PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556

นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกจิ้งจกสังหาร


(เกร็ดข่าว-การเมือง)


บุคคลซึ่งเคยเป็น"นักปฎิวัติ"สองครั้งสองครา และดำรงตำแหน่งชั้นหัวหน้าคนแรกในเมืองไทย เป็นหนึ่งในบรรดา"นักการเมืองต้นแบบ"คนซื่อ คนตรง ไม่มักใหญ่ใฝ่สูงในอำนาจ และเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่จนที่สุด..ที่แม้แต่เมื่อถึงแก่อนิจกรรมไปแล้ว แทบไม่มีเงินจัดงานศพให้สมยศสมเกียรติที่ตัวเองเคยมีมา..ในขณะที่เป็นบุคคลที่เหล่าบรรดานักการเมืองน้อยใหญ่เกรงใจให้ความเคารพ
บุคคลผู้นี้คือ"พล.อ.พระยาพหล พลหยุหเสนา(พจน์ พหลโยธิน) อดีตายกรัฐมนตรี

พระยาพหลฯ เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติครั้งแรกของเมืองไทยและประสบความสำเร็จโดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อ โดยเป็นหนึ่งใน"สามทหารเสือ"ที่ต่อมา"เสือ"คือสัญลักษณ์ประจำตัว และมีความหมายตามสุภาษิตว่า"ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ"

เมื่อปฎิวัติสำเร็จ ความไม่มักใหญ่ใฝ่สูง พระยาพหลไม่ยอมเป็นอะไรทั้งสิ้น และถูกลวงให้ลาออกจากตำแหน่งราชการทหาร แต่ต่อมาภายหลังต้องกลับมายอมรับเป็น"หัวหน้าทำการปฎิวัติ"รอบสอง หลังการทำครั้งแรกผ่านไปเพียงปีเศษ ครั้งหลังถูกคะยั้นคะยอให้รับตำแหน่ง"นายกรัฐมนตรี"เองเพื่อคุมสถานการณ์

เป็นนายกฯไม่กี่เดือน เกิดกบฎนองเลือด หรือ กบฎบวรเดช ชาติเสือต้องไว้ลาย พระยาพหล สั่งสู้ตาย จนได้รับชัยชนะ

ไม่นานก็เกิดเบื่อหน่ายการเมือง จึงลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่าต้องการพักผ่อน พล.ต.หลวงพิบูลสงคราม(จอมพล ป.พิบูลสงคราม) ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อมา โดยพระยาพหล
ไม่ยอมรับตำแหน่งใดๆ เพราะต้องการวางมืองทางการเมืองจริงๆ

กระทั่ง จอมพล ป. ลาออกจากนายกฯ หลังสงครามมหาเอเซียบูรพา นายควง อภัยวงศ์ เป็นนายกฯคนต่อไป

เมื่อมีข่าว จอมพล ป.จะยกทัพจาก ลพบุรี มายึดอำนาจรัฐบาล"ควง" เจ้าคุณพหลฯ จึงถูกเชิญไปเข้าร่วมคณะรัฐบาลกับ"นายควง"อีกครั้ง โดยเป็น"รัฐมนตรีลอย"เพราะทนอ้อนวอนไม่ได้ และเพื่อ

เห็นแก่ความสงบของบ้านเมือง แม้ขณะนั้น พระยาพหลฯ เริ่มป่วยเป็น"อัมพาต" แต่ด้วยความมีชื่อเสียงเป็นที่ยำเกรงต่อ"จอมพลป." นายควง จึงนำชื่อ พระยาพหลฯมาปลั๊ฟ "จอมพล ป."

อย่างไรก็ตาม ชีวิตบั้นปลายของ พระยาพหลฯคือนอนป่วยในบ้านพักราชการ เพราะไม่มีบ้านของตนเอง โดยอาศัยวังปารุสกวัน มาตลอดชีวิต และอาศัยเงินบำนาญเลี้ยงชีพ ไม่ยอมเกี่ยวข้องกับการค้า 
หรือไม่รายได้ทางอื่นๆ

เป็นที่น่าแปลกที่นักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ กลัวจิ้งจก เป็นที่สุด และในบั้นปลายชีวิต จิ้งจก นี่เองที่ทำให้ท่านถึงแก่กรรมเร็วกว่าที่คาดหมายกัน..เล่ากันว่า ปกติเจ้าคุณพหลฯต้องแช่น้ำร้อนในอ่าง เพื่อรักษาโรคอัมพาตให้บรรเทา วันหนึ่งขณะกำลังนอนแช่ในอ่างน้ำส่วนตัวที่พักวังปารุสกวัน บังเอิญ"จิ้งจก"ตัวหนึ่งได้หล่นมาจาเพดาน ตรงตัว เจ้าคุณพหลฯพอดี ด้วยความตกใจ ทำให้โรค
อัมพาตกำเริมหนัก จนในที่สุดไม่กี่วันต่อมาได้ถึงแก่กรรม

ไม่มีใครคิดว่า"จิ้งจก" ตัวเล็กๆตัวเดียวจะทำให้ชาย"ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ"ถึงแก่กรรม ซึ่งนี่คือ บทอวสาน ของนักการเมืองที่ถูกระบุว่า ใจซื่อมือสะอาดคนหนึ่งของเมืองไทย.

ไม่มีความคิดเห็น: