PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

คำตอบของโจทย์ป.2

“ข่าวโจ๊ก” แห่งปี ฮากันตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม

กับกระแส “นายใหญ่” อย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” ตัดสินใจ “ถอนตัว” จากยุทธภพ วางมือทางการเมือง ตามท้องเรื่องล้อกับการประกาศงดเปิดเส้นทางบินให้ลูกหาบแห่ไป “รับขนม” อวยพรวันเกิด 26 กรกฎาคมนี้

แต่ในอารมณ์ที่หักมุมกับข่าวลือ กระตุกอารมณ์ใจหายกองเชียร์

ตามอาการที่จับทางได้ ว่ากันตามสถานะ “ผู้ต้องหาหนีคดี” ของ “ทักษิณ” ในคดีทุจริตปล่อยกู้แบงก์กรุงไทยให้กลุ่มกฤษดามหานครที่โดนศาลอนุมัติหมายจับ กับสถานะ “จำเลย” ของ “เสี่ยโอ๊ค” นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดพิพากษาคดี “ฟอกเงิน” ในคดีต่อเนื่องกับพฤติการณ์โกงกู้กรุงไทย ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ปลายปีนี้

ผลทางคดีทุจริตปล่อยกู้กรุงไทย ใกล้ถึงจุดเดิมพันเป็นเดิมพันตายของ “ลูกชาย”

“นายใหญ่” ไม่มีทางหมอบรับชะตากรรมแน่

และมันก็คือคำตอบของ “โจทย์การเมืองระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2” กับปรากฏการณ์ที่ทำไม “ทักษิณ” ต้องกระตุก

“ลูกหาบ” ออกมา “ล็อกเป้า” รุมถล่ม “อุลตร้าอุตตม” นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าที่ “ขุนคลัง” รัฐบาล “ประยุทธ์ ภาค 2”

ประกาศจองกฐิน ลากขึ้นเขียงเชือด กะเอาให้ตายกันไปข้าง

รัวเกราะเคาะไม้ ตีปี๊บขู่กันตั้งแต่ไม่ทันประกาศ ครม.

นั่นก็เพราะต้องการ “เบลอกระแส” ลาก “อุตตม” มานัวเนียกับคดีทุจริตปล่อยกู้กรุงไทย เพื่อลดความชอบธรรม ดักคอดักทางกระบวนการยุติธรรม ตามฟอร์มประจานการเลือกปฏิบัติ

ยุทธการถนัด ปั่นภาพ 2 มาตรฐาน

แต่นั่นไม่เท่ากับอาการแค้นฝังหุ่นที่ “อุตตม” ในฐานะ “บอร์ดกรุงไทย” ที่ซัดทอด “ซุปเปอร์บอส” ผู้อยู่เบื้องหลังคำสั่งให้บอร์ดกรุงไทยอนุมัติปล่อยกู้คดีฉาว ทำให้ “ทักษิณ” ดิ้นไม่หลุด โดนลากเข้าติดแห และยังไม่ร้อน “ไฟสุมอก” เท่ากับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่าง “เสี่ยโอ๊ค” กำลังระทึก

มันพาลไปถึงอดีตคนกันเองอย่าง “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ลูกพี่ใหญ่ของ “อุตตม”

“นายใหญ่” เลยสั่งจัดหนัก กดปุ่มลูกหาบลุยเช็กบิล “อุตตม” กระแทก “สมคิด”

หวังปิดบัญชีอดีต “คนกันเอง” แบบทบต้นทบดอก

และอีกช็อตยังเป็นยุทธศาสตร์ที่มุ่งถล่มเป้าใหญ่ของรัฐบาล “ประยุทธ์ ภาค 2” เพราะ “อุตตม” คือรัฐมนตรีภาพพจน์ดีเบอร์ต้นๆของ ครม. ตามสถานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และขุนคลังคุมเงินประเทศ

นั่นเท่ากับถล่มห้องเครื่อง “เรือเหล็ก” กะให้หางเสือเป๋ตั้งแต่ต้น

แต่งานนี้ผิดคาด เพราะเวลา 4–5 ปีกับรัฐบาล “ประยุทธ์ ภาค 1” จนมาถึงเก้าอี้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ “อุตตม” ก็สะสมชั่วโมงบินทางการเมืองมาแกร่งพอตัว

ไม่ได้เป็นเทคโนแครตผิวบางไม่ทนแรงเสียดทาน อย่างที่ขู่กรรโชกกันง่ายๆ

ตามเกมยุทธ์อย่างที่เห็นว่าที่ “ขุนคลัง” แค่โพสต์เฟซบุ๊ก คดีทุจริตปล่อยกู้กรุงไทยในส่วนของตนเอง ผ่านกระบวนการตรวจสอบและพิสูจน์ชัดเจน ทั้งในส่วนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อัยการสูงสุด ป.ป.ช. คตส. โดยคดีสิ้นสุดที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

เรื่องจบก่อนที่ คสช.จะยึดอำนาจ จึงไม่เกี่ยวกับการใช้อำนาจแทรกแซงช่วยคดีแต่อย่างใด

เมื่อไม่ผิด อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อหวังผลทางการเมือง

ยึดผลทางกฎหมาย “อุตตม” ถือไพ่เหนือกว่า ในสายตาของคนเสพข้อมูลเชิงเหตุเชิงผล ไร้อคติแฝง

ไม่จำเป็นต้องลดเพดานบินลงมาให้เสียอาการทรงตัว

และตามรูปเกมที่เห็นอาการกระเหี้ยนกระหือรือของทีม “นายใหญ่” นายอุตตมน่าจะอ่านเกมขาด เพราะขนาดคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองยังไม่สน มีผลทางคดีไปแล้วก็ยังลากเอามาเขย่ากัน

นั่นก็เพราะทีมลูกหาบของนายใหญ่ สถานะฝ่ายค้าน ไม่ได้มีอะไรต้องรับผิดชอบ

พูดกันไปได้เรื่อยเปื่อยรายวัน เทกแอ็กชันเข้าตานายใหญ่

ต่างกับสถานะของนายอุตตมคือว่าที่ “ขุนคลัง” ห้องเครื่องของรัฐบาล “ประยุทธ์ ภาค 2” ถ้าหลงเหลี่ยมไปฟัดกับมวยวัดของทีม “นายใหญ่” ลากเข้าสกรัมในเกมมั่วๆคดีโกงปล่อยกู้กรุงไทย

หนีไม่พ้นกระทบเครดิต สถานะว่าที่ “ขุนคลัง”

เข้าทางพวกกำลังจนแต้ม จวนตัวเข้าไปทุกขณะ.

ทีมข่าวการเมือง


ไม่มีความคิดเห็น: