PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2562

ตั้งบ.นำเที่ยวปี60! ธุรกิจ ‘ศรศาสตร์’ พี่ชายต่างแม่ ‘ธรรมนัส’ ในคำพิพากษาศาลออสเตรเลีย

"....นายศรศาสตร์ ระบุอีกว่า มารู้ตอนหลังว่า สาเหตุของการบุกค้นและจับกุม ทั้ง ๆ ที่ ไม่มีของกลางในห้อง เป็นเพราะมีนักค้ายาเสพติด 2 รายชาวออสเตรเลีย ให้การซัดทอดกับตำรวจ เหมือนกับพยายามยัดข้อหาให้คนไทย ซึ่งเป็นคนต่างแดน จะได้ไม่สามารถตอบโต้หรือชี้แจงอะไรได้ หลังจากถูกจับกุม ไม่พบของกลาง จึงไม่ได้มีการฟ้องคดี...."
PIC sornsard 11 9 62 11
สืบเนื่องจาก Sydney Morning Herald สื่อชื่อดังจากประเทศออสเตรเลีย และเว็บไซต์บีบีซีไทย (BBC Thai) รวมถึงสื่อไทยหลายสำนักเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับคดีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อปี 2536 โดยอ้างว่าเป็นช่วงที่ ร.อ.ธรรมนัส ใช้ชื่อว่า นายมนัส โบพรหม อายุ 37 ปี ถูกศาลที่ประเทศออสเตรเลีย ตัดสินจำคุก 6 ปี แต่นายมนัสรับสารภาพ คงโทษจำคุก 4 ปี และถูกปล่อยตัวออกมาในปี 2540 กรณีถูกกล่าวหาว่า มีส่วนรู้เห็นในการลักลอบนำเข้ายาเสพติดเข้าประเทศออสเตรเลีย
โดยในช่วงที่สำนักงานตำรวจกลางออสเตรเลียตั้งข้อหากับนายมนัส นั้น ได้ตั้งข้อหานายแซม คาลาบรีส นายมาริโอ คอนสแตนติโน และนายศรศาสตร์ เทียมทัศน์ อายุ 39 ปี ที่ถูกระบุว่าเป็นพี่ชายต่างมารดาของ ร.อ.ธรรมนัส ด้วย ทั้งนี้นายศรศาสตร์ ถูกศาลพิพากษาจำคุก 6 ปี แต่หลังจากรับโทษจำคุกครบ 4 ปี ได้รับการปล่อยตัว โดยศาลมีคำสั่งเนรเทศกลับไปยังประเทศไทยเช่นเดียวกับ ร.อ.ธรรมนัส (อ้างอิงข้อมูลส่วนนี้จาก บีบีซีไทย)
เบื้องต้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ออกมาชี้แจงความบริสุทธิ์ของตนเอง โดยยืนยันว่า ไม่เคยรับสารภาพตามที่สื่อเขียนถึง มีขบวนการจ้องดิสเครดิตตนเอง และขอเวลาทำงานรับใช้ประชาชน ไม่อยากพูดถึงเรื่องในอดีต (อ่านประกอบ : คำต่อคำ 'ธรรมนัส' แจงปมสื่อออสเตรเลียเสนอข่าวติดคุก 4 ปี มีโครงข่ายอยู่เบื้องหลัง?)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ปัจจุบันนายศรศาสตร์ เทียมทัศน์ ปรากฏชื่อเป็นกรรมการในธุรกิจนำเที่ยว ชื่อว่า บริษัท ลีโอ พาเลซ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2540 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 16 ซอยรามคำแหง 170 แยก 1 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. แจ้งประกอบธุรกิจ เป็นตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ให้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ
มีนายศรศาสตร์ เทียมทัศน์ และนายวีระศักดิ์ ศิริคูณ เป็นกรรมการ รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดแจ้งเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2560 มีนายศรศาสตร์ เทียมทัศน์ ถือ 980,000 หุ้น (98%) นายยุทธศักดิ์ เทียมทัศน์ 10,000 หุ้น (1%) และนายวีระศักดิ์ ศิริคูณ 10,000 หุ้น (1%) 
นับตั้งแต่ตั้งบริษัทในปี 2560 ไม่ได้มีการแจ้งงบการเงินแก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าแต่อย่างใด
อนึ่ง เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2562 กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ และเนชั่นทีวี เผยแพร่อ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายศรศาสตร์ เทียมทัศน์ ระบุว่าเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดประจำสถานทูตสหรัฐอเมริกา ถึงกรณีกล่าวหา ร.อ.ธรรมนัส ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการถูกจับกุม ระบุตอนหนึ่งว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2536 เดินทางไปเที่ยวออสเตรเลีย ด้วยความคิดถึงเพื่อนสนิท จึงชวน ร.อ.ธรรมนัส (ขณะนั้นใช้ชื่ออื่น และไม่ได้มียศร้อยเอก) ให้เดินทางไปเที่ยวออสเตรเลียด้วยกัน เพราะเขาไม่เคยมา เมื่อเดินทางไปถึงก็ไปรับที่สนามบินในซิดนีย์ เพื่อกลับมายังโรงแรมแห่งหนึ่ง (บันไดบีช) ซึ่งตั้งอยู่ในย่านคนดังของออสเตรเลีย แต่เมื่อไปถึงไม่เกิน 5 นาที มีคนเคาะประตูห้อง และเมื่อเปิดออกเป็นชายฉกรรจ์ 10 กว่าคนกรูเข้ามา ร.อ.ธรรมนัส คิดว่าเป็นคนร้ายเข้ามาปล้น โดยไม่ทราบว่าชายกลุ่มนี้คือตำรวจ เกิดการต่อสู้กันพักใหญ่ ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส แขนหัก ก่อนจะควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในซิดนีย์ พร้อมกับตั้งข้อหาว่า มียาเสพติดไว้ครอบครอง
นายศรศาสตร์ ระบุอีกว่า มารู้ตอนหลังว่า สาเหตุของการบุกค้นและจับกุม ทั้ง ๆ ที่ ไม่มีของกลางในห้อง เป็นเพราะมีนักค้ายาเสพติด 2 รายชาวออสเตรเลีย ให้การซัดทอดกับตำรวจ เหมือนกับพยายามยัดข้อหาให้คนไทย ซึ่งเป็นคนต่างแดน จะได้ไม่สามารถตอบโต้หรือชี้แจงอะไรได้ หลังจากถูกจับกุม ไม่พบของกลาง จึงไม่ได้มีการฟ้องคดี แต่ระหว่างที่ตำรวจยังสืบสวนสอบสวนอยู่ ต้องอยู่ที่นั่นเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันว่าไม่ได้มีการติดคุก ตามที่มีการนำเสนอข่าวก่อนหน้านี้
นายศรศาสตร์ ระบุอีกว่า แต่ระหว่างที่ตำรวจยังสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม ต้องอยู่ที่นั่นเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันว่าไม่ได้ติดคุก ซ้ำทางการออสเตรเลียให้ไปช่วยดูแลเยาวชน คล้ายสถานพินิจและคุ้มครองเด็กฯในไทย โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้งานเป็นผู้จัดการบริษัทส่งกระดาษทิชชู่แห่งหนึ่ง เก็บเงินใช้กินอยู่สู้คดี ทำมาเรื่อย ๆ จนครบ 4 ปี สุดท้ายทางการออสเตรเลียหาหลักฐานอะไรไม่ได้ ตนและ ร.อ.ธรรมนัส จึงตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไทย ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการกลับเพราะถูกทางการไทยขอตัวกลับมารับโทษตามที่ปรากฎเป็นข่าว แต่ยอมรับว่าสำหรับตน หลังจากโดนเรื่องนี้แล้วก็ต้องออกจากราชการ (อ้างอิงข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: