PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2562

เตือนนังไงก็ไม่ฟัง

เหลืออีก 19 วัน พี่น้องประชาชนชาวไทย 51 ล้านคนจะออกไปแสดงพลังใช้สิทธิเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบ

เพื่อสร้างสถิติใหม่ เป็นการเลือกตั้ง ส.ส.ที่มีผู้ไปหย่อนบัตรเลือกตั้งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์

ช่วงวอร์มอัปก่อนเลือกตั้ง สำนักโพลต่างๆไปถามความเห็นประชาชนถึงเหตุผลในการตัดสินใจลงคะแนนเลือกผู้สมัครพรรคใด??

ปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่ตอบตรงกันว่าจะพิจารณาจากนโยบายพรรคเป็นหลักสำคัญ

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าศึกเลือกตั้งครั้งนี้ พี่น้องประชาชนคงตัดสินใจลำบากแน่นอน

เพราะนโยบายหาเสียงทุกพรรคไม่แตกต่างกันเลย

ทุกพรรคก๊อบปี้ตำราเดียวกัน คือเน้นนโยบายประชานิยมรัฐสวัสดิการเป็นใบเบิกทาง

นโยบายหลักประกันสุขภาพ นโยบายกองทุนหมู่บ้าน เริ่มมาจากยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย

วันนี้ทุกพรรคประกาศพร้อมเดินหน้าต่อไปและให้มากกว่าเดิม

นโยบายเรียนฟรี นโยบายเบี้ยยังชีพ คนชรา ซึ่งเริ่มจากยุครัฐบาลประชาธิปัตย์

วันนี้ทุกพรรคประกาศเดินหน้าต่อไป แต่จัดหนักยิ่งกว่าเดิม

นโยบายบัตรเครดิตคนจนของรัฐบาลนายกฯลุงตู่

ทุกพรรคยืนยันจะไม่ยกเลิกแน่นอน แต่จะทุ่มงบอัดฉีดแจกฟรีเพิ่มขึ้นอีกก้อนโต

นโยบายกัญชาเสรี ที่พรรคภูมิใจไทยริเริ่มเป็นเจ้าแรก วันนี้พรรคการเมืองอื่นๆ ต่างสมาทานนโยบายกัญชาเสรีส่งเสริมกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของไทย

ทุกพรรคชูนโยบายกัญชาเสรีกันอย่างพร้อมเพรียง

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำอีกครั้งว่าศึกเลือกตั้งใหญ่ครั้งนี้ ทุกพรรคชูนโยบายประชานิยมสุดลิ่มทิ่มประตู

แข่งกันเสนอนโยบายประชานิยมว่าใครจะกล้าแจกฟรีมากกว่ากัน

โดยไม่คำนึงว่าจะหาเงินอัดฉีดจากไหนไปประเคนแจกฟรีได้ครบทุกโครงการ

ซึ่งต้องใช้งบอัดฉีดมากมโหฬารหลายแสนล้านบาทต่อปี

ไม่กี่วันก่อน นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ออกมาเตือนสติพรรคการเมือง ให้หยุดแข่งขันเสนอนโยบายรัฐสวัสดิการแจกฟรีไม่บันยะบันยัง

เพราะงบประมาณรายจ่ายประเทศแต่ละปีมีจำนวนจำกัด

มีงบสำหรับใช้ด้านรัฐสวัสดิการแจกฟรีไม่เกินปีละ 1 แสนล้านบาทโดยประมาณ

หากตะบี้ตะบันแจกฟรีไร้ขีดจำกัด อาจกระทบต่อรายได้ของรัฐบาล กระทบต่อวินัยการเงินการคลัง

“แม่ลูกจันทร์” ยํ้าว่าขณะนี้ยอดหนี้สาธารณะหรือหนี้รัฐบาลเมื่อสิ้นปี 2561 บานทะโร่ไปถึง 6.83 ล้านล้านบาท

ใกล้จะทะลุเพดาน 7 ล้านล้านบาทเข้าไปเต็มทน

คาดว่าหลังเลือกตั้งไม่ว่าพรรคไหนเป็นรัฐบาลจะต้องเดือดร้อนจากนโยบายแจกฟรีสารพัดโครงการที่หาเสียงไว้บานตะไท

เพราะรายได้จากภาษีจากประชาชนไม่เพียงพอกับรายจ่ายมหาศาลจากโครงการประชานิยมรัฐสวัสดิการอย่างแน่นอน

สุดท้าย...อาจต้องขึ้นภาษีแวตแก้ขัดหนักขัดเบา

ไม่เชื่อก็คอยดู.

“แม่ลูกจันทร์”

ไม่มีความคิดเห็น: