PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557

ยุทธศาสตร์ 3 ป.

เอามาใช้งาน

โดย แม่ลูกจันทร์ 19 ก.ย. 2557 05:01 น.
http://www.thairath.co.th/content/451019

คลื่นลูกใหม่ไล่กระแทกคลื่นลูกเก่า แล้วคลื่นลูกเก่าก็ม้วนกลับไปไล่กระแทกคลื่นลูกใหม่
ทำให้คลื่นลูกใหม่กลายเป็นคลื่นลูกเก่าและคลื่นลูกเก่ากลายเป็นคลื่นลูกใหม่ วนเวียนเรื่อยไปไม่รู้จบ

“แม่ลูกจันทร์” จึงไม่แปลกใจที่มีชื่อ “ดร.ปณิธาน วัฒนายากร” คลื่น ลูกเก่าจากรัฐบาลอภิสิทธิ์ โผล่กลับมาเป็นที่ปรึกษารองนายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ไม่แปลกใจที่มีชื่อ “เสธ.ไก่อู” โฆษก ศอฉ.คนดังช่วงปราบม็อบเสื้อแดงกลับมาแจ้งเกิดใหม่ในฐานะรองโฆษกรัฐบาล

เพราะทั้ง 2 คนมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ตรงสเปกที่รัฐบาลจะจับใส่ตะกร้าล้างน้ำเอากลับมาใช้งานอีกครั้งหนึ่ง

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า ถึงเวลาที่สังคมไทยต้องก้าวข้ามความขัดแย้งเก่าๆไปก่อน

ถ้าเราเชื่อมั่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้นำปฏิรูปประเทศไทยไปสู่ความปรองดอง

ก็อย่าไปคิดเล็กคิดน้อย หรือคิดมากคิดมายกับใครบางคนที่ พล.อ.ประยุทธ์ เรียกมาใช้ทำงาน

เพราะแมวสีอะไรก็จับหนูได้เหมือนกัน

ยกเว้น แมวตายจับหนูไม่ได้ ต้องเอาไปฝังอย่างเดียว

“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยที่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้งสมาชิก คสช.ชุดใหม่เพิ่มเติม

จากเดิม คสช.มีเพียง หน.คสช. 1 คน, รอง หน.คสช. 4 คน และเลขาธิการ คสช.อีก 1 คน

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ดาวน์โหลดเพิ่มอีก 9 คน รวมเป็น 15 คน เต็มโควตาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ

เห็นด้วย เพราะสิ้นเดือนนี้ 5 แกนนำ คสช.จะเกษียณอายุราชการพร้อมกัน ทำให้อำนาจสั่งใช้กำลังเปลี่ยนไปขึ้นตรงกับ ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่ที่ผงาดขึ้นมาแทน

จึงเป็นการเหมาะสมที่จะดึงผู้นำเหล่าทัพรุ่นใหม่เข้าร่วมเป็นสมาชิก คสช.ครบเซตทั้ง 5 คน ได้แก่...

1, พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกลาโหมคนใหม่

2, พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผบ.สูงสุดคนใหม่

3, พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผบ.ทร.คนใหม่

4, พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผบ.ทอ.คนใหม่

5, พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.คนใหม่

เพื่อกระชับอำนาจ คสช.ให้แข็งโป๊กตลอดไป

อนึ่ง...เพื่อปรับบทบาท คสช.ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จึงแต่งตั้งสมาชิก คสช.พ่วงมาอีก 4 คน

1, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตประธานที่ปรึกษา คสช.เพื่อช่วยให้คำปรึกษาด้านการเมือง

2, พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รองผบ.สูงสุด และ รมว.ยุติธรรม ซึ่งเป็นมือขวาที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ให้ความสำคัญ

3, นายมีชัย ฤชุพันธุ์ กุนซือใหญ่ด้านกฎหมายที่เป็นเสือซุ่มมานาน ถึงเวลาต้องเปิดหน้าเล่นซะที

4, ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ซึ่งถูกวางตัวเป็นรองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ ควบตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ แต่ไม่มีโอกาสแสดงฝีมือ

“แม่ลูกจันทร์” เสียดาย ดร.สมคิด มือเศรษฐกิจระดับหัวกะทิของประเทศไทย ที่ไม่มีโอกาสเข้าไปทำงานให้รัฐบาลเต็มตัว

ดร.สมคิด เป็นรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะโดนนักเลงดีเขียนล็อกไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว...

ห้าม ผู้เคยถูกตัดสิทธิเลือกตั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

ถ้าไม่โดนคนกันเองเจาะยาง ดร.สมคิด จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

ไม่รู้ป่านนี้ ดร.สมคิด หายปวดตับหรือยัง??

"แม่ลูกจันทร์"
///////////
ยุทธศาสตร์ 3 ป.

โดย หมัดเหล็ก 19 ก.ย. 2557 05:01 น.
http://www.thairath.co.th/content/451047

นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลงยุทธศาสตร์ชาติ ของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เนื้อหา นอกจากจะเร่งคืนความสุขในทุกๆด้าน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคม วัฒนธรรม การเงินการคลัง ซึ่งจะเกิดขึ้นจากความร่วมมือของภาครัฐ เอกชนและประชาชน ที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่ ประชาคมอาเซียน ในปีหน้านี้ รวมทั้ง การปราบปรามทุจริตคอร์รัปชันทุกๆด้าน เน้นเรื่องของความเข้มแข็งด้านการศึกษา โดยมีค่านิยม 12 ประการเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา วิสัยทัศน์ของยุทธศาสตร์ชาติ ที่พล.อ.ประยุทธ์เน้นคือการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ที่จะต้องระดมสมองของคนไทยมาช่วยกันแก้ปัญหาทุกมิติ แต่ต้องปราศจากปัญหาทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่นการทุจริตคอร์รัปชัน ความขัดแย้งทางการเมือง หรือการกีดกันทางการค้า ซึ่งปัญหาพันกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคม

“วันนี้อย่าเพิ่งโทษว่า เป็นความผิดของใคร เราต้องเดินหน้า นโยบายนอกจาก ทำก่อน ทำจริง ทำทันที ยังมี 3 ป. คือ เป็นธรรม โปร่งใส และปรองดอง วันนี้ประเทศไทยมีทั้งวิกฤติและโอกาส แต่จะทำอย่างไรให้วิกฤติเป็นโอกาส”

โรดแม็ป ขั้นที่ 2 จะเป็นบทพิสูจน์ยุทธศาสตร์ชาติ 3 ป. เริ่มจาก การสรรหา สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ จากคณะกรรมการสรรหาด้านต่างๆจากจำนวน 550 คน ส่งให้ คสช.คัดให้เหลือ 173 คน

จากระดับจังหวัด อีก 77 คน รวมเป็น 250 คน ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ชี้เป็นชี้ตายอนาคตประเทศไทย

ก็หนีไม่พ้นที่จะยึดหลัก 3 ป.ที่ว่า และคงหนีไม่พ้น การตรวจสอบที่มาที่ไปและเจตนาของ สปช.ชุดนี้ ความเป็นธรรมก็ดี ความโปร่งใสและตรวจสอบได้ก็ดี หรือการปรองดองก็ดี จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสและยุติความขัดแย้งที่ผ่านมา

ดังนั้น คนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ สปช. จะต้องไม่เลือกข้าง ไม่มีอคติ กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หาก คสช.เลือกทางเดินที่จะเอา คนของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้ามาทำหน้าที่ สปช. ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของความขัด
แย้งทันที

และจะกระทบไปถึงโรดแม็ปในระยะที่ 2-3 ด้วย ถึงเวลานั้น คสช.จะอ้างอำนาจพิเศษใดๆก็ตามในการเข้ามาแก้ไขปัญหาขัดแย้งรอบใหม่ คงเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก

เพราะ เมื่อ คสช. ตั้งใจเข้ามาทำหน้าที่ คนกลาง ก็ต้องสร้างความไว้วางใจ ไม่เฉพาะขั้วอำนาจความขัดแย้ง แต่หมายถึง ความไว้วางใจจากประชาชน ส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่ใช่ข้างใดข้างหนึ่ง

นับจากนี้ไปจะเป็นก้าวย่างที่สำคัญ ที่จะเป็นบริบทไปสู่เป้าหมายของการ ยึดอำนาจ ว่าจะสูญเปล่าหรือไม่ และถ้าการยึดอำนาจ ต้องสูญเปล่า เพราะคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ก็ไม่ต่างจาก วิกฤติการเมืองในอดีต อนาคตประเทศไทยจะดิ่งลงเหวทันที.

หมัดเหล็ก

ไม่มีความคิดเห็น: