PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

แบบฝึกหัดมิติการเมือง

การเมืองหลังการเลือกตั้ง ด้วยกฎกติการัฐธรรมนูญกำหนด จะบอกว่า “ประชาธิปไตยครึ่งใบ-เผด็จการครึ่งซีก” อะไรก็ช่าง วันนี้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. น่าจะได้รู้แล้ว

สั่งซ้าย บางทีก็ไม่ไปซ้าย สั่งขวา–พลิกซ้ายสวนทางกันเลยก็มี

เป็นบทเรียนแรกในโหมดประชาธิปไตยของว่าที่ผู้นำ

ประเดิมตั้งแต่แมตช์ฟอร์มทีมตั้งรัฐบาลของขั้วพรรคพลังประชารัฐ วุ่นฝุ่นตลบในห้วงต้นวสันตฤดู คิวที่ไม่พ้น “บิ๊กตู่” ต้องเข้ามาเคลียร์มาเคาะ อย่างที่หลุดปาก “จะดูการจัดคนจัดโผเอง”

เรื่องของเรื่อง หลังเห็นแรงกระเพื่อมภายในพรรคพลังประชารัฐ นั่งร้านสั่นสะเทือน “บิ๊กตู่” ต้องเปิดฟลอร์เล็ก ให้คีย์แมนแกนนำค่ายพลังประชารัฐ หยิบยกปัญหามากางพูดคุยกัน

สรุปคือ ในมิติการเมืองจะเล่นบท “พี่มีแต่ให้” อย่างเดียวไม่ได้

โฟกัสที่เก้าอี้ที่ปักหมุดต้องยึดไว้ในค่ายหลัก พปชร. นอกจากกลาโหม มหาดไทยแล้ว กระทรวงพาณิชย์–เกษตรฯ–คมนาคม ที่มีกระแสข่าวว่าพี่ใหญ่ ระดับผู้มากบารมีไปยอมรับการเจรจาการเมือง

ยกให้ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย เลือกหยิบชิ้นปลามันกันสะดวก

ที่สำคัญเก้าอี้ที่ส่อหลุดไป ล้วนเป็นเกรดเอบวก สำหรับปั่นงานปั่นเรตติ้งให้คนค่าย พปชร. ในพื้นที่ฐานเสียงทั่วประเทศ ถ้าไม่ให้ค่าเป็นแค่พรรคเฉพาะกิจ

3 กระทรวงหลัก กระทรวงยุทธศาสตร์ “ปล่อยไม่ได้”

เวทีรับฟังเลกเชอร์การเมืองจบลง ขมวดปมตามพาดหัวข่าว “3ป.ถอย ยอม 3 ส. เกลี่ยโผ”

ทั้งนายกฯ “ป.ปลา ประยุทธ์” ต่อด้วย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม รวมทั้ง “พี่รอง” อย่าง “ป.ป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย คล้อยตามเหตุผลที่แว่วดังมาจากปีก 3 ส. สามมิตร “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สมศักดิ์ เทพสุทิน”

ได้เวลาล้างโผเดิม เริ่มต้นเจรจา เกลี่ยเก้าอี้กันใหม่

เข้าสูตรเสียงแข็งคน พปชร. ทุกเงื่อนไขต้องดึงกลับเข้าฟลอร์คณะกรรมการบริหารพรรคตามระบบและเป็นหน้าที่ของ “อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรค–“สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เลขาธิการพรรค รวมไปถึงบิ๊กๆ 3 ส. แกนนำพรรค เป็นคณะตัวแทนอย่างเป็นทางการ

ทั้งในบทเถ้าแก่ ควบตัวแทนเจรจาเงื่อนไขเก้าอี้

เอาเป็นว่า เมื่อแรงกระเพื่อมใน พปชร.เคลียร์จบ แต่คิวการฟอร์มทีมจัดโผตั้งรัฐบาลก็ยังไม่สะเด็ดน้ำ โดยเฉพาะปมที่ว่า เก้าอี้เกรดเอบวกที่จ่อยึดคืน จะมีอะไรแลกเปลี่ยนการสู่ขอพรรคร่วมรัฐบาล

ทั้งกระทรวงพาณิชย์–เกษตรฯ เมื่อไม่ให้ แล้วจะเคลียร์กับประชาธิปัตย์อย่างไร หรือจะยืนกรานให้เท่าที่ให้ได้ เมื่อประชาธิปัตย์ได้เก้าอี้ใหญ่ นั่งประธานสภาฯไปแล้ว เช่นเดียวกัน เมื่อกระชากคมนาคมคืนจากภูมิใจไทย จะตอบแทนด้วยเก้าอี้ไหนถึงสมน้ำสมเนื้อ

โผ รมต.รอบใหม่ไม่ง่ายที่จะลงล็อก คิวโหวตนายกฯยังต้องลุ้นต้องเลื่อนไทม์ไลน์ไปจากวันที่ 4 มิ.ย.อีกหรือไม่

แต่ที่โยนปัญหากลับ แรงกระเพื่อมน่าจะพลิกถาโถมไปสู่พรรคประชาธิปัตย์ ที่เล่นเกมเขี้ยวไล่ขี่ พปชร. มาตลอด จนตอนนี้ต้องตั้งรับหมาก “เกมมา ก็เกมกลับ” ถูกลากจังหวะเล่นยาว

อีกทางฟาร์มงูเห่าก็เริ่มถูกแหย่ ขยายรอยร้าว ปชป.

โดยก่อนหน้านี้ ดุลอำนาจไหลไปสู่ขั้ว “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์–เฉลิมชัย ศรีอ่อน” หัวหน้า–เลขาธิการพรรค แท็กทีมภูมิใจไทยไปต่อสาย “ซุปเปอร์ดีลเมกเกอร์รัฐบาล” ในฐานบัญชาการบ้านสีขาวในรั้วทหาร

ขณะที่ก๊กผู้ปราชัย “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค–กรณ์ จาติกวณิช–ถาวร เสนเนียม” นิ่งดูเกมมาพักใหญ่ แถมมีกระแสข่าวยอมศิโรราบ ไปเลียบๆเคียงๆขอส่วนแบ่งแห่งความสามัคคี แพ็กค่าย 52 เสียงร่วมวงรัฐบาล

วันนี้ประชาธิปัตย์ส่วนแยก ฟื้นฤทธิ์อีกรอบ

เมื่อดีลเมกเกอร์ฝ่ายการเมือง พปชร. พลิกเกมสำเร็จ กลับมาให้ค่าให้ความสำคัญกรุ๊ปใหญ่พวงนี้

ปชป. ชุด “ของชัวร์” เทใจร่วมขั้ว พปชร. แต่ต้น ได้ลุ้นเก้าอี้งามๆ.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: