PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562

ล๊อคเป้าถล่ม

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. 350 เขตทั่วประเทศครบ 100% ไปแล้ว

ภาพรวมทั่วประเทศ มีผู้มาใช้สิทธิ 38,268,375 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 51,239,638 คน คิดเป็น
ร้อยละ 74.69 โดยมีจำนวนบัตรดี 35,532,645 ใบ หรือ 92.85% บัตรเสีย 2,130,327 ใบ หรือ 5.57% และมีบัตรที่ไม่เลือกผู้สมัคร 605,392 ใบ หรือ 1.58%

แถมมี “บัตรเขย่ง” ให้ฮือฮาโห่ฮิ้วอีก 9 ใบ!!!

ยังไม่รวมถึงประเด็นจำนวนผู้มาใช้สิทธิ กับจำนวนบัตรเลือกตั้ง ที่ปรากฏตัวเลขออกมาลักลั่นกันในระหว่างมีการรายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการแบบเรียลไทม์ ผ่านจอโทรทัศน์หลังปิดหีบลงคะแนน คืนวันที่ 24 มี.ค.

แถมตัวเลขสรุปผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 93% เปรียบเทียบกับการแถลงผลคะแนนครบ 100% จาก กกต. จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4.5 ล้านหัว

โดยพรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนนรวมทั้งประเทศ 8.4 ล้านคะแนน พรรคเพื่อไทย 7.9 ล้านคะแนน

กลายเป็นปมให้บรรดาฝ่ายที่ตั้งท่าจับผิด หยิบมาเป็นประเด็นขยายผลขยายแผล โจมตีการทำงานของ 7 เสือ กกต. ส่อไปในทางไม่โปร่งใส

ผนวกกับการทำงานบริหารจัดการเลือกตั้ง ทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต การเลือกตั้งล่วงหน้านอกราช-อาณาจักร ที่มีปัญหาขลุกขลักมาตลอดทาง

แถมยังโป๊ะแตกส่งท้าย กรณีปัญหาการส่งและรับบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จากประเทศนิวซีแลนด์กว่า 1,500 ใบ เกิดความล่าช้า ไม่ทันเวลานับคะแนน

จน กกต. ต้องพลิกตำรากฎหมายวินิจฉัย ใช้คำเท่ๆว่าเป็น “บัตรที่ไม่นำมา นับคะแนน” ให้งงเล่นซะอย่างงั้น ทั้งๆที่ภาษาชาวบ้านก็เรียกง่ายๆว่า “บัตรเสีย” นั่นแหละ

ด้วยปัญหาสารพันที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้ง แม้ กกต.จะขอโทษขอโพย ยอมรับความผิดพลาดในกระบวนการบางขั้นบางตอน

ที่เกิดจากตัวบุคคล และระบบรายงานผลมีปัญหารวนเป็นบางช่วง เพราะข้อมูลเข้ามาพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ชักแม่น้ำทั้งห้า อธิบายขั้นตอนการ รายงานผลคะแนนแบบเรียลไทม์ ผ่านระบบแรพพิดรีพอร์ต

และปัญหาอุปสรรคในการประมวลผล ที่อาจนำมาสู่ความคลาดเคลื่อนในการรายงานของสื่อมวลชน จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดในข้อมูลตัวเลขที่ออกมาไม่เสถียรกัน

แต่ก็ไม่อาจต้านกระแสโหมโจมตีจากโลกออนไลน์ สื่อโซเชียลมีเดีย ที่เฮโลสาระพาถล่ม กกต.กันสนุกมือ!!!

“พ่อลูกอิน” มองการทำงานของ กกต. ในสภาวะที่พรรคการเมืองต่อสู้แข่งขันช่วงชิงคะแนนเสียงกันอย่างเข้มข้น มีสถานะไม่ต่างจาก “ตกอยู่กลางเขาควาย”

พรรคการเมืองที่คิดว่าตัวเองเสียเปรียบจากกติกาที่เอื้อต่อพรรคคู่แข่ง ระแวงเรื่องความเป็นกลางของ กกต.

จึงใช้เกม “ตีปลาหน้าไซ” ใส่ชุดข้อมูลความคิดที่เป็นลบต่อ กกต.ผ่านโลกโซเชียล จุดประเด็นโกงเลือกตั้งนำร่องมาตั้งแต่เริ่มหาเสียง แฝงยุทธศาสตร์แยกคนให้เลือกข้าง

เมื่อ กกต.มีข้อผิดพลาด บวกกับผู้คนอินกับชุดความคิดที่เป็นลบ และกระแสเลือกข้าง กกต.เลยถูกรุมยำเละ

เป็น กกต.ในยุคนักการเมืองหาคะแนนด้วยการตอกลิ่มสร้างความ แตกแยก ก็สะบักสะบอมอย่างงี้แหละ!!!

“พ่อลูกอิน”

ไม่มีความคิดเห็น: