PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ชนวนเสี่ยงพันรอบตัว

17ส.ค.62


พลาดท่าเสียรังวัดซ้ำซาก

ตามปรากฏการณ์แพ้โหวตของฝั่งรัฐบาลต่อฝ่ายค้าน 2 สัปดาห์ติดๆ ระหว่างการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร

ภาวะเสียงปริ่มน้ำเริ่มส่งผล ฝ่ายรัฐบาลคอนโทรลเสียงกันไม่อยู่ มีทั้งการโหวตสวนให้อีกฝ่าย และการไม่อยู่ในห้องประชุมระหว่างการลงมติ

ต้องแก้ตัว โบ้ยเป็นเรื่องความผิดพลาดของระบบกระจายเสียงภายในห้องประชุมสภาฯที่ได้ยินไม่ทั่วถึงบริเวณรอบนอกห้องประชุม ทำให้ ส.ส.กลับไปลงมติไม่ทัน

ถึงขั้นประชดประชัน จะนำวิทยุทรานซิสเตอร์ไปติดตั้งบริเวณรอบนอกห้องประชุมให้ ส.ส.ทราบความเคลื่อนไหวในห้องประชุมจะได้กลับมาลงมติได้ทัน

โยนเป็นเรื่องความไม่พร้อมของอุปกรณ์และสถานที่ เป็นต้นเหตุให้รัฐบาลเสียหน้า

ทีมงาน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แก้เกมเสียงปริ่มน้ำไม่ตก คุมเสียงฝ่ายรัฐบาลไปในทิศทางเดียวกันไม่ได้

ในภาวะที่พรรคเล็กพรรคน้อยพากันเล่นบทเฮี้ยว ขู่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล หากไม่สมประโยชน์ทางการเมืองตามที่ต้องการ

พากันรุมทึ้งต่อรองตำแหน่งกรรมาธิการและเก้าอี้เล็กเก้าอี้น้อย ส่อเค้าเกิดแรงกระเพื่อมรอบใหม่ ตามฉากที่แกนนำพลังประชารัฐต้องไปเจรจาทำสัญญาใจกับ 9 พรรคเล็กจนลงตัว

แต่ก็ยังมีพรรคใหม่งอแงต่อเนื่อง อย่างที่เห็นอาการยึกยักของ นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ขู่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล หากรัฐบาลยังเดินหน้านโยบายโฉนดทองคำ

พรรคเล็กออกลายโก่งราคา ไม่เกรงใจ “ลุงตู่” กันแล้ว

นั่นก็เป็นไปตามธรรมชาติของรัฐบาลผสม 19 พรรคที่มาจากร้อยพ่อพันแม่ ปรับจูนยังไงก็ลงตัวกันลำบาก โดยเฉพาะในห้วงที่เสียงพรรคเล็กมีราคาค่างวด สำคัญยิ่งยวดต่อสถานะความอยู่รอดรัฐบาล

ขณะที่พรรคใหญ่ก็มีขาใหญ่หลายเจ้า ต้องคอยประสานผลประโยชน์แต่ละกลุ่มก๊วนให้ลงตัว

“บิ๊กตู่” ต้องรับบทหนัก เป็นฤาษีเลี้ยงลิงที่กำราบยังไงก็ยังไม่เชื่อง

นั่นก็เป็นที่มาของการใช้ตัวช่วยวีไอพีอย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ต้องมานั่งแท่นประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ

ติดแบรนด์ค่ายการเมืองเต็มตัว จัดระเบียบคนในพรรคไม่ให้แตกแถว และยังมีอำนาจเต็มไม้เต็มมือไปต่อรองกับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ไม่ต้องงุบงิบไปเจรจาในฐานะคนนอก

ถึงเวลา “พี่ใหญ่” ออกศึก เตรียมบัญชาการคุมงานใหญ่ทั้งการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 การอภิปรายไม่วางใจนายกรัฐมนตรี ที่มีความอยู่รอดของรัฐบาลเป็นเดิมพัน

รวมถึงศึกเฉพาะหน้าในคิวที่ 214 ส.ส.ฝ่ายค้านยื่นเรื่องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152

เน้นขยี้ปมการถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ

ชนวนเสี่ยงอายุขัยรัฐบาลรายล้อมอยู่รอบตัว ต้องตั้งท่ารับศึกการเมืองกันเต็มที่

ควบคู่ไปกับวาระเร่งด่วน การไขลานเศรษฐกิจไทย ตามคิวที่ “บิ๊กตู่” นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจนัดแรก

กำชับทีมเศรษฐกิจหาหนทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ภายใต้สงครามการค้าระหว่าง 2 ยักษ์ใหญ่ “สหรัฐอเมริกา-จีน” ที่กำลังก่อตัวเป็นสึนามิเศรษฐกิจ สะเทือนไปทั่วโลก

เลี่ยงไม่ได้ที่ประเทศไทยเจอหางเลข อย่างที่เห็นตัวเลขการส่งออกลดลงต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นนักลงทุนหดหาย ต้องเกาะติดสถานการณ์กันไม่คลาดสายตา

ในภาวะที่รัฐบาลเตรียมชง ครม.สัปดาห์หน้า อัดฉีดงบ 3 แสนล้านบาท ฟื้นเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปี

จัดแคมเปญการแจกเงินเที่ยวเมืองรองคนละ 1,000 บาท การเพิ่มเงินผู้ถือบัตรสวัสดิการรัฐคนละ 500 บาท การจ่ายเงินคนชราที่ถือบัตรคนจนอีกเดือนละ 500 บาท การจ่ายเงินช่วยเลี้ยงลูกแก่ผู้ถือบัตรโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯอีกเดือนละ 300 บาท

เหยียบคันเร่งมาตรการเร่งด่วน เพื่อมุ่งกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ และกระจายเม็ดเงินไปยังคนกลุ่มต่างๆให้ทั่วถึง

“ลุงตู่” จัดกระบวนทัพเต็มสูบ หวังถอดชนวนการเมืองและเศรษฐกิจให้ลุล่วง

หากปลดล็อกไม่ทัน เศรษฐกิจยิ่งทรุด แถมเสียงยังแกว่งมีหวังพังลูกเดียว.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: