ศึกเลือกตั้งครั้งนี้จะออกมาอย่างไร??
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญการทำโพลยังมึนตึ้บไปตามๆกัน
เพราะเป็นการเลือกตั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบ 8 ปี
เพราะมีประชาชนแห่ไปใช้สิทธิมากเป็นประวัติการณ์
เพราะมีคนรุ่นใหม่ (อายุ 18 ถึง 25 ปี) จะใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรกกว่า 7 ล้านคน
ใครที่คิดว่าคนรุ่นเปิดซิงจะถูกชักจูงได้ง่ายที่สุด
ปรากฏว่าคาดผิดเต็มเปา!!
เอาเข้าจริง กลุ่มคนรุ่นใหม่ มีความเชื่อมั่นตัวเองสูง ถ้าชื่นชอบพรรคไหนจะเทคะแนนเสียงให้พรรคนั้น โดยไม่มีการลังเล หรือเปลี่ยนใจ
ส่วน “กลุ่มวัยกลางคน” ที่กำลังดิ้นรนทำมาหากิน การจะตัดสินใจเลือกพรรคไหน ต้องพิจารณานโยบายแก้เศรษฐกิจเป็นสำคัญ
ถ้าหลายพรรคนโยบายคล้ายกัน จะเลือกพรรคที่เชื่อว่าจะทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้จริง
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า “กลุ่มคนรุ่นเก่า” (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ซึ่งมีจำนวนกว่า 10 ล้านคน จึงกลายเป็นเป้าใหญ่ที่พรรคการเมืองต้องแย่งชิงคะแนนเสียงกันสุดลิ่มทิ่มประตู
สูตรสำเร็จที่ทุกพรรคการเมืองใช้ดึงดูดคะแนนเสียงจากกลุ่มคนสูงวัย
คือ...นโยบายเพิ่มเบี้ยยังชีพคนชรา
เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จาก 600 บาท เป็น 1,000 บาทต่อเดือน
บางพรรคจะเพิ่มเบี้ยยังชีพคนชรา จาก 600 บาท เป็น 1,800 บาทต่อเดือน เพิ่มพรวดเดียว 3 เท่าตัว
บางพรรคถึงขั้นประกาศจะเพิ่มเบี้ยคนชรา เป็น 2,000 บาทต่อเดือน
“แม่ลูกจันทร์” ในฐานะผู้สูงอายุที่จ่ายภาษีเงินได้บำรุงประเทศ
และไม่เคยใช้สิทธิรับเบี้ยยังชีพคนชราจากรัฐบาล
“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยและสนับสนุนนโยบายเพิ่มเบี้ยยังชีพคนชรา จากเดือนละ 600 บาท เป็นเดือนละ 1,000 บาท หรือมากกว่าเดือนละ 1,000 บาทก็ยิ่งดี
เพื่อให้ประชากรสูงอายุ ซึ่งไม่มีรายได้ ไม่มีเงินเก็บออม ไม่มีลูกหลานเลี้ยงดู สามารถดำรงชีวิตได้อย่างพอเพียง
แต่ “แม่ลูกจันทร์” ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลเอาเงินภาษีประชาชนไปหว่านแหแจกเบี้ยยังชีพคนชราที่ไม่มีฐานะยากจน
ปีที่แล้ว (2561) รัฐบาลใช้งบ 7 หมื่นล้านบาท อัดฉีดเบี้ยยังชีพคนชรา 8.4 ล้านคน
ปรากฏว่ามีคนชราที่มีฐานะยากจนจริงๆ เพียง 3.6 ล้านคน
ที่เหลืออีก 4.8 ล้านคน เป็นผู้สูงอายุที่ไม่ยากจน
ในจำนวนนี้มีกว่า 3 ล้านคน ที่มีฐานะมั่นคง มีรายได้พอเลี้ยงตัวอย่างสบาย
เท่ากับรัฐบาลใช้เงินภาษีประชาชนกว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อปี ไปแจกฟรีให้กับผู้สูงอายุที่ไม่ยากจน
ปัญหาน่าห่วงคือ ประชากรผู้สูงอายุของไทยเพิ่มขึ้นๆ กว่า 2 แสนคนต่อปี
ภาระรายจ่ายเบี้ยยังชีพคนชราจะเป็นปัญหาใหญ่ในระยะยาว
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าก่อนจะเพิ่มเบี้ยยังชีพคนชรา จาก 600 บาท เป็น 1,000 บาท หรือ 1,500 บาทต่อเดือน
ควรคัดกรองคนชราที่มีฐานะดีออกไปก่อน ให้เหลือแต่คนชราที่มีฐานะยากจนและเดือดร้อนจริงๆ
หากยังแจกเบี้ยยังชีพคนชราแบบเหวี่ยงแห แจกไม่เลือกใครจนใครรวยอย่างที่ทำกันในปัจจุบัน
ไม่ว่าพรรคไหนจะเป็นรัฐบาลก็ถังแตกแน่นอน
เตือนแล้วนะ...ไม่เชื่อก็ตามใจ.
“แม่ลูกจันทร์”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น