PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

หลังชนฝา

การเมืองก็เหมือนกล้วยปิ้ง ต้องพลิกไปพลิกมา ยิ่งยึดตำราไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร มันก็ยิ่งพลิกผันกันสนุก

ในห้วงที่รอรัฐพิธีเปิดรัฐสภา 24 พ.ค. เพื่อเดินหน้ากระบวนการเลือกประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และเลือกนายกรัฐมนตรี

แม้บรรดาเซียนการเมืองต่างฟันธงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้สะง่อมเก้าอี้นายกฯต่ออีกรอบ

เพราะมี ส.ว.250 เสียง อยู่ในมือ บวก ส.ส.ในขั้วพรรคพลังประชารัฐอีก 137 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา

การันตีเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ชัวร์ซะยิ่งกว่าชัวร์!!!

แต่สำหรับการเมืองขั้วตรงข้าม อย่างพรรคเพื่อไทย ที่ผนึกกับพรรคอนาคตใหม่ และพันธมิตรอีก 5 พรรค รวมแต้ม 245 เสียง เมื่อยังไม่ถึงวันโหวตเลือกนายกฯก็ยังมีความหวัง แม้จะริบหรี่เต็มทน

ด้วยเหตุนี้จึงได้เห็นอาการดิ้นสู้ ออกมาจากขั้วเพื่อไทย เป็นระลอกๆ ไล่ตั้งแต่การแสดงความใจกว้าง ประกาศยกเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

ล่อใจให้มาเอียงเอนมาผนึกกำลังกับฝั่งตัวเอง หวังสกัดเส้นทางการเป็นนายกฯของ “ลุงตู่”

แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์

แถมเมื่อพรรคประชาธิปัตย์มีมติเลือก จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ก็ยังมีการโยนหินถามทางอีกรอบ พร้อมข่าวลอยลมการตั้งขั้วที่ 3 ของพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์

ทำนองพร้อมยกเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ บัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป. เสนอออปชันล่อใจไปตามสถานการณ์

แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆอีกนั่นแหละ เพราะทั้ง อนุทิน และ จุรินทร์ ดึงเช็งรอประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการร่วมรัฐบาล ภายในสัปดาห์นี้ ก่อนมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา 24 พ.ค.

แล้วก็บังเอิญมีเหตุโป๊ะแตกขึ้นในขั้วพรรคเพื่อไทย แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

เมื่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดสมาชิกภาพ ส.ส.ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีถือหุ้นธุรกิจสื่ออยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง เข้าข่ายขาดคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.

ถ้าศาลรัฐธรรมนูญชี้ออกมาเป็นบวก ก็รอดตัวไป แต่ถ้าชี้ออกมาทางร้ายว่าขาดคุณสมบัติ หมดสมาชิกภาพ ก็ต้องตกจากเก้าอี้ ส.ส.ทันที

ทำให้ “ธนาธร” ต้องออกอาการวิ่งสู้ฟัด แบบหลังชนฝา เดินหน้าท้าชน ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ประกาศสถาปนาตัวเอง เป็นแกนนำจัดรัฐบาล ขอนั่งเก้าอี้ นายกรัฐมนตรี ของประเทศไทย ให้สะใจกันไปเลย

พร้อมวางแผนต่อสายพรรคภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา มาผนึกกำลังกับ 7 พรรคที่ลงสัตยาบันอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ร่วมจัดตั้งรัฐบาล หวังปิดสวิตช์ 250 ส.ว. ดับฝัน “ลุงตู่”

แต่งานนี้ บอกเลยว่ายากยิ่งกว่าเข็นรถสิบล้อขึ้นภูกระดึง เพราะคงไม่มีใครอยากเอาอนาคตมาเสี่ยงหนุนคน ที่มีแต้มไม่ชนะขาด ที่สำคัญยังไม่รู้ชะตากรรมว่าจะโดนเชือดตกเก้าอี้ ส.ส.หรือไม่???

ตั้งเป้าสูงหวังเป็นนายกฯประเทศไทย แต่สุดท้ายอาจเป็นได้แค่นายกสมาคมไร่ส้ม!!!!

“พ่อลูกอิน”

ไม่มีความคิดเห็น: