PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

โฆษก คสช.พบสื่อ ตปท. -ยังไม่ตอบเรื่องรูปแบบสภา ให้รอ 15 เดือนหลังปฏิรูปเสร็จ

โฆษก คสช.พบสื่อ ตปท. -ยังไม่ตอบเรื่องรูปแบบสภา ให้รอ 15 เดือนหลังปฏิรูปเสร็จ

โฆษก คสช. แถลงที่ FCCT ชี้สื่อต่างประเทศอาจจะยังไม่รู้จักหัวหน้า คสช. แต่ยืนยันว่าเป็นคนจริงใจ - ส่วนที่เรียกคนมารายงานตัวไม่ใช่ส่งเข้า "คุกมืด" แต่เป็นการเรียกมาพบเพื่อ "รับฟัง" ห้ามชูสามนิ้วเพื่อป้องกันความรุนแรง สังคมไทยต้องการความกลมเกลียว - สิ่งที่ทำไม่อยากให้เรียก "รัฐประหาร" แต่เป็นการเปลี่ยนรูปแบบการบริหาร-ขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า
พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก และทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
11 มิ.ย. 2557 - ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ถ.เพลินจิต ช่วงค่ำวันนี้ มีการเสวนาหัวข้อ "After The Coup--What Comes Next?" โดย พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก และโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดย พ.อ.วีรชน ซึ่งวันนี้ไม่ได้สวมเครื่องแบบทหารแต่มาในชุดสูทสากล ได้ชี้แจงสาเหตุการยึดอำนาจของ คสช. โดยยืนยันว่ากองทัพไม่ได้ทำลายประชาธิปไตย แต่ทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็งขึ้น กำลังพลในกองทัพเป็นผู้ได้รับการศึกษามาเป็นอย่างดี จึงสามารถเข้าใจความรู้สึกของนานาชาติ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสื่อมวลชนต่างประเทศอาจจะยังไม่รู้จักหัวหน้า คสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่เขานั้นเข้าใจดีว่า "ท่านเป็นผู้มีความจริงใจ"
ทั้งนี้โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติชี้แจงว่า การที่ คสช. เรียกบุคคลมารายงานตัวและมีขั้นตอนหลังจากนั้นที่เป็นการควบคุมตัวนั้น ไม่อยากให้สื่อมวลชนต่างประเทศเข้าใจว่าเป็น "คุกมืด" แต่สภาพของสถานที่ควบคุมตัวก็ไม่ถึงกับเป็น "ห้องแอร์" โดยสาเหตุของการเรียกคนมารายงานตัวนั้น "พวกเราเรียกเขามาพบ เพื่อรับฟังพวกเขา" โดยโฆษก คสช. ปฏิเสธด้วยว่าผู้ถูกเรียกมาควบคุมตัวไม่ใช่นักโทษการเมือง
พ.อ.วีรชน ยังได้ตอบคำถามสื่อมวลชนต่างประเทศ ซึ่งถามถึงสาเหตุที่มีประกาศของ คสช. ห้ามไม่ให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นทางการเมืองว่า เพื่อป้องกันไม่ใช่ประชาชนทะเลาะกัน
ต่อประเด็นเรื่องท่าทีของต่างประเทศนั้น พ.อ.วีรชนกล่าวว่า "แม้ว่าปฏิกิริยาของต่างประเทศบางประเทศจะรุนแรง แต่เราก็เข้าใจ เพราะว่าแต่ละประเทศก็มีระบบคุณค่าของตัวเอง มีเงื่อนไขทางการเมืองของตัวเอง และบางประเทศก็เกลียดคำว่า "Coup" ทำให้เราเองก็ไม่อยากจะใช้คำนี้เพราะสิ่งที่เราทำนั้นห่างไกลกับคำว่า "รัฐประหาร" เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงการบริหารประเทศเพื่อให้ประเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้"
ตอนหนึ่ง มีผู้สื่อข่าวนักข่าวชาวนอร์เวย์ถามว่า กองทัพอยากกลับไปเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์หรือเปล่า โฆษก คสช. ไม่ตอบคำถามดังกล่าวโดยตรง แต่ชี้แจงว่า การที่ทหารเข้ามา "แทรกแซง" ครั้งนี้เป็นไปเพื่อให้ประชาธิปไตยขับเคลื่อนได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ได้ต้องการหยุดยั้งระบอบประชาธิปไตย
จากนั้นมีผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมการชูสามนิ้วถึงไม่ได้รับอนุญาตให้ทำได้ พ.อ.วีรชนกล่าวว่า ต้องเข้าใจสถานการณ์ของทาง คสช. ด้วย เพราะว่ากิจกรรมนี้เกิดขึ้นในภาวะที่สังคมแตกแยก เรากำลังทำหน้าที่ในการสร้าง "ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน" และ "ความกลมเกลียวปรองดอง" และการชูสามนิ้วเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อการรักษากฎหมายและระเบียบ ดังนั้นมาตรการของ คสช. จึงเป็นยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องแล้ว เพราะ คสช. ต้องการป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรง
ในช่วงท้าย พ.อ.วีรชน ตอบตำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่า ที่มาของสมาชิกสภาหลังจากนี้จะมาจากการเลือกตั้งทั้งหมดหรือไม่นั้น โดย พ.อ.วีรชนตอบว่า "ให้คำตอบไม่ได้ ต้องมีการปฏิรูปก่อน และน่าจะได้คำตอบหลังจาก 15 เดือนไปแล้ว ขอให้อดทน"

ไม่มีความคิดเห็น: