PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2562

สูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

สำนักงาน กกต.ยึดสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ทุกคะแนนมีค่า คาดไม่ต่ำกว่า 25 พรรคได้ ส.ส. - แค่ 3 หมื่นกว่าเสียงอาจได้เข้าสภา
ศูนย์ปฏิบัติการด้านการข่าว สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารชี้แจงกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับข้อสงสัยในการคำนวณจำนวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะมีวิธีการคำนวณอย่างไร 
(5/4/62)สำนักงาน กกต.ขอชี้แจงว่า สำนักงานฯ ได้นำวิธีการคำนวณจำนวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ที่ได้เสนอต่อคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นวิธีที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 128-129 ประกอบกับเจตนารมณ์ของระบบการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ที่ให้ความสำคัญกับคะแนนเสียงของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทุกคนมาเป็นแนวทางในการคำนวณจำนวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อในครั้งนี้
สำนักงาน กกต. ได้ปรึกษาหารือและนำเรียนกรรมการการเลือกตั้งแต่ละคนทราบเป็นเบื้องต้นแล้ว โดยตลอดมากรรมการการเลือกตั้งแต่ละคนมีข้อคิดเห็นเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ผลจากการคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ โดยใช้ข้อมูลจากการประกาศผลการนับคะแนนของทุกเขตเลือกตั้งมาคำนวณจำนวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อในเบื้องต้น มีพรรคการเมืองที่ได้รับการจัดสรรจำนวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อไม่น้อยกว่า 25 พรรคการเมือง
สำนักงานฯ ขอชี้แจงว่าเป็นเพียงการคำนวณโดยใช้ผลคะแนนรายเขตเลือกตั้งที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้แถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2562 หลังจากนี้หากผลจากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้สั่งให้มีการนับคะแนนใหม่ หรือสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่เสร็จสิ้นแล้ว ผลคะแนนรวมของพรรคการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงไปจะต้องนำคะแนนที่ได้รับมาใหม่ มาคำนวณด้วยวิธีการเดิมอีกครั้งหนึ่ง โดยการคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ จะดำเนินการได้เสร็จสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละ 95
ทั้งนี้การคำนวณด้วยวิธีการและเเนวคิดดังกล่าว อาจส่งผลให้พรรคเล็กที่ได้รับคะแนนเสียงน้อยกว่า 71,065 คะแนน ซึ่งเป็นเกณฑ์คะแนนของ ส.ส.พึงมีในการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้รับเลือกเข้าสภา ซึ่งที่ผ่านมามีนักวิชาการและนักการเมืองบางพรรคเห็นว่าไม่น่าจะถูกต้อง

ไม่มีความคิดเห็น: