PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2562

เหนือกว่าดีลผู้มีอำนาจ


Share : 

“ปักหมุด” กระทรวงคมนาคม “บ่อน้ำมัน” ให้ฝ่ายค้านในสภานอกสภารอถล่มกันจะจะ

ตามปรากฏการณ์แบบที่นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เด็กปั้นค่าย “สามมิตร” โพสต์เฟซบุ๊กลอยๆกลางอากาศแบบแสบๆคันๆ

กระทรวงมีไว้ให้ทำงานเพื่อประชาชน ไม่ใช่มีไว้ให้เข้าไปหางานเพื่อบริษัท

ในจังหวะเบิ้ลมุกไล่หลัง “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เสี่ยใหญ่ยักษ์ก่อสร้างซิโนไทย โพสต์เฟซบุ๊ก “กระทรวงมีไว้ให้คนเข้าไปทำงาน ไม่ใช่มีไว้ให้มาเที่ยวแลกกันไป จบข่าว”

ชามข้าว “คมนาคม” ส่อล่อกันร้าวตั้งแต่ยังไม่เริ่มตั้งวงรัฐบาล

สถานการณ์เดียวกันกับลีลาของ “เดอะคึกรายวัน” นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ที่ตอนแรกแสดงจุดยืนรับไม่ได้กับการหนุน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตีตั๋วต่อนายกรัฐมนตรี แต่พอโหวตพลิกลิ้นหนุน ก็ประกาศย้ำแล้วย้ำอีกเป็นรอบที่ 10 กว่าๆ ประชาธิปัตย์ต้องได้คุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงพาณิชย์

ขู่ลั่นจากปักษ์ใต้มาเลย ถ้ายึกยักพร้อมถอนยวงร่วมรัฐบาล

ไม่เว้นแม้แต่อาการของทีม กปปส.อย่างนายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่ออกมาโพสต์ด่าคนในพรรคตัวเองต่อรองรัฐมนตรีจนน่าละอาย แถมถือหางพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ต่อรองโควตารัฐมนตรีเป็นเรื่องธรรมดา

เปิดไต๋ ยื้อก้างโควตา รมว.พลังงานไว้ให้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ พี่ใหญ่ทีม กปปส.ในพรรคพลังประชารัฐ ตีกันไม่ให้เอาเก้าอี้ รมว.พลังงานไปแลกกับกระทรวงคมนาคม

ต่างฝ่ายต่างปล่อยของ สำแดงฤทธิ์เดชข่มกันไปข่มกันมา

ว่ากันตามภาษา “นักเลงการเมือง” เสือเจ็บมันจะไม่ร้อง ถ้าร้องจะกลายเป็นตัวอื่นที่ไม่ใช่เสือ

ตามอาการของแต่ละก๊วนแต่ละค่ายที่ส่งเสียงโวยวายกันออกมา เชื่อเลยว่ามันสะท้อนลึกๆ ต่างฝ่ายต่างก็ไม่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองหวังไว้ ถึงต้องแสดงท่าทีโวยวายกันเจี๊ยวจ๊าว

โดยเงื่อนไขสถานการณ์ ไหลไปวัดใจ “นายกฯลุงตู่” คนเดียว

อย่างที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ ให้สัมภาษณ์นักข่าว พูดจากปากเจ้าตัวเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับการฟอร์ม ครม. ถือเป็นบทบาทหน้าที่ของ พล.อ.ประยุทธ์โดยตรง

พรรคการเมืองมีหน้าที่เสนอชื่อบุคลากรที่คิดว่าสมควรร่วม ครม.ให้นายกฯได้พิจารณา แต่การตัดสินใจทั้งหมดเป็นหน้าที่ของนายกฯที่จะดูทิศทางข้างหน้าเป็นอย่างไร เพราะประเทศต้องมีการขับเคลื่อน

“สมคิด” บรรจงชงลูกตะกร้อให้ “นายกฯลุงตู่” ฟาดหน้าเนต

ตามสถานะของนายกรัฐมนตรีอำนาจพิเศษ และว่าที่นายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้ง ผู้ถือความชอบธรรมในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดในการคุมทีมบริหาร มีสิทธิเคาะโต๊ะตั้งรัฐมนตรีเป็นด่านสุดท้าย

แบกความหวังคนทั้งประเทศในห้วงการเมืองเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ

ครม.จึงควรต้องออกมาหน้าตา “เกลี้ยงเกลา” ที่สุด ถ้าหวังตามรอยเส้นทางรัฐบุรุษ อดีตรัฐบาล “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ดึงศรัทธาสังคม ประคองเสียงปริ่มน้ำ

และว่ากันตามหลักการ จุดปัญหาคือกระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ ไม่ใช่แค่เก้าอี้หุ้มทองฝังเพชร แต่มันเป็นงานเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญมากๆของทีม “ลุงตู่” ในการเดินงานต่อเนื่องจาก 5 ปีที่ผ่านมา ปักหมุดลงเสาเข็มวางฐานกันมากว่า 60-70 เปอร์เซ็นต์แล้ว ตามแนวยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

ถ้าโยนไปให้พรรคร่วมรัฐบาล ความต่อเนื่องสะดุดแน่

และกัปตันทีมอย่างนายสมคิด ก็คงทำได้แค่แทะเม็ดกวยจี๊ไปวันๆ

ฉะนั้น แทนที่จะแจกมั่วๆล่อใจพรรคร่วม มันควรจะดึงมาเป็นโควตาตรงของนายกฯในการวางมืออาชีพบริหาร ตามความจำเป็นในแผนพัฒนาการทางเศรษฐกิจระยะยาวของประเทศ

เทียบกับการอ้างดีลผู้มีอำนาจ ต่อให้เป็น พล.อ.ประยุทธ์เอง ยังไม่สำคัญเท่าเลย

หรือถ้าพรรคร่วมยึกยัก ก็ยังดึงเช็งลากเกมตั้งรัฐมนตรีออกไปแบบไม่มีกำหนดตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ช็อตแรกถ้าเจอทางตันด่านแรกก็ลาออก ซาวเสียงกันใหม่ก็ยังมีแต้ม 250 ส.ว.บวกกับพรรคพลังประชารัฐและแนวร่วมเป็นฐานกลับมาได้ใหม่ และไพ่ตายใบสุดท้าย “ยุบสภา” ก็ยังได้เปรียบพรรคอื่นอยู่ดี

ดุลอำนาจอยู่ในมือเต็มๆขนาดนี้ ถ้ายังปล่อยให้โดนขี่คอกรรโชก

“ลุงตู่” ยังปล่อยเลยตามเลยยึดดีลเดิม ยัดคมนาคมให้ภูมิใจไทย โยนพาณิชย์ให้ประชาธิปัตย์ ตามโพยที่ปล่อยกันออกมาจองล่วงหน้า มีชื่อของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายนายเนวิน ชิดชอบ นั่งแท่น รมว.คมนาคม นายชาดา ไทยเศรษฐ์ นั่ง รมช.มหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน นั่ง รมว.เกษตรฯ

หน้าตา ครม.ใหม่ออกมาแบบที่ “สามล้อฮา ขี้ยาฮือ”

มันก็ห้ามไม่ได้ กับปมที่คนพลังประชารัฐชักระแวง “3 ป.” กับ “2 น.” ที่ “เหยียบตีนกันเล่น” มาตั้งแต่ต้น

เป็นเกมลึกสุดคลาสสิก หลอกใช้คนหามฟรี แต่ท้ายสุดก็จะหนีไม่พ้น คนฝ่ายหนุนพลิกเป็นฝ่ายโค่น

กองเชียร์จะพลิกเป็นกองแช่ง.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: