PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557

เสธน้ำเงิน : ไขปริศนา..ใครฆ่าเสธ แดง เตือนสติวงเวียนกรรมอาถรรพ์ หมุนเร็วจี๋

8 เม.ย.57 ไขปริศนา..ใครฆ่าเสธ แดง เตือนสติวงเวียนกรรมอาถรรพ์ หมุนเร็วจี๋
เมื่อวันที่ 5 เม.ย.57 มีผู้พบชายดูไบเดินกับการ์ดอีก 1 คน ที่สิงคโปร์ (ตามภาพ) ท่ามกลางกระแสข่าวว่า มาอยู่รอนักการเมืองใหญ่หญิงเครือญาติ ที่ท่าเอ๋อๆ ที่มีแผนจะบินไปพบช่วงสงกรานต์นี้ ช่วงนี้ถ้าใครสังเกตดู จะพบปรากฏการแปลกๆ วงเวียนกรรมอาถรรพ์แบบเหลือเชื่อเกิดขึ้นถี่และบ่อยมากเป็นพิเศษ เหมือนเป็นการเตือนสติอีกหลายคนที่พลาดพลั้งกลายเป็นทุยแดง แล้วกระทำผิดกฎหมาย หรือเข้าไปร่วมสนับสนุนกระทำผิดคิดร้ายต่อสถาบันเบื้องสูง ทำให้เกิดภัยร้ายกับทุยแดงจำนวนมาก ลองมาดูกรณีที่น่าสนใจดังนี้
1. เสธ.แดง มีการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธให้กับชายดูไบ ได้รับผลประโยชน์จำนวนมาก ห้าวหาญทำให้ลูกน้องรักมาก ช่วงชุมนุมเขามักไปหาคนแดนไกล ที่ดูไบ หรือเขมร พาพรรคพวกไปครั้งละหลายคน รวมทั้งนายพลป๊อบอาย และได้รับของกำนัลติดไม้ติดมือมาเสมอ บทบาทของเขาดังพุ่งพรวดพราด ในช่วงชุมนุมปี 53
ต่อมาแก๊งค์เลวแล้วรวย มีความอิจฉาริษยา เสธ แดง ที่ได้รับความไว้วางใจจากชายดูไบมากกว่า ไปหาแล้วยังถ่ายรูปมาเย้ยอีก แต่พวกตนเองต้องอยู่บนเวที เสี่ยงหัวเป็นรูทุกวัน ดังนั้นแก๊งค์เลวแล้วรวย จึงวางแผนถีบหัวส่ง เสธ.แดง ตลอดเวลา ความขัดแย้งจึงมากขึ้นโดยลำดับ ถึงขนาดประกาศเฉดหัวส่งกัน ทางสื่อมวลชนหลายครั้ง และยังมีการจิกหัวด่านายพลป๊อบอาย ผ่านสื่อ จนทนเด็กจิกหัวด่าไม่ไหวเพราะเป็นผู้ใหญ่ ต้องถอนตัวออกไป และบอกให้ เสธ.แดง ถอนตัวด้วย แต่เขาได้ให้คำมั่นกับชายดูไบไปแล้ว จึงไม่ยอมตระบัดสัตย์
ต่อมาแก๊งค์เลวแล้วรวย 3 คน เจรจายุติการชุมนุม กับนายกหล่อใหญ่ เพราะเริ่มอยากจะเลิกไปใช้เงินที่อมไว้ไปเสวยสุข จึงตกลงหลักการปรองดองกันได้บางข้อ เสธ.แดง รู้จึงโมโห บุกไปที่หลังเวที ขูว่าว่าถ้าแก๊งค์เลวแล้วรวยถอนตัว หรือออกจากที่ชุมนุมก็จะถูกเขาฆ่าทิ้ง ช่วงนั้นหัวหน้าการ์ดประจำตัวแก๊งค์เลวแล้วรวยคือ อารี เป็นคนชายชุดฟ้าฝ่ายเลว ที่สนิทกับชายดูไบ จัดส่งตรงมาช่วย ดูแลกองกำลังอีกกองหนึ่งที่ไม่ใช่ของ เสธ แดง ทำให้ทั้งเสธ แดง และ หัวหน้าการ์ดอีกชุด ทะเลาะกันถึงขั้นจะยิงกัน และลูกน้องของทั้งสองฝ่าย ก็ทะเลาะฟัดและยิงกันอย่างน้อย 2 ครั้งในสวนลุม
ทั้งสองกลุ่มขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ถึงขั้นแยกทางกันเดิน มีความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ ในเรื่องระบบการ์ด เมื่อเสธ.แดง นำระบบการ์ดของตนเอง เข้ามาจัดระบบรักษาความปลอดภัยบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ได้ก่อให้เกิดความไม่พอใจกับ อารี ที่เสียผลประโยชน์ ความขัดแย้ง ปะทุขึ้นจนถึงขีดสุด จนวีระ ได้ลาออกจากการเป็นแกนนำ และหายหน้าไปจากเวทีคนเสื้อแดง ขณะที่ เสธ.แดง ก็ประกาศตนยึดอำนาจ ชิงขึ้นเป็นแกนนำ นปช.รุ่นที่ 2
ช่วงท้ายการชุมนุมปี 53 แก๊งค์เลวแล้วรวย เห็นท่าไม่ดี จึงวางแผนกันโดยไม่มีวีระ ไม่ยอมให้ เสธ แดง มายึดอำนาจการนำมวลชน นปช. ประกอบกับต้องการโยนความผิดให้กับหล่อใหญ่ ว่าเป็นคนสั่งฆ่า และเคยออกมาเอ่ยชื่อ เสธ แดง ในรายการเชื่อมันประเทศไทย โดยแก๊งค์เลวแล้วรวย ประสานนักข่าวต่างประเทศให้ เสธแดง เพราะรู้ว่าเสธ แดงชอบเป็นข่าว แล้วใส้เดือนเต้นได้ว่าจ้างมือปืน รนณ์ จากนครศรีธรรมราช
ที่เป็นทีมเดียวกับลอบสังหารพลทหารชายชุดเขียว วันที่ 28 เมษายน ในเหตุการณ์ปะทะกับ เสื้อแดง บริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน ดอนเมือง และสังหาร ร่มเกล้า ที่สี่แยกคอกวัว โดยวางแผนหลายวันให้พยายาม ขึ้นไปอยู่บนตึกสูงแห่งหนึ่งใกล้แยกศาลาแดง เล็งยิงระยะไกลด้วยปืนไรเฟิลคุณภาพสูง
ราว 4 วันก่อนหน้าที่ เสธ.แดง จะถูกลอบยิง นายพลปีอบอาย ที่ เสธ.แดงให้ความเคารพ ได้เตือนให้เพิ่มความระมัดระวังตัว ต่อมาในช่วงค่ำวันพฤหัสที่ 13 พฤษภาคม 53 เสธ แดง ผู้ดวงขาดเขาเป็นคนไว้วางใจพวกเดียวกัน จึงได้ถูกกลลวงพวกเดียวกันเอง ไปยืนให้สัมภาษณ์นักข่าวต่างประเทศบริเวณแยกศาลาแดง เขาถูกยิงด้วยปืนไรเฟิลคุณภาพสูงเจาะเข้าที่หัว ตายในเวลาต่อมา
ดังนั้นหลัง เสธ แดง ตาย วันที่ 13 พ.ค. 53 นายพลป๊อบอาย และทีมงานสำคัญ ๆ ของ เสธ.แดง ได้ประชุมกัน ลงมติเป็นเอกฉันท์แล้วว่า เขาถูกฆ่าตายเพราะคนพวกเดียวกันสังหาร ดังนั้นแม้พวกแก๊งค์ยั้งยี่แดง จะพยายามป้ายสีความผิดผิดให้กับรัฐบาลสมัยนั้น แต่ก็ไม่สามารถตบตาหลอกลวงพวกกันได้ เพราะไก่ตีนงู งูเห็นนมไก่นั่นเอง พวกเขาจึงได้พากันประกาศ ถอนกำลังของทีมตัวเองที่จัดตั้งมากลับ ผลคือทำให้ทีมอื่นๆ โดยเฉพาะทีมอดีตทหารพราน ที่ขณะนั้นก็ได้รับการประสานงานจากฝ่ายความมั่นคง ที่ไม่สามารถทนเห็นการทำลายประเทศชาติแบบที่ทำกันอยู่ในขณะนี้ได้ ทีมนี้ก็ได้ถอนไปด้วย
จึงทำให้กองกำลังอาวุธของแก๊งค์เลวแล้วรวยร่อยหรอลง เป็นเหตุให้แก๊งค์เลวแล้วรวย มีการประกาศระดมรับสมัครการ์ด ทั้งที่ราชประสงค์ และที่ดินแดงตลอด โดยให้ค่าจ้างการ์ด วันละ 2,000 บาท พร้อมอาวุธสงคราม และมีกองกำลังเขมรจากฮวยเซ็งเข้ามาผสมโรงในช่วงนี้ จนเกิดเหตุการณ์บานปลายเผาเมือง ในปี 53 ต่อมาในวันที่ 19 พ.ค.53 นั่นเอง
ให้สังเกตได้ง่ายๆ ดูที่ใส้เดือนเต้น และคากคกตู่ จะไม่ค่อยอยากกล่าวถึงหรือตอบคำถามทุยแดงเรื่อง เสธ แดง เลยทั้งบนเวทีและแถลงข่าว เพราะกลัวความจริงจะเปิดเผยและควบคุมคำพูดหลุดไม่ได้ และให้ดูง่ายๆ การชุมนุมที่ถนนอักษะ แกนนำเลวรวยจึงไม่อยากใช้บริการการ์ด ของแรมบ้า และขวัญควาย นั่นก็เพราะระแวง กลัวว่าลูกน้อง เสธ แดง จะแฝงตัวจ้องมาเอาคืนแก้แค้นนั่นเอง จึงแทบไม่พบการ์ดการ์ดอีสานส่งมาร่วมเลย
แก๊งค์นี้จึงวางแผนกีดกันต่างๆ นาๆ ในรูปแบบให้อารี ฮุบค่าใช้จ่ายการ์ดไว้คนเดียว ไม่แบ่งแรมบ้า แต่จะแบ่งเงินค่าการ์ดให้เฉพาะพวกตัวเอง สายตัวเองเท่านั้น สายอื่นๆ เช่น เหนือ อีสาน อย่าหวังจะได้ส่วนแบ่งมาก คนสนิทการ์ดแบ่งแย่งดินแดน อพปช. แดงอีสานถึงกับพูดว่า
" มึงเก่งนักก็ทำเองก็แล้วกัน" ผลจึงออกมาดังที่เห็น..5 แสน จึงกลายแสนอับอาย
2. การตายเสื้อแดง หลายศพในวัดปทุมฯ ช่วงชุมนุมเผากรุงเทพฯ เดือน พ.ค.53 ที่การข่าวบ่งชี้ว่าถูกฆ่าตายโดยการ์ดชุดดำด้วยกันเอง เพราะการ์ดติดอาวุธพวกนี้เป็นลูกน้องภายใต้สังกัดของของ เสธ แดง เมื่อ เสธ แดง ถูกยิงตาย และชายชุดเขียวใช้รถหุ้มเกราะ รื้อด่านและสิ่งกีดขวางแก๊งค์อั้งยี่แดง มุ่งหน้าเข้าขอคืนพื้นที่ สู่แยกราชประสงค์ แก๊งค์นี้จึงจนแต้ม และถูกสั่งการให้สังหารคนเสื้อแดงที่เป็นพยาบาลอาสา และผู้ชุมนุมพวกเดียวกันเองทันที โดยการใช้อาวุธสงครามยิงเข้าใส่จากแนวระนาบ
การ์ดเสื้อแดงเองในภายหลังก็สารภาพว่า “ สถานการณ์เป็นรอง ต้องเสียสละคนของตนเอง เมื่อนายดูไบกลับมาจะตอบแทนให้คุ้มค่า “..นี่เอาเฉพาะเหตุการณ์วัดปทุม ที่คนเสื้อแดงดื้อ หลงเชื่อแกนนำเลวแล้วรวยหลอกลวง จนตกเป็นเหยื่อยิงหัวและตัวจนพรุน รับวงเวียนกรรมที่ตนเองก่อ ในการสนับสนุนแก๊งค์ที่คิดร้ายต่อสถาบันเบื้องสูง โดยอ้างคำว่าประชาธิปไตยบังหน้า
3. อ้วน บัวใหญ่ ที่เป็นเสื้อแดงกร่างฮาร์ดคอร์จากโคราช ช่วงปี 53 เป็นการ์ดให้แรมบ้า และเป็นแกนนำชุมนุมเผากรุงเทพฯ ต่อมาร่วมกับยัพเยิน สิงห์บุรี พาทุยแดงบุกโรงพยาบาลจุฬา จนคนไข้ตกใจจ้าละหวั่น จนต้องย้ายพระสังฆราชที่กำลังป่วยไป รพ.อื่น..บาปกรรมหนัก ต่อมาในวันที่ กีร์ อมฮอลล์ เล่นปาหี่ตะกายตึก กับชายชุดดำฝ่ายชั่ว ที่โรงแรมชายดูไบ ที่หลวงปู่ไปจองและได้เงินค่าเสียหายคืน ที่นนทบุรี (ที่ชายดูไบ ไปหลอกตบทรัพย์เขามา วงเงิน 250 ล้านบาท แลกกับตำแหน่งรัฐมนตรีค้าขาย)
อ้วน บัวใหญ่ ได้พา กี้ร์ ตะกายตึก แหกวงล้อมชายชุดดำฝ่ายชั่ว แต่บังเอิญแสดงบทโอเวอร์เกินเหตุ คือ ไปตบหน้าชายชุดดำนายพลโทคนหนึ่ง ต่อหน้ากล้อง TV โชว์กร่างคนไทยไปทั่วประเทศและหนีไปได้ ต่อมาอ้วน บัวใหญ่ ก็พาทุยแดงจำนวนหลายร้อย บุกบ้านนักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่โคราช โดยมีเป้าหมาย “เผาให้ราบ” ครั้นชายชุดดำโคราช ยกมาระงับเหตุ อ้วน บัวใหญ่ ก็ชักปืนจ่อที่หัวนายพลชายชุดดำคนหนึ่ง โชว์กร่างคนไทยทั้งประเทศอีก !!...
สองเดือนต่อมา คืนวันที่ 9 มิ.ย.53 ขณะที่ อ้วน ขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน โดยมีรุ่นน้องนั่งซ้อนท้ายมา มีรถกระบะสีดำขับเข้ามาตะโกนถามเส้นทาง อ้วน จึงวนรถกลับมาหา คนร้ายที่นั่งคู่คนขับได้ชักปืน 11มม. ออกมาจ่อยิงที่บริเวณหัว และลำตัวหลายนัด ทิ้งอยู่ข้างถนนเหมือนหมาขี้เรื้อน ผลการสืบสวนออกมาแนวว่า อ้วน ขนเอาทุยแดงโคราชไปร่วมชุมนุมที่ กทม.
เมื่อกลับมา อ้วน ได้ไปซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ 1 คัน เพื่อนๆ ก็มีการติดตามทวงเงินค่าหัวคิวแต่อ้วนไม่ให้ เกิดความไม่พอใจและเด็ดหัวเสีย ตอนสวดศพมีพวงหรีดจากแกนนำแก๊งคือั้งยี่แดง ส่งมาร่วมไว้อาลัยซึ่งมีเพียง 3 พวง วันเผาชายดูไบ โยนเศษเงินช่วยงานศพญาติเพียง 1.5 แสนบาทเท่านั้น..วงเวียนกรรมหมุนไปสู่อเวจี จนถึงบัดนี้ผ่านมาแล้วหลายปี ยังจับมือใครดมไม่ได้ ตายฟรีเหมือน เสธ แดง
4. แดง คชสาร เป็นแกนนำชุมนุมเผากรุงเทพฯ เป็นแกนนำทุยแดงรุ่น 2 แทนดีเจอ้อม ดีเจวิทยุชุมชนคลื่นรักเชียงใหม่ 51 ที่หนีไป มีชายฉกรรจ์ 5 คนใช้รถกระบวีโก้สีดำ ติดตามสะกดรอย แดง คชสาร ตลอดเวลาเป็นอาทิตย์ จนไม่อาจพักอาศัยที่หอพักได้ ต้องไปขอนอนตามปั้มน้ำมันที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เผื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขา จะได้มีคนเห็น แต่ก็ไม่รอดพ้นเงื้อมมือถูกยิงพรุนทั้งร่าง 18 รู และในตัวเขายาบ้าใส่ 7 เม็ด..และครอบครัวเขาก็ไม่ได้รับการดูแลใดๆ จากแก๊งค์อั้งยี่แดงตามฟอร์มเดิม..ตายฟรี วงเวียนกรรมหมุนไปอีกวง
5. เจมส์ กล้าหาญ การ์ดดีเจอ้อมชุมนุมเผากรุงเทพฯ คลื่นรักเชียงใหม่ 51 เมื่อวันที่ 29 ส.ค.53 ขณะที่ เจมส์ กับแฟนสาว เสร็จภารกิจขายของที่ถนนคนเดินขับรถกลับ ขณะที่มาถึงเขตติดต่อ อ.เมือง กับ อ.หางดง ได้มีรถเก๋งขับแซงซ้ายขึ้นมา ชายฉกรรจ์ในรถใช้อาวุธปืนสงครามปืนเอ็ม 16 ระดมยิงใส่ ถูก เจมส์ ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
6. น้ำหวาน อดีต พ.อ.อ.สังกัดหน่วยคอมมานโด เป็นการ์ดคนใกล้ชิดของใส้เดือนเต้น อารักขาอย่างใกล้ชิด ชุมนุมเผากรุงเทพฯ จนกระทั่งนาทีสุดท้ายในการชุมนุมเผากรุงเทพฯ ที่เวทีราชประสงค์ ที่ประกาศยุติการชุมนุม ต้องหลบหนีอย่างหัวซุกหัวซุน ขณะที่น้ำหวานขี่มอเตอร์ไซค์ บนถนนสายลำลูกกา-ธัญญบุรี บริเวณคลองเจ็ด จ.ปทุมธานี ถูกรถกระบะพุ่งชนกระดูกก้านคอหัก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าของคดีสรุปสำนวนว่าผู้ตายขับมอเตอร์ไซค์แฉลบเสียชีวิตเอง
7. สวาท ดวงมณี การด์แดงศรีสะเกษ ป็นผู้กว้างขวางคนหนึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออก ได้ก่อเหตุมาอย่างโชกโชนหลายคดี จนกระทั่งถูกจับคุมขังนับ 10 ปี และพ้นโทษมา ไปมีครอบครัว จ.ศรีสะเกษ ได้เป็นแกนนำเสื้อแดงระดับหมู่บ้าน พาไปร่วมชุมนุมเผากรุงเทพฯ หลังจากสลายการชุมนุม ได้เดินทางหลบหนี มาเยี่ยมญาติที่เขาชะเมา จ.ระยอง และเขาเคยฝากเพื่อนในพื้นที่ จ.ชลบุรี ขายที่ดินสมัยติดคุกอยู่ จึงเดินทางไปทวงเงินค่าฝากขายที่ดินกับเพื่อนที่ จ.จันทบุรี ต่อมาเมื่อ 10 มิถุนายน 53 เขาถูกฆ่าสังหารโดยใช้เชือกมัดมือไพล่หลัง และใช้ผ้าขาวม้าผูกคอจนเสียชีวิต แล้วนำศพมาทิ้งในพื้นที่ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี
8. ยืนยง แปน้อย เป็นการ์ดของกลุ่มแดง นปช. ที่ถูกส่งตัวเข้ามาช่วยคนเสื้อแดง ชุมนุมเผากรุงเทพฯ ที่เวทีราชประสงค์ในกรุงเทพฯ เมื่อครั้งการชุมนุม เผาเมืองปี 2553 ต่อมาเกิดการขัดแย้งผลประโยชน์ ภายในกลุ่มแกนนำ นปช. ที่ผู้ตายได้ไปล่วงรู้ความลับมากจนเกินไป ในการอมหัวคิวมหาศาลของแก๊งค์แดง นปช.
แกนนำเลวแล้วรวย จึงสั่งการ์ด นปช.ทั้งหมด 6 คน ร่วมกันอุ้มตัว นายยืนยง ไปที่บริเวณริมสระน้ำขนาดใหญ่ กลางสวนของ บ. เอฟพีที ในเส้นทางเข้าสู่หมู่บ้านดงไชยมัน ห่างจากถนนสาย ประจันตคาม-บ้านโคกขวาง ประมาณ 500 เมตร เขตพื้นที่รอยต่อระหว่างหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 10 บ้านโคกไข่เต่า ต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี แล้วจ่อยิงด้วยปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 7 นัด เข้าที่หัว 5 นัด ทางด้านหลัง 2 นัด ในตัวพกเครื่องรางของขลังติดตัว เป็นตะกรุด 1 เส้นยังเอาไม่อยู่..จนตอนเช้าในวันที่ 4 ต.ค.53 มีชาวบ้านพบกลายเป็นศพ ตรงนั้นเอง
นายทองสุก และนางสงวน แปน้อย ชาว จ.ขอนแก่น ที่เป็นพ่อ แม่ ของ ผู้ตายที่หายตัวไปอย่างลึกลับ กลางเวทีการชุมนุมของทุยแดง นปช. ไปร้องเรียนชายชุดดำ สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี โดยมีเพื่อการ์ด ที่เคยไปร่วมชุมนุม ปี 53 แต่ตอนนี้กลับใจแล้ว เดินทางไปเป็นพยานบุคคล เพื่อยืนยันว่าผู้ตายเป็นการ์ด นปช. จริง
9. แก๊งค์แดงใส้แตก เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 57 เกิดเหตุระเบิดบริเวณลานจอด สุเหร่าทรายกองดิน ซอยราษฎร์อุทิศ ระหว่างซอย 25-27 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ตาย 2 ราย คือ บุญเลื่อน ปินตา ชาว จ.แพร่ และเกรียงไกร ศิลป์อำนวย ชาว จ.ขอนแก่น สวมเสื้อยืดสีดำใส่กางเกงสีกรมท่าสวมรองเท้าคอมแบ็ทสีดำ ขับขี่รถ จยย.ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ สีดำ ออกมาจากบ้าน เพื่อทำการขนย้ายระเบิด ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย
ระเบิดเกิดกระทบเสียดสี และเกิดการตกหลุมเสียหลักล้ม เมื่อผ่านจุดเกิดเหตุระเบิดลูกแรกจึงทำงานดังสนั่นหวั่นไหว สภาพเหลวแหลก ใส้แตกทะลัก แขนขาขาดกระเด็นไปคนละทิศละทาง กระจัดกระจายทั่วบริเวณลาน ร่างกายฉีกขาด ยังใส่หมวกกันน๊อคอยู่ที่คอ และมี 1 ใน 2 คนนี้เป็นแก๊งค์อัดพระหน้า ป.ป.ช.
10. ชูชาติ พูลด้วง เป็นการ์ดของแดง นปช. ชาว จ.อุตรดิตถ์ เพิ่งจะเดินทางกลับจากการชุมนุมที่ถนนอักษะ แวะมานั่งดื่มเหล้าที่บ้านเพื่อน จ.สุโขทัย แล้วแยกย้ายกันไปช่วงเวลา 02.00 น. ถูกรถยนต์ขับชน ศพอยู่ในสภาพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงยีนส์ขายาว กะโหลกศีรษะถูกรถเหยียบแบน มันสมองกระจาย แขนขวาหัก ส่วนบริเวณหน้าท้อง และสะโพกถูกเหยียบจนไส้ทะลัก
มีสมาชิกส่งข้อมูลมาให้อีก ว่าเกิดอาเพศมันเป็นอาเพศจากวายุ ที่ บ้านซาด ต.เมืองบัว อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ที่เป็นถิ่นสนับสนุนแก๊งค์อั้งยี่แดง โดนพายุเข้าช่วงเย็น เพราะอยู่ดีๆ ฟ้าก็กลายเป็นสีแดง หลังคาบ้านหายไปกันทั้งหมู่บ้าน
วงเวียนกรรมมันหมุนมาหาคนเสื้อแดง ที่สนับสนุนแก๊งค์อั้งยี่แดงที่คิดจะล้มล้างราชวงศ์จักรี และทำลายบ้านเมืองแล้ว สงกรานต์นี้คนเสื้อแดงเดินทางถนนให้ระวังจงหนัก เพราะยมทูตจะมาเอาชีวิตคนที่เคยทำกรรมหนักกับชาติ ไปอีกอย่างน้อย 300 ศพ และเจ็บอีกหลายพัน ถ้าใครประสบเหตุนี้ด้วยตนเอง ญาติ เพื่อนฝูง คนรู้จัก ให้นึกถึงคำเตือนนี้เถิดว่า ลางร้ายมาเยือนแล้ว จงหลีกให้ห่างไกลจากแก๊งค์อั้งยี่แดงให้มากที่สุด หลังสงกรานต์แกนนำแดง เขานัดอะไรอย่าเฮไปตามเขา อย่าอยากได้กับเศษเงินค่าจ้างสกปรกชั่วช้าที่โกงชาติไป มันจะเป็นเหมือนไฟคำสาบเผาผลาญชีวิตทุกคนและลูกหลาน..ยอมอยู่ที่บ้านเกิด ดีกว่ากลับบ้านเก่า !!
ใครที่เชื่อ ยอมให้แกนนำหลอกมาอมหัวคิวอีกหลังสงกรานต์นี้ เตือนว่า งานนี้ชายดูไบ กำกับการแสดงเองอยู่ที่ประเทศสิงค์โปร์ สายข่าวรายงานว่าเขาสั่งการอย่างโหดเหี้ยมว่า “งานนี้ขอให้มีคนตายและเจ็บให้ได้มากที่สุด” โดยให้แก๊งค์โกเต๊ก แดง กวป. และแดงอิสระ ใช้ระเบิดแสวงเครื่องบอมที่ชุมนุมทุยแดงให้หนักที่สุด ให้ทุยแดงตายมากที่สุดได้ยิ่งดี เตือนล่วงหน้าแล้วนะ ใครมีญาติ มีเพื่อน ก็ให้รีบหาทางบอกต่อๆ กันไป จะได้ช่วยชีวิตทุยแดงที่ไม่มาร่วมได้อีกมาก ถือเป็นกุศลที่ได้ไถ่ชีวิตโค กระบือ ไป
แก๊งค์แบ่งแยกดินแดนแดง นปช.เป็นองค์กรรับจ้างจากชายดูไบ ไม่มีอิสระทางด้านความคิด บริหารจัดการประเทศไม่เป็น (ทุยแดงลองไปถาม รมต.ช.ค้าขาย ใส้เดือนเต้นว่า สต๊อคข้าวตอนนี้เหลืออยู่กี่ตัน และขายให้ที่ใดไปแล้วบ้างกี่ตัน, และใครจ้างฆ่า เสธ แดง..เอา 3 คำถามนี้พอ) แกนนำแต่ละคนมักง่าย ไร้ความรับผิดชอบ ไม่มีระเบียบวินัย มุ่งแต่จะกินเพียงค่าหัวคิวจากผู้ชุมนุม และการ์ด อย่างอื่นไม่สนใจ พูดจาโกหกหน้าด้านๆ แบบไร้ยางคากคก ขอเพียงได้อมเงินเข้ากระเป๋าตนเองก็พอใจ จิตใจอัมมหิตหลอกพวกเดียวกันเองมาฆ่าก็ยังทำ
แถวที่ชุมนุมถนนอักษะที่ผ่านมานั้นเป็นทุ่งนา นอกจากยุง และงู จะชุมมากแล้ว ตัวเงินตัวทองก็เยอะมากด้วย ดีนะที่ไม่ออกมากินสัตว์เลื้อยคลานคากคก ใส้เดือน เพราะเป็นพวกเดียวกัน..ฮา
“ หมายเหตุ ตรวจพบหลายเพจ ที่นำข้อความภาพ ส่วนหนึ่งส่วนใดของเนื้อหา ของเพจ แฉ ความลับ ไปโพสต่อ หรือแก้ไขดัดแปลง แจ้งล่วงหน้าว่าข้อมูลนั้นๆ อาจไม่เป็นปัจจุบันตรงกับต้นฉบับจริงในภายหลังได้ และเกิดความสับสนต่อสาธารณะชน ให้เข้าใจผิดในเนื้อหาที่นำไปนั้นๆ เพราะอาจมีการแก้ไขข้อความต้นฉบับจริงในภายหลัง ตามข้อมูลเพิ่มเติม หรือคำแนะนำที่สร้างสรรค์หลังการโพส จึงแนะนำว่าหากสนใจเนื้อหา ควรกดแชร์จากเพจต้นฉบับไปต่อจะป้องกันความความสับสนนั้นได้ และอ้างอิง เพจ แฉ..ความลับ @เสธ น้ำเงิน พร้อมลิ้งด้านล่าง
@เสธ น้ำเงิน
ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai


ไม่มีความคิดเห็น: