อันดับ 1 อันดับ 2 อันดับ 3

แน่นอนตามเงื่อนไขสถานการณ์ “เต็ง 1” อย่างพรรคเพื่อไทย ยังประคองเรตติ้งไม่หล่นอันดับ แต่ล่าสุดต้องเผชิญกับดัก “ด่านสำคัญ” กระแสคดีทุจริตจำนำข้าว “จีทูจี” ลอต 2 ที่มีข้อมูลหลุดออกจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดโพยขบวนการโกงลอตใหญ่ที่จ่อโดนเช็กบิล ตามข้อมูลจากการส่งคนเข้าไปสอบนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ถึงในเรือนจำ

ย้ำตะปู ตอกฝาโลง “3 พี่น้อง” อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมถึงตัวจักรสำคัญอย่าง “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เจ้าแม่เมืองเหนือ

เส้นทางวิบากของพี่น้องตระกูลชิน เพื่อไทยชนะแต่ก็ไปต่อลำบาก

เอาเป็นว่า วัดจากมุมของนักวิชาการสายกลางอย่างนายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง ประเมินสถานการณ์ ผลโพลในระยะหลังพรรคพลังประชารัฐขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง หากเป็นไปตามผลโพลก็จะไม่มีปัญหาคงมีการจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำได้

แต่ตัวแปรสำคัญอยู่ที่คะแนนเสียง ว่าจะรวมกันแล้วเกิน 250 หรือไม่

โดยเฉพาะผลคะแนนระหว่างพลังประชารัฐกับประชาธิปัตย์ ใครได้มากกว่าจะมีผลต่อการต่อรองตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เสียงจากประชาชนน่าจะทำให้ทั้ง 2 พรรคมีท่าทีที่เปลี่ยนไปได้

สรุปการเมืองจะติดล็อกหรือไม่ ต้องลุ้น “พลังประชารัฐ” วัดกับ “ประชาธิปัตย์”

ถ้าประชาธิปัตย์ได้เสียงมากกว่า สมการรัฐบาลป่วนแน่

ซึ่งนั่นก็ล้อกับสถานการณ์ศึกสายเลือดประชาธิปัตย์ที่เล่นกันแรงแบบที่ “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ออกอาการฉุนขาดอดีตเด็กปั้นอย่าง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่ประกาศไม่หนุน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯสืบทอดอำนาจ

ถีบไปอยู่ฝั่ง “ทักษิณ” ด่าแรงๆอยากเป็นนายกฯจนลืมหัวกู

ต่อเนื่องกับช็อตย้อนคอหอยคนพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยยกมือโหวตให้ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ตอนเป็นนายกรัฐมนตรี 8 ปีครึ่ง ทำไมไม่พูดว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ

“ลุงกำนัน” อาละวาด เขย่าฐานประชาธิปัตย์หลายแมกนิจูด

สถานการณ์ถึงจุดที่ทนนิ่งอยู่ได้ พ่อบ้านใหญ่อย่างปรมาจารย์ “ชวน หลีกภัย” ต้องออกมาสะบัดใบมีดโกนใส่อดีตมือขวาอย่าง “ลุงกำนัน”

ด่าพรรคประชาธิปัตย์ ก็เหมือนด่าบุพการีตัวเอง

เจ้าอาวาสออกโรงเอง ในเครื่องหมายคำถามยี่ห้อ “ชวน หลีกภัย” ยังขลังแค่ไหน

ประชาธิปัตย์เตะตัดขากันเอง จังหวะดิ้นสู้เดิมพันพรรคต่ำร้อย

แต่ในสถานการณ์ที่แค่ “ลอยคอ” ตีกรรเชียงเข้าฝั่ง จังหวะทุกอย่างไหลเข้าทาง “ลุงตู่” ที่เพิ่งพูดชัด ชายชาติทหาร ถ้าเจ้านายไม่สั่งหยุด ก็ต้องเดินหน้าสู้ต่อเพื่อบรรลุเป้าหมาย

และล่าสุดนายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดสเปกภาคเอกชนต้องการรัฐมนตรีเศรษฐกิจที่มีความเชี่ยวชาญ ยอมรับเสียดายรัฐมนตรีเศรษฐกิจบางคนในรัฐบาลนี้ เพราะเห็นถึงความตั้งใจและความเก่งในการบริหารจัดการ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าต่อไป

แต่เชื่อว่า รัฐบาลใหม่จะสานต่อนโยบายเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์จากรัฐบาลชุดปัจจุบัน เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไว้ โดยเฉพาะโครงการลงทุนใน EEC ซึ่งถือเป็นโครงการลงทุนที่สำคัญในการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ

เดาทางก็รู้ ลุ้นรัฐบาล “ลุงตู่” เดินหน้าต่อ เพื่อความต่อเนื่องของการพัฒนาการเศรษฐกิจ ภายใต้การนำของกัปตันทีมอย่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ

สถานการณ์ทางตรง “นายกฯลุงตู่” นำโด่งเข้าเส้นชัย

แต่กระนั้นก็ดี ยังมีขบวนการดักวางตะปูเรือใบ

ทั้งในมุมของการขุดกรุยี่ห้อ “ชวน หลีกภัย” มวยรุ่นใหญ่ลายครามของประชาธิปัตย์ ในสถานะนายกฯ ขัดตาทัพ เพราะ “ลุงตู่” ถูกเบรกไม่ได้ไปต่อ ล้อกับอาการเฮี้ยวของ “อภิสิทธิ์” ที่ประกาศเท “ลุงตู่” โค้งสุดท้าย

อีกมุมก็มีชื่อของบิ๊ก “จ” บุคคลสถานะพิเศษ ตามสูตรท็อปบูต

สลับฉาก “บิ๊กตู่”

เรื่องของเรื่อง ข่าวลือก็คือข่าวลือ นายกรัฐมนตรีไม่ใช่จะหยิบใครมาเป็นก็ได้ เพียงแต่จากการเขี่ยเชื้อ กระพือควัน มันก็สะท้อนถึงความพยายามในการ “แซะ” พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีอยู่ประปราย

โดยเฉพาะคนในขุมข่ายฝ่ายคุมเกมอำนาจด้วยกันเอง.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: