PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อุทธรณ์ยกฟ้อง "วัฒนา อัศวเหม" คดีลวงขายที่ดินคลองด่าน

ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง "วัฒนา อัศวเหม" คดีลวงขายที่ดิน 1,900 ล้านบาท ใช้สร้างบ่อบำบัดคลองด่าน เหตุไม่มีหลักฐานเข้ามาเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการคัดเลือกจัดซื้อจัดจ้างที่ศาลแขวงดุสิต

วันที่ 19 พ.ย. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 1. กิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี 2. บริษัทวิจิตรภัณฑ์ ก่อสร้าง 3. นายพิษณุ ชวนะนันท์ กรรมการบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง 4. บริษัทประยูรวิศว์การช่าง 5. นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กรรมการบริษัทประยูรวิศว์การช่าง 6. บริษัทสี่แสงการโยธา (1979) 7. นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการ บริษัทสี่แสงการโยธา 8. บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ 9. นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กรรมการบริษัทกรุงธนเอนยิเนียร์ 10. บริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ 11. นายรอย-อิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัทเกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ 12. บริษัท คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ 13. นายชาลี ชุตาภา กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ 14. นายประพาส ตีระสงกรานต์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ 15. นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ 16. บริษัท ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ 17. นางบุญศรี ปิ่นขยัน กรรมการบริษัท ปาล์ม บีชฯ 18. นายกว๊อกวา โอเยง สัญชาติฮ่องกง ในฐานะผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ และ 19. นายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย เป็นจำเลยที่ 1-19 ฐานฉ้อโกงขายที่ดิน อ.
คลองด่าน จ.สมุทรปราการ ในโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านเมื่อปี 2531-2533

คดีนี้โจทก์ฟ้องใจความว่า พวกจำเลย ได้ร่วมกันขอออกโฉนดที่ดินทับคลองและถนนสาธารณะโดยผิดกฎหมาย โดยนายวัฒนาร่วมดำเนินการจัดหาที่ดินดังกล่าว เมื่อโจทก์ประกวดราคาซื้อที่ดินโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ปรากฏว่าจำเลยที่ 12 ผ่านการคัดเลือก ต่อมาจำเลยที่ 12 เข้าทำสัญญาจะซื้อจะขาย แล้วพวกจำเลย สมรู้กัน ตั้งกิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี มาค้าขายกับโจทก์ เมื่อได้ชนะประมูลงานแล้ว ก็ยังได้เสนอต่อโจทก์ว่าจะจัดหาที่ดินเพื่อนำมาใช้เป็นที่ตั้งของโครงการดังกล่าว โดยเอาที่ดินของจำเลยที่ 12 มาเสนอขายแก่โจทก์ รวม 17 แปลง แต่มีเนื้อที่จริงเพียง 5 บางส่วนเป็นคลอง และออกโฉนดโดยมิชอบ เป็นเหตุให้โจทก์หลงเชื่อรับซื้อ และชำระเงินค่าที่ดินให้กับจำเลยที่ 12 ไปเป็นจำนวน 1,956,600,000 บาท แล้วจำเลยที่ 1-19 ได้นำเงินดังกล่าวไปแบ่งปันกัน เพื่อประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต

ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยที่ 3, 5, 7, 9, 11, 13, 14, 15, 17, 18 และจำเลยที่ 19 คนละ 3 ปี และปรับจำเลยที่ 2, 4, 6, 8, 10, 12 และ 16 รายละ 6 พันบาท จำเลยอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงหลายประเด็น ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า ที่จำเลยอ้างว่าศาลไม่มีอำนาจพิจารณา ศาลเห็นว่า คดีนี้เป็นการสอบสวนโดยพนักงานสอบสวนและฟ้องคดีอาญาที่มีโทษทางอาญาฐานฉ้อโกง จึงอยู่ในอำนาจของศาลแขวงดุสิตและศาลอุทธรณ์ไม่ได้อยู่ในอำนาจของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่จำเลยอ้างว่า ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจพิจารณาคดีซ้ำเพราะนายวัฒนารับ
โทษจำคุกฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบและถูกจำคุก 10 ปีนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นความผิดต่างกรรมต่างฐานกับคดีของศาลฎีกาฯ ดังนั้นศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิจารณาคดี

จึงมีประเด็นว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องหรือไม่ ศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าเมื่อระหว่างปี 37 ถึง 41 มีการประกวดราคาและมีผู้เสนอราคาตามขั้นตอน มีการเข้าทำสัญญาก่อสร้างโดยมีการก่อสร้างและดำเนินการ ไม่มีเจตนาทุจริตปกปิดข้อเท็จจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยประการให้โจทก์เสียทรัพย์สินทั้งไม่มีพยานโจทก์ยืนยันว่า นายวัฒนา ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการคัดเลือกจัดซื้อจัดจ้างอย่างไร และไม่มีหลักฐานอื่นที่จะฟังได้ว่าจำเลยอื่นผิดตามฟ้องโจทก์เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกงแล้ว คดีจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยในประเด็นอื่น เพราะไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนแปลงไป พิพากษายกฟ้อง

หลังฟังคำพิพากษาพวกจำเลยถึงกับเฮกันลั่น ก่อนแยกย้ายกันกลับ โดยนายวัฒนา อัศวเหม ไม่มาฟังคำพิพากษา เนื่องจากยังหลบหนีในคดีที่นายวัฒนาใช้อำนาจข่มขู่หรือชักจูงให้เจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดที่ดิน ซึ่งเป็นที่สงวนหวงห้าม เพื่อนำไปขายให้กรมควบคุมมลพิษ ก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ สมุทรปราการ และศาลแขวงดุสิตได้เพิกถอนหมายจับนายวัฒนาเฉพาะในคดีนี้แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น: