PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ทดสอบ “ประยุทธ์” เผชิญการเมืองป่วนเศรษฐกิจซ้ำ : ตั้งรับมรสุม คุมคอร์รัปชัน

18ส.ค.62


“สึนามิ” เศรษฐกิจจ่อพัดถล่มทั่วโลก

ตามสัญญาณร้าย “ดาวโจนส์” ร่วงกว่า 800 จุด ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทสหรัฐอเมริกาเผชิญภาวะช็อกตลาดตราสารเจอภาวะถดถอย ขณะที่ดัชนีเศรษฐกิจสิงคโปร์ที่ว่ากันว่าหรูสุดในเอเชียก็อ่วมหนัก จีดีพีไตรมาส 2 หดตัวจากไตรมาส 1 จากร้อยละ 1.2 เป็น-3.3 หรือกว่า 4 เปอร์เซ็นต์

นั่นก็ไม่ต้องพูดถึงตลาดหุ้นไทยที่นักวิเคราะห์คาดการณ์จะหลุดแนวรับ 1,600 จุด

ดัชนีความเชื่อมั่นลดฮวบฮาบทุกด้าน ทั้งหอการค้า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ความเชื่อมั่น ด้านอุตสาหกรรม ความเชื่อมั่นของนักลงทุน

โดนแรงกระแทก กระเด็นกระดอนตามๆกัน

ผลจากสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่แปรสภาพเป็น “สงครามการค้า” ระหว่างมหาอำนาจสหรัฐอเมริกากับพญามังกรจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดแนวรบด้านเศรษฐกิจถล่มกันอย่างหนัก

ส่อเค้างัดอาวุธหนักซัดกันด้วยสงครามค่าเงิน

เศรษฐกิจกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ “เผาจริง” ไม่ใช่ “เผาหลอก”

อันตราย “เหวนรก” รออยู่ข้างหน้า แต่กระแสการเมืองไทยยังวนไปวนมาอยู่กับปม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นำคณะรัฐมนตรีกล่าวคำถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ

เรือเหล็ก “ประยุทธ์ ภาค 2” กระแทก “หินโสโครก” ยังไม่ทันตั้งลำ

ตามเหลี่ยมที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ แห่กระแสไล่ต้อนไล่ล่า เดินหน้าตั้งกระทู้สดกดดันเค้นคอให้ พล.อ.ประยุทธ์ตอบในสภา

ตั้งแท่นจัดเวทีด่า ลากไปเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ

ประทับ “ตำหนิ” ให้เป็น “ตราบาป” ของทีม “ประยุทธ์ ภาค 2”

ในจังหวะที่ “บิ๊กตู่” ต้องอาศัยลีลา “เด้งเชือก” ออกตัวกรณีที่ไม่ไปตอบพรรคฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถามสดเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ

“การไม่ไปตอบกระทู้ไม่ใช่ไม่ให้เกียรติ แต่เรื่องเข้ากระบวนการแล้ว ขณะเรื่องอยู่ที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมีขั้นตอนและกระบวนการตามกฎหมายที่รัฐบาลต้องปฏิบัติต่อไป”

สรุปคือ รอคำตอบจากองค์กรอิสระก่อน

และตามกระบวนการขั้นตอน แนวโน้มสูงที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

ซึ่งนั่นจะถือเป็นไกด์ไลน์ เข็มทิศชี้ “ทางออก” ให้ “บิ๊กตู่” และรัฐบาลทำตามกระบวนการกฎหมาย อาจจะเดินหน้าบริหารต่อไป หรือนำ ครม.ถวายสัตย์ฯ ใหม่

ที่แน่ๆ “บิ๊กตู่” ไม่ถือวิสาสะ คิดเองเออเอง ไม่เสี่ยงกับปมปัญหาอ่อนไหว ตามเงื่อนไขสถานการณ์ลึกซึ้งเกินกว่าการที่นายกรัฐมนตรีแอ่นอกประกาศ “ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”

ขณะเดียวกัน ก็ต้องฝ่าวงล้อมเกมฝ่ายค้านต้อนเข้ามุมอับในสภา

ในสถานการณ์ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยกระดับเกมเขี้ยว แท็กทีมกันต้อนหน้าต้อนหลังผู้นำอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งยั่ว ยุ แหย่ ทดสอบจุดเดือดผู้นำ

โดยวิถีความชอบธรรมตามระบอบรัฐสภา

ลำพังการปะทะกับฝ่ายค้านและแนวต้านฝั่งตรงข้ามก็แทบไม่มีเวลาหายใจ ไม่วายทีม “นายกฯลุงตู่” ยังต้องมาเจอกับแรงกระเพื่อมภายในจากฝ่ายเดียวกัน

ตามธรรมชาติรัฐบาลผสมร้อยพ่อพันแม่เกือบ 20 พรรค

กับอาการยึกๆยักๆของพรรคเล็ก 1 ที่นั่ง 4-5 พรรค ที่มีหัวโจกอย่างนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อาศัยจังหวะที่นายกฯกำลังเป๋จากปมถวายสัตย์ฯ

เปิดเกมอาละวาดทวง “ค่าหนุน” รัฐบาล

อ้างทีมงานพลังประชารัฐไม่เห็นหัวพรรคเล็ก ไม่เห็นความสำคัญของพวก “ต่ำเอี่ยว”

ไม่ให้เกียรติร่วมแจมโควตา ครม. ไม่ทำตามคำขอมีส่วนร่วมแจมเกมอำนาจที่ยื่นไป

และสุดท้ายก็เป็นนายมงคลกิตติ์ที่จัดฉากแถลงข่าวใหญ่โต ถอนตัว “1 เสียง” ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ประกาศขอเป็นฝ่ายค้านอิสระยืนข้างประชาชน

ไม่สนเข้าสภามาได้เพราะสูตรปาร์ตี้ลิสต์พิสดาร

อาการแบบที่สังคมทั่วไปยังหมั่นไส้ กระแสกองเชียร์ “นายกฯลุงตู่” ยุให้เลิกคบตัวป่วนพาซวย “ตัดหางปล่อยวัด” หรือยุบสภาให้พวก “ต่ำเอี่ยว” หมดโอกาสซ่าไปเลย

อย่างไรก็ดี มันก็แค่รายของนายมงคลกิตติ์เสียงเดียวที่หายไป ตามฟอร์มที่เดาทางได้พรรค “ต่ำเอี่ยว” ที่เหลือทั้งหมดยังเลือกเกาะอยู่กับเอวของ “นายกฯลุงตู่”

และก็ได้รับการดูแล แชร์เก้าอี้ “เทกระโถน” ให้ตามสัดส่วน

โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดล่าสุด ได้มีมติแต่งตั้งข้าราชการการเมือง เลขานุการรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี ส่วนหนึ่งเป็นการจัดโควตาให้พรรคเล็ก

มีเอี่ยวในการแจมอำนาจบริหารและผลประโยชน์

นั่นก็ทำให้สถานการณ์ป่วนของขบวนการ “ต่ำเอี่ยว” เงียบไป แต่โดยเงื่อนไขสถานการณ์ที่ต่อเนื่องกัน มันก็ยังโยงไปถึงเกมสับเปลี่ยนอำนาจภายในพรรคพลังประชารัฐ กับปฏิบัติการของ “ขาใหญ่” ที่ใช้จังหวะการกระเพื่อมของพรรคเล็ก

อ้างเป็นการยกระดับการกระชับพื้นที่คุมเสถียรภาพรัฐบาล

ถึงคิวเปิดทางส่งเสลี่ยงหาม “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เข้ารับตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐอย่างเป็นทางการ

“พี่ใหญ่” ถอดยูนิฟอร์มทหาร สวมสูทนักการเมืองเต็มตัว

ท่ามกลางเสียงสะท้อน 2 ด้านจากน้องๆ ทางหนึ่งก็เป็นห่วงสุขภาพ พล.อ.ประวิตร มาเจอเกมเครียดๆของนักการเมืองอาชีพที่แสบกว่าทหารหลายเท่า จะเอาอยู่หรือไม่ แต่อีกทางก็เป็นเสียงยุของน้องๆสายที่จ้องโหนอำนาจ “พี่ป้อม” เป็นร่มไทรให้เกาะเกมอำนาจ

ไฟต์บังคับตามยุทธศาสตร์ “ปรับหางเสือ” ยึดพื้นที่การเมืองในพรรคพลังประชารัฐ ทดแทนพื้นที่อำนาจความมั่นคงที่ “บิ๊กตู่” ดึงเอาไปบัญชาการเอง

แน่นอน เบื้องต้นเสียง ส.ส.พลังประชารัฐขานรับเซ็งแซ่

รุมแห่ “พี่ใหญ่” มาคุมเกมในพรรค ตามสถานะคนคุมหัวจ่าย “ปั๊มสามทหาร” งานนี้ถือว่า ปัญหาการจับปูใส่กระด้งในพรรคพลังประชารัฐน่าจะสงบลงระดับหนึ่ง

เว้นแต่พวกขาใหญ่ที่จ้องอาศัยทางลัด ไม่มี ส.ส.ในมือ แต่แสดงตัวเป็นสายตรงพี่ใหญ่ เบียดแซงหัวหน้ากลุ่มก๊วนอื่นขึ้นแถวหน้าโดยอัตโนมัติ

ถึงจุดหนึ่งคงได้ฟัดกันวงแตก

ตามรูปการณ์ วิกฤติขัดแย้งทางการเมืองป่วน “ประยุทธ์ ภาค 2” ในทุกมิติ ทั้งเกมปะทะกับฝ่ายค้านในสภา ปัญหาแรงกระเพื่อมในรัฐบาลผสมร้อยพ่อพันแม่ แม้แต่รอยปริแยกภายในค่ายพลังประชารัฐ

เรียกว่าดีกรีบู๊ๆ ฟัดกันตลอดแบบรายวัน

บรรยากาศ “ปรองดอง” ถูกกลบหายไปในดงฝุ่นตลบอบอวล

โดยอาการที่นักการเมืองยังก้มหน้าก้มตาแย่งชิงอำนาจผลประโยชน์กันอย่างเมามัน

อันตราย เสี่ยงตายหมู่กันทั้งประเทศ

เพราะอย่างที่เห็น “สึนามิเศรษฐกิจ” เป็นเหวนรกอยู่เบื้องหน้า สัญญาณแบบที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ป่าวประกาศให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเตรียมตัวตั้งรับแรงกระแทก

“เผาจริง” ไม่ใช่ “เผาหลอก”

สอดรับกับข่าวร้ายๆ หุ้นดาวโจนส์สหรัฐฯ ดิ่งเหว เศรษฐกิจสิงคโปร์ที่ว่าแข็งแกร่งยังติดลบวูบ ตลาดหุ้นไทยแดงเถือกแนวโน้มหลุดมาอยู่ที่ 1,600 จุด

ถึงจุดที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเรียกนายสมคิด กับนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และหน่วยงานด้านเศรษฐกิจหารือด่วนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.7 แสนล้าน ที่ดันเข้า ครม.เศรษฐกิจ

เร่งอัดฉีดในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ กระตุ้นชีพจรเศรษฐกิจปลายปี

แต่นั่นก็ต้องระวังให้ดี ด้วยอาการเร่งรีบอัดฉีดรับมือสึนามิเศรษฐกิจ ไม่ทันระวังเสือหิว เสือโหย ตามรายการที่แต่ละกระทรวงเปิดโพย โชว์รายการใช้งบประมาณ

โดยเฉพาะกระทรวงเศรษฐกิจ พาณิชย์ เกษตรฯ คมนาคม ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับปากท้องชาวบ้าน การช่วยเหลือสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ รวมถึงการเร่งอัดเม็ดเงินลงทุนเมกะโปรเจกต์

ถ้าปล่อยให้เกิดการ “ทุจริต” งบกระตุ้นเศรษฐกิจ โดนสังคมจับได้ไล่ทัน

“เรือเหล็ก” ที่เต็มไปด้วยสนิมเนื้อใน มันจะไม่ใช่เผชิญแค่มรสุมสึนามิเศรษฐกิจ

แต่จะโดน “ตอร์ปิโด” คอร์รัปชันถล่มล่มทันที.

“ทีมการเมือง”


ไม่มีความคิดเห็น: